16 ม.ค. 2021 เวลา 02:30 • กีฬา
[ #น้ำผึ้งพระจันทร์อันแสนสั้น ]
ต้นปี 2007 แมวมองโซนยุโรปของแมนฯยูไนเต็ดส่งรายงานข้อมูลและคลิปวิดีโอบางส่วนของดาวรุ่งรายหนึ่งให้กับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน พิจารณา
เด็กคนนี้เป็นชาวโรมโดยกำเนิด เข้าสังกัดอะคาเดมี่ลาซิโอตั้งแต่ 10 ขวบ ก่อนพัฒนาตามลำดับตลอด 6 ปีและมีชื่อว่า เฟเดริโก้ มาเคด้า
โชคดีเลยทีเดียวที่กฎฟุตบอลลีกอิตาลีป้องกันไม่ให้นักเตะเยาวชนเซ็นสัญญาถาวร จนกว่าจะอายุครบ 18 ปี ดังนั้น เฟอร์กี้ เลยใช้ช่องว่างนี้ไปคว้าตัวมา
ครอบครัวของ มาเคด้า หรือ ที่คนใกล้ชิดเรียกกันคุ้นปากว่า กิโก้ เป็นตัวแทนช่วยดูแลเรื่องเงื่อนไขและข้อเสนอต่างๆจากทางฝั่งอังกฤษ ซึ่งพร้อมจะช่วยเหลือเต็มกำลังเช่นกัน
แม้จะรู้ว่าย้ายมาแล้วจะมีความเสี่ยงสูง อุปสรรคมีเพียบไปหมด ไม่ว่าจะเป็นสไตล์การเล่นแบบฟุตบอลอังกฤษ อากาศ อาหารต่างๆ แต่ในยุคนั้นลองถ้าทีมอย่างแมนฯยูไนเต็ดสนใจจริงๆ ก็ไม่ควรปฏิเสธเด็ดขาด
หลังฉลองวันเกิดครบรอบ 16 ปีได้ไม่เท่าไร กิโก้ และครอบครัวก็ยกทัพมาอาศัยย่านชานเมืองแมนเชสเตอร์ในช่วงพฤศจิกายน 2007 เพื่อจะได้สนับสนุนลูกชายอย่างเต็มที่
การเริ่มต้นซึ่งมาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงเต็มไปด้วยความทุลักทุเลยากลำบากไม่น้อยเลย แม้จะมีครอบครัวมาอยู่ใกล้ๆด้วย แต่ด้วยความที่สปีกอิงลิชได้เพียงเล็กน้อย การสื่อสารจึงมีปัญหามาก
กิโก้ ต้องทำความเข้าใจในสิ่งที่โค้ชทีมยู-18 สั่งมา ต้องหาคนมาช่วยเป็นล่ามให้หรือบางทีต้องใช้ภาษากายเข้าช่วย
จากฟอร์มที่ร้อนแรงตอนอยู่อิตาลี ปรากฎเจอเอฟเฟคต์ต่างๆเข้าไป ทำได้เพียงแค่ 1 ประตูเท่านั้นในฤดูกาลแรก คือซัดบาร์นสลี่ย์ได้ในเกมไปเยือน
อย่างไรก็ดี กิโก้ ไม่ใช่ประเภทยอมแพ้อะไรง่ายๆเลย ไม่มีทางหรอกจะมาถอดใจกับเรื่องเท่านี้ เขาจึงมุ่งมั่นเดินหน้าสานต่ออย่างเต็มที่
ผลผลิตจากการทำงานงานอย่างหนัก ช่วยให้จำนวนประตูมากขึ้นกว่าที่เคย รวมถึงมีบทบาทกับทีมยู-18 อย่างชัดเจน
เขากะซวก 12 ประตูจาก 21 เกมนำโด่งเป็นดาวซัลโวประจำทีม จากที่เคยโดดเดี่ยวตอนแรก เพื่อนฝูงหรือสต๊าฟฟ์โค้ชก็ยอมรับมากขึ้น
ภาาษอังกฤษก็เริ่มคล่องแคล่วมากยิ่งขึ้น สนทนาทำความเข้าใจได้ในระดับหนึ่ง อุปสรรคต่างๆถูกทำลายไปแล้ว ไม่มีอะไรจะมาหยุดยั้ง กิโก้ ได้อีก
กิโก้ คว้ารางวัลจิมมี่ เมอร์ฟี่ย์ อะคาเดมี่ เพลเยอร์ ออฟ เดอะ เยียร์ซึ่งมอบให้กับแข้งเยาวชนเจ๋งสุดของสโมสรในฤดูกาล 2008/09 ก่อนหน้าก็ได้ปีนรุ่นมีชื่ออยู่ในเกมนัดชิงแมนเชสเตอร์ ซีเนียร์คัพ แม้จะไม่ถูกเปลี่ยนตัวลงมาเล่นก็ตาม
1
กิโก้ มีชื่อเล่นในทีมสำรองหรือยู-23 อยู่บ้างประปราย นั่นหมายความว่าอยู่ในโฟกัสของโค้ชมาตลอด
ในเดือนมีนาคม 2009 กิโก้ ได้ลงเล่นให้ทีมสำรองเจอกับนิวคาสเซิ่ล ก่อนจะโชว์ความเฉียบคมเก่งกาจเกินวัย ตะบันแฮตทริกพาทีมเสมออย่างเร้าใจ 3-3
ไม่มีใครคิดว่าเกมดังกล่าว เฟอร์กี้ ได้ดูได้เห็นตัวเป็นๆกับตา จึงเกิดความประทับใจอย่างมาก
บังเอิญเหลือเกินเกมพรีเมียร์ลีกที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดต้อนรับการมาเยือนของแอสตัน วิลล่าในวันที่ 5 เมษายน ประสบปัญหาขาดผู้เล่นในแดนหน้าหลายคน
แกนหลักอย่าง เวย์น รูนี่ย และ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ซึ่งเคยจับคู่กันล่าตาข่ายเป็นประจำลงไม่ได้ นัดกันบาดเจ็บและติดโทษแบนอีก
กิโก้ เลยได้รับรางวัลตอบแทน ถูกใส่ชื่อไว้ในกลุ่มตัวสำรองด้วย แน่นอนว่ามันช่างน่าตื่นเต้นอย่างมากเลยทีเดียว
ก่อนจะมีการประกาศรายชื่อหนึ่งวัน มีข่าวลือในทำนองว่ากองหน้าดาวรุ่งสักคนจะมีชื่ออยู่ในเกมดังกล่าว โดยส่วนใหญ่แล้วพุ่งเป้ามาที่เขานั่นแหล่ะ เพราะเพิ่งปล่อยของในทีมสำรองมา
แต่ใครจะบ้าไปกล้าคิดไกลขนาดนั้น กิโก้ ได้แต่คุยกับเพื่อนที่กรุงโรม บอกแต่เพียงว่าให้คอยจับตาดูแล้วกันว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น
เขาแทบนอนไม่หลับ มันกระสับกระส่าย รอคอยด้วยความตื่นเต้นตามประสาวัยรุ่น กระทั่งแทบจะโดดตัวลอยด้วยความดีใจสุดชีวิต เมื่อเห็นชื่อถูกบรรจุไว้ในตัวสำรอง
คาร์ลอส เตเวซ ลงยืนประจำการเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมีทั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ นานี่ คอยช่วยคอง เช่นเดียวกับ ไรอัน กิ๊กส์ ร่วมสนับสนุนเป็นพี่ใหญ่ในแนวรุก
ปีศาจแดงออกนำก่อนตั้งแต่นาทีที่ 14 จาก โรนัลโด้ แต่ยิ่งเล่นนานมากเข้าส่อเค้าเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเข่นสิงห์ผยองแห่งมิดแลนด์ลงได้
1
เพราะอีก 15 นาทีถัดมา จอห์น คาริว หัวหอกร่างยักษ์ก็ทวงคืนกลับมาให้ผู้มาเยือนตีเสมอ 1-1
ครึ่งหลังแมนฯยูไนเต็ดโหมลุยหนัก เป้าหมายคือต้อง 3 แต้มสำหรับการไล่ล่าและป้องกันแชมป์
แต่ความผิดพลาดในการตั้งรับ รวมทั้งทีเด็ดสวนกลับของวิลล่าก็เล่นงานอย่างเจ็บปวด กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ ซัดให้นำ 2-1 เป็นครั้งแรกก่อนครบชั่วโมงแค่สองนาที
เฟอร์กี้ ฉุนเฉียวอย่างมาก ผุดลุกจากม้าสำรองไปยืนข้างสนามตะโกนสั่งการด้วยสีหน้าคร่ำเคร่งอันเป็นเอกลักษณ์
อีกไม่กี่นาทีถัดมา เฟอร์กี้ หันมาที่ข้างสนาม ส่งเสียงดังลั่นว่าให้ กิโก้ ไปวอร์มอัพซะ เตรียมตัวไว้เลย แต่ไอ้หนุ่มอิตาเลี่ยนทำหน้างุนงง เพราะใกล้ๆกันนั้นยังมี แดนนี่ เวลเบ็ค อีกคน
เขาจึงคิดว่าเจ้านายสั่งกองหน้ารุ่นพี่ แต่พอทำหน้ามึนเลยโดนตวาดออกมาดังลั่นว่า "แกนั่นแหล่ะ!" ถึงได้รีบลุกเปลี่ยนเครื่องแต่งตัว
ด้วยความตื่นสนามแบบสุดๆ เล่นต่อหน้ากองเชียร์เจ็ดหมื่นคน เสียงเชียร์ดังก้องกลบทุกอย่าง เขาเลยวิ่งไล่บอลแบบไม่คิดชีวิต พยายามทำงานหนักอย่างที่เคย
เข้าสู่ 10 นาทีสุดท้าย โรนัลโด้ ซัดไล่มา 2-2 ทำให้ยิ่งระทึกหนักกว่าเดิม ทุกอย่างรอบข้างเร่งเร้าเพื่อเอาประตูชัย
กิโก้ รู้ดีว่าคือหนึ่งในความหวัง นาทีสุดท้ายของการทดเวลากำลังจะมาถึง เขาไม่รู้หรอกว่าเหลืออีกนานแค่ไหน แต่พาตัวเองเข้าไปในกรอบเขตโทษ รับบอลจาก กิ๊กส์ แล้วเกี่ยวบอลให้เชื่องเท้า วินาทีนั้นเริ่มหมดแรงแล้ว ก่อนตัดสินใจพลิกตัวยิงบอลตามสัญชาตญาณ
เงยหน้าอีกทีเห็นลูกหนังถูกส่งจมก้นตาข่าย เขาจึงดีใจแทบคลั่ง มันคือโมเมนต์แห่งความมหัศจรรย์อย่างแท้จริง
กิโก้ ฉลองกับเพื่อนร่วมทีมจนลืมเหนื่อย ไม่คาดคิดมาก่อนว่าชีวิตราวเทพนิยายจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นนี้
ก่อนเกมเขายังคิดเล่นๆเลยว่า อยากให้ทีมตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ โดนยิงนำเพื่อจะได้รับโอกาส แต่ยังมี เวลเบ็ค ขวางอีกคน ใครจะไปเชื่อว่ามันเกิดขึ้นกับทีมอย่างปีศาจแดงในยุคนั้นได้
แม้ช่วงเวลาฮันนีมูนและโรแมนติกกับแมนฯยูไนเต็ดจะแสนสั้น แต่สำหรับ กิโก้ ไม่มีทางลืมเหตุการณ์สำคัญสุดในอาชีพค้าแข้งเลย
ไม่ผิดนักหากจะบอกว่าเขาล้มเหลวกับปีศาจแดง พร้อมทั้งได้ยินเสียงบ่นน่าเสียดายมากมาย ส่วนหนึ่งอาจมาจากพฤติกรรมบางอย่าง ทำให้เดินพลาด
อย่างไรก็ตามบทเรียนจากหลายๆครั้ง ช่วยให้ กิโก้ ซึ่งปัจจุบันนี้กำลังย่าง 30 ปีและเป็นแนวรุกตัวหลักของพานาธิไนกอสทีมดังกรีซ เข้าใจมากพอที่จะสรุปได้
เขาเองก็เสียดายเมื่อนึกย้อนไปในอดีตแล้วไม่อาจแก้ไขอะไรได้
แต่ในความเสียดาย มันถูกสอดไส้ไว้ด้วยความสุขเสมอ เมื่อนึกถึงวินาทีที่ตะบันประตูชัยให้ทีม ซึ่งมีส่วนช่วยให้ครองแชมป์ลีกอีกสมัย
แม้ตัวเขาจะไม่ได้เหรียญรางวัลมาคล้องคอก็ตาม
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา