16 ม.ค. 2021 เวลา 09:32 • ความคิดเห็น
ถ้าคุณเคยเห็นของจริงดังในภาพข้างล่างเหล่านี้นั่นหมายความว่า คุณเดินทางมาไกลมากแล้ว อยากให้คุณรักษาสุขภาพตัวเอง เพื่อจะได้ไปต่อตามความปรารถนา
3
คนเราเผลอแค่แป๊บเดี๋ยว มาคิดดูดีๆ อ๋อทำไมเราเดินทางมาไกลขนาดนี้แล้วหรอเนี่ย ชีวิตของคนเราแต่ละคนก็เปรียบเสมือนการเดินทาง
ผ่านอะไรอะไรมาเยอะแยะ ทุกข์บ้างสุขบ้าง เหนื่อยบ้างสบายบ้าง ท้อบ้าง ร้องไห้บ้างหัวเราะบ้าง นี่แหละค่ะรสชาติของชีวิต
รสชาติของชีวิตก็เปรียบเสมือน การปรุงอาหาร ถ้าปรุงไม่ครบรสอาหารก็ไม่อร่อย นี่แหละค่ะชีวิตคนเราเกิดมาแค่ชาติเดี๋ยวเห็นคนอื่นเขาใส่อะไรเราก็อยากใส่
เห็นคนอื่นเขาได้อะไรเราก็อยากได้อยากมี อย่าไปทุกอย่างอยากไปทุกเรื่อง ที่จริงแล้วลองคิดดูดีๆสิคะ แม้ว่าได้มา แล้วก็มันจะมีประโยชน์อะไร ตายไปก็ไม่ได้อะไรไปเลย
แม่ก็ทางร่างกายของตนเอง หรือว่าเงินทองมากมายมหาศาล ก็ไม่สามารถเอาไปได้ซักบาทซักสตางค์ แล้วลองคิดดูดีๆสิคะดิ้นรนไปทำไม ถามว่าหยุดไหมไม่ดิ้นรน แต่ก็หยุดไม่ได้อยู่ดี
นี่แหละค่ะความโลภของมนุษย์ มนุษย์เรา คลอดออกจากท้องแม่มาก็มักจะกำมือแน่น เราต้องยึดถือทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ เราต้องครอบครอง ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ มันคือสัญลักษณ์
แห่งการยึดมั่นถือมั่น ถ้าตายไปแล้วสังเกตไหมคะคนเราจะแบมือออก แสดงว่าปล่อยว่างทุกอย่าง ไม่อยากได้อะไรเลย แม่อยากแค่ไหนก็เอาไปไม่ได้ นี่แหละค่ะชีวิตก็เปรียบเสมือนการเดินทาง
ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปผ่านอะไรไปเยอะแยะสุดท้ายมาสิ่งที่ติดตัวเราก็คือบุญกับบาป เราสามารถติดต่อได้ไปแค่ 2 สิ่งนี้
ถ้าติดบาปไปเยอะๆก็สามารถลงนรกถ้าติดบุญไปเยอะๆ ก็สามารถเคลื่อนสวรรค์ได้เท่านั้นเอง ถือว่าคนเราตั้งแต่เกิดออกจากท้องพ่อท้องแม่มาไม่มีใครอยากทำผิดหรอก
ที่เขาทำผิด เพราะว่าเขาต่อต้านความชั่วไม่ไหวแล้วไม่อาจฝืนชะตากรรม หรือว่าไม่อาจเข้มแข็งพอที่จะต่อสู้กับเจ้ากรรมนายเวรที่อยู่รอบตัวเราเอง
คนทุกคนบนโลกมนุษย์นี้ คู่ต่อสู้ของตนเองไม่ใช่มนุษย์ด้วยกัน เป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็นต่างหาก เพราะฉะนั้นมนุษย์เช่นกันก็อย่าได้แก่แย่งชิงดีกันเลย
เห็นทุกวันนี้เห็นข่าว การเมือง โอ้โหแม่เจ้าแย่งชิงกันไปก็เท่านั้น คิดดูสิคะมีประโยชน์อะไรแล้วได้ประโยชน์อะไร
เมื่อกี้เห็นลูกชายคนโต มองลูกชายแล้วรู้สึกว่าตนเองเริ่มแก่ลงแล้วหรอเนี่ย ทำไมคนนี้ลูกกูเองหรอ ทำไมโตขนาดนี้แล้วหรอ ทำไมเราเดินทางมาไกลขนาดนี้แล้วหรอ
รู้สึกว่ามีคำถามอะไรเกิดขึ้นมาเยอะแยะ อยู่คนเดียวก็แบบนี้ล่ะค่ะรู้สึกว่าความคิดมันจะเกิดขึ้นมาและอัตโนมัติเราจะห้ามมันไม่ไหว วันก่อนที่เข้าไปดูคลิปของพิมรี่พาย
ได้ยินคำๆหนึ่งที่ถูกใจมากๆ คนพิมรี่พายบอกว่า ต่อสู้กับอารมณ์ของกูก็แทบไม่ไหวอยู่แล้ว กูไม่อยากต่อสู้กับใคร คนเรามันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
คิดดูสิคะอารมณ์ของแต่ละคนบางวันดีบางวันได้ แต่เหมือนกันหรือเปล่าไม่รู้นะทำดับตัวดิฉันเอง บางวันก็เป็นนางฟ้า
อารมณ์แจ่มใส บางวันก็เป็นนางมารร้าย ค่อนข้างจะหงุดหงิด คนรอบข้างหรือคนอื่นพูดอะไรนิดๆหน่อยๆก็ขาดหูขัดตาไปหมด ทำให้ได้ข้อคิดขึ้นมา
นี่แหละน้ออารมณ์ของมนุษย์เราไม่ต้องต่อสู้กับใครต่อสู้กับใจตนเองก็แทบไม่ไหวอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นถ้าเรายึดมั่นถือมั่นน้อยลงแล้วรู้จักปล่อยวาง
รู้จักง่ายๆชีวิตก็จะมีความสุขมากขึ้น แต่ถามว่าทำได้ไหม มันยากค่ะมันยากจริงๆ อย่างเช่นเมื่อคืน เพื่อนสนิทของดิฉัน
แนะนำว่า เพื่อน เฮ้ยแก่มึงต้องปล่อยวางบ้างนะ ทุกสิ่งทุกอย่างต้องเป็นคนง่ายๆจะได้ไม่ทุกข์ ดิฉันก็ลองทำตามสิ่งที่เพื่อนแนะนำบางวันไม่จำเป็นต้องอาบน้ำก็ลองนอนดู แล้วมันจะหลับไหม
สุดท้ายมาไม่หลับค่ะเมื่อคืนลองทำตามที่เพื่อนแนะนำ ฟ้าเริ่มสว่าง นอนไม่ค่อยหลับเลยค่ะรู้สึกว่าไม่อาบน้ำจะเหนียวเนื้อเหนียวตัว เปิดแอร์แรงแค่ไหนก็รู้สึกหนาวเฉยๆมันไม่ได้สบายตัวขึ้นมาเลยค่ะ
ตื่นเช้ามาก็ได้โทรหาเพื่อนบอกเพื่อนว่าแกที่แกแนะนำมันไม่ได้เรื่องเลยว่ะ ฉันนอนไม่หลับทั้งคืนเลย เพื่อน เพื่อนบอกว่า การที่เราหาทำอะไรแค่แป๊บเดียว มันไม่ชินหรอก เราต้องหัดทำบ่อยๆจะค้นเช่นกับการที่เราเคยทำ
แล้วเราก็จะมีความสุขกับมัน จริงด้วยค่ะเมื่อก่อนดิฉันเป็นคนที่ไม่ชอบให้อภัยผู้อื่นเลย ตาต่อตาฟันต่อฟันต่อหลอดใครว่าอะไรมากเราก็ตอบไปอย่างนั้นใครต่อยเหราเราก็ต่อยต่อ
ใครตอบเราเราก็ตบต่อ หลังจากมาเจอครูบาอาจารย์ที่คอยอบรมสั่งสอนจิตใจ แล้วครูบาอาจารย์สอนให้หัดให้อภัยคนอื่น ถ้าทำบ่อยๆก็จะชินเอง ตอนแรกก็ไม่คิดที่จะให้อภัยใครหรอกค่ะ
ลองทำตามอย่างที่อาจารย์ท่านแนะนำมา ตอนแรกก็แค่ เสแสร้งแกล้งทำ หลังจากไล่เห็นรอยยิ้มของผู้อื่นที่เราให้อภัย แล้วก็รู้สึกว่าอันนี้มันคือเรื่องจริงความสุขที่แท้จริง
แล้วหันมาให้อภัยผู้อื่นบ่อยๆ ตอนนี้ก็เคยชินค่ะรู้สึกว่าการที่เราได้ให้อภัยผู้อื่นแต่ละคนมันโคตรมีความสุขเลยว่ะ อย่างนี้แหละการที่เราเคยทำอะไรบ่อยๆ หรือว่าเคยชินก็มักจะเกิดเป็นนิสัย เท่านั้นเองค่ะ
สวัสดีค่ะท่านผู้อ่าน ข้าพเจ้าเป็นคนที่ไม่มีการศึกษามากหมาย ข้าพเจ้าก็ไม่ใช่นักเขียน ข้าพเจ้าเป็นแค่คนขี้บ่นแล้วก็ชอบเล่าเรื่องราวอะไรต่างๆ
ถ้าข้าพเจ้าเขียนผิดพลาดอะไร หรือว่าพิมพ์ผิดไม่ใช่ไม่ให้เกียรติท่านผู้อ่านนะคะ ต้องขอประทานอภัยล่วงหน้าด้วยนะคะขอขอบคุณมาก สำหรับการคอมเม้น และก็การทักทาย ซึ่งทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกมีความสุข
รู้สึกว่าที่แห่งนี้อบอุ่น แต่บางครั้งต้องขอประทานอภัยล่วงหน้าก่อนนะคะที่ตอบช้า เนื่องจาก หน้าที่และการงานของข้าพเจ้าบางครั้งก็ยุ่งจริงๆ บางครั้งก็พ่อไม่มีเวลา
อย่างเช่นหลายวันที่ผ่านมา เคยมีเพื่อนท่านหนึ่งได้ลบการคอมเม้น ซึ่งข้าพเจ้าเป็นคนตอบช้าไปก็ต้องขออภัยจริงๆ แต่ ข้าพเจ้าดีใจนะคะที่เข้ามาคอมเม้น และทักทายกันรู้สึกมีกำลังใจ แล้วก็อยากเขียนต่อแล้วก็อยากอยู่ต่อในที่แห่งนี้
ต้องขอบคุณท่านที่คอยกดหัวใจแล้วก็กดแชร์ ขอบคุณจากใจจริงๆค่ะ
โฆษณา