16 ม.ค. 2021 เวลา 03:37 • ปรัชญา
บทเรียนชีวิต จากผู้สูงอายุที่หลงรักความสุข
วันนี้ปู่ก็อยากจะมาแชร์บทเรียนในชีวิตดีๆที่ทำให้คนสูงอายุแบบปู่มีความสุขและมีชีวิตแบบมีความหมายในทุกๆวัน คุณพ่อคุณแม่ใครที่อายุเยอะแล้ว เกษียนแล้วรู้สึกอ้างว้างลองอ่านและนำไปบอกต่อให้ท่านได้ลองปรับใช้ดูนะครับ ปู่คิดว่าดีมากๆสำหรับคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ที่ได้ฟังเรื่องราวนี้ ปู่พยามสรุปง่ายๆเป็น 5 หัวข้อให้แล้วดังนี้
1. ให้โดยมิหวังผลตอบแทน
ฟังดูโลกสวยนะครับ แต่ปู่ทำแบบนี้จริงๆ พอเกษียนมาจะรู้สึกอ้างว้างและไม่รู้จะทำอะไร เหมือนหมด passion ในชีวิตไปเลย ณ ช่วงนั้น ปู่เลยคิดที่จะพยายามช่วยผู้อื่นในเรื่องที่เราสามารถช่วยได้ให้ได้มากที่สุดในแต่ละวัน โดยมิหวังผลตอบแทน และเชื่อไหมว่าการกระทำเหล่านี้ กลับทำให้ปู่มีร่างกายที่แข็งแรง เพราะเดินวันหนึ่งมากกว่า 8,000 steps ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากๆและที่สำคัญการได้ยื่นมือช่วยเหลือผู้อื่นทำให้ใจเรามีสุขและเมื่อความสุขเกิดขึ้น ภายนอกเราก็สดใสและเป็นแสงสว่างให้คนอื่นด้วย สำหรับคนรุ่นเดอะอย่างปู่ (การช่วยเหลือคนอื่นโดยมิหวังผลตอบแทน แต่สุดท้ายผลตอบแทนที่เราได้คือความแข็งแรงของร่างกายและสุขภาพจิตที่ดี)
2. ปลาหมอตายเพราะปาก
คนสมัยก่อนหรือสมัยรุ่นพ่อรุ่นปู่ของปู่มักจะพูดประโยคนี้เสมอ และปู่ก็เชื่อจริงๆ คนเรายิ่งกินมากเท่าไหร่ยิ่งตายเร็วมากเท่านั้น เพราะส่วนที่เกินความจำเป็นของร่างกายส่งผลให้เกิดพิษ (แนะนำให้ไปฟัง podcast หมอแอม)
ปู่มาคิดได้ก็ตอนที่ร่างกายเริ่มไม่เหมือนเดิมเลยมาคิดได้ว่าเราอยากมีอายุที่ยื่นยาวและไม่อยากให้หมอได้เงิน 5555 ปู่เลยเลิกเป็นปลาหมอ แล้วก็ไม่ตามใจปาก ถึงแม้จะอยากกินของหวานๆ ของเค็มๆ ของแซ่บๆ ปู่เลือกกินผักและโปรตีนในเนื้อสัตว์เข่นปลาทะเลและปลาน้ำจืดหรือเต้าหู้ และอื่นๆแทน การกิน น้ำตาล ไขมัน หรือสิ่งที่จะเป็นพิษให้กับร่างกาย แต่นานๆทีก็มีตามใจปากบ้างนะครับ เพื่อให้เกิดความสมดุลในชีวิต แหละนี่คือเหตุผลที่ปู่อายุมากแต่ร่างกายยังฟิตปั๋งงง
3. ลงทุนกับตัวเอง
หลายๆคนโดยเฉพาะนักลงทุนมักจะเลือกลงทุนกับบริษัทดีๆมั่นคงมีอนาคต
เช่นเดียวกับปู่ ปู่อยากให้ตัวเองเป็นคนที่ดีพร้อมจึงปรับตัวให้ทันโลกตลอดเวลาเลยเลือกที่จะลงทุนกับตัวเองในเรื่องของความรู้ (กลัวตามวัยรุ่นไม่ทัน ไม่อยากเป็นคนแก่ที่หัวโบราณ) *old fashion หรือ Conservative และการลงทุนกับตัวเองที่ปู่เลือก คือ podcast และ content ปู่เปิดฟังหนังสือเสียงเวลาว่างๆเสมอหลับตาและปิดการมองเห็นและเลือกใช้หูในการรับฟัข้อมูลเพื่อให้สมองได้คิดตามและจดจำสิ่งต่างๆ ส่วนของเนื้อหาบทความปู่มักจะเปิด blockdit facebook บทความต่างประเทศเสมอและปู่มั่นใจว่าถ้าใครที่แก่ตัวไปแล้วยังคงทำแบบนี้ “คุณจะไม่มีวันแก่”
1
4. ขยับวันละนิด = ออกกำลังกาย
เชื่อไหมว่ามนุษย์อย่างเราๆเกิดมาเพื่อเคลื่อนไหว แต่คนในสมัยใหม่อย่างรุ่นหลานๆมีเครื่องมืออำนวยความสะดวกมากมาย เมื่อเทียบกับสมัยปู่ต้องปั่นจักรยานไปทำงาน แต่เดี๋ยวนี้มี มอไซ รถยนต์ เท่านั้นยังไม่พอทำงานโดยใช้คอมพิวเตอร์ นั่งอยู่ออฟฟิศนานๆจนบางคนเป็น office syndrome
ปวดคอ ปวดหลัง ปวดนู้นนี่ สรุปง่ายๆยิ่งคนเราเคลื่อนไหวน้อย ร่างกายยิ่งอ่อนแอ ปู่เลยพยายามขยับตัวเองอยู่เสมอ เดินแกว่งแขนขย่งปลายเท้าหายใจลึกๆถอนหายใจออกทางปากช้าๆ 100-200-500/ครั้งแบบสะสม (ขยัน ตามอารมณ์ 555) คือการบริหารร่างกายเรียบง่ายไม่ต้องมีอุปกาณ์ราคาแพง ที่ปู่ชอบมากที่สุด เดินออกไปดูต้นไม้ สูดอากาศ แกว่งแขนในระดับที่พอเหมาะ มันวิเศษจริงๆ โรคภัยไข้เจ็บ ไม่เคยไม่เคาะประตูหน้าบ้านปู่เลย
แม้ในขณะที่ปู่นั่ง ก็พยายามจะขยับขามือไม้นวดตนเองอยู่เสมอ มันดีจริงๆอยากให้ทุกคนนำไปบอกคุณพ่อคุณแม่
5. Mind set is everything
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ความคิดหรือกรอบทางความคิด (mindset)
ยิ่งเรารักษาความเรียบง่ายมากเท่าไหร่ ความพอเพียงในชีวิตหรือความสุขที่เราคาดหวังก็จะยิ่งสมบูรณ์แบบมากเท่านั้น จากสูงสุดสู่สามัญคือเรื่องจริงของชีวิต ดังนั้นจงมีความคิดที่ดี คิดบวก Positive thinking จะเป็นคีย์หลักๆของชีวิตที่จะช่วยให้เราผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากได้เป็นอย่างดีครับ
ขอบคุณที่อ่านกันจนมาถึงข้อสุดท้าย ยังไงบทความนี้ปู่ก็ตั้งใจเขียนด้วยประสบการณ์ที่มี หากชอบกันก็ฝากกดไลค์ แสดงความคิดเห็น หรือกดแชร์ไม่แช่ ให้ปู่ด้วยครับ หากใครอยากให้ปู่เขียนเรื่องอะไรเพิ่มเติม ว่าวบอกมาได้เลยไม่ต้องเขิล ปู่แถมอีกข้อ “Meditation is better than Medication”
#ปู่iou #บทเรียนชีวิต
โฆษณา