20 ม.ค. 2021 เวลา 00:16 • ธุรกิจ
รู้จัก Job Sharing เทรนด์การจ้างงานแบบใหม่มาแรง!
Job Sharing คือการเทรนด์การจ้างงาน ที่เริ่มมาแรงในช่วงนี้ครับ โดยเป็นการจ้างงาน Full Time 1 ตำแหน่ง แต่ใช้พนักงาน 2 อัตรา แล้วแบ่งงานกันทำคนละครึ่ง ๆ
Job Sharing โตมาพร้อมกับเทรนด์ Flexitime (Flexible Time) และ Flexspace (Flexible Space) หรือเทรนด์การทำงานที่ยืดหยุ่นเรื่องเวลาและสถานที่ทำงานครับ
นั่นคือคุณจะทำงานเวลาไหนหรือที่ไหนก็ได้ แต่ขอแค่งานเสร็จและออกมามีประสิทธิภาพดีก็พอ
โดยเทรนด์การทำงานในยุคใหม่นี้ มุ่งเน้นประสิทธิผลในการทำงาน โดยไม่ยึดติดกับการทำงานรูปแบบเดิม ๆ กล่าวคือถ้าสามารถปรับเปลี่ยนหรือยืดหยุ่นการทำงานตรงไหนได้ แล้วทำให้งานออกมาดีกว่าเดิม ก็พร้อมที่จะทำครับ
🟢 อย่าง Job Sharing เอง ก็มีข้อดีหลายข้อเลยทีเดียว
ในแง่ของพนักงาน
➜ มี Work-Life Balance มากขึ้น สามารถใช้เวลาที่เหลือไปทำอย่างอื่นได้ จะพักผ่อนเฉย ๆ หรือดูแลครอบครัว หรือทำธุรกิจของตัวเองก็ได้ ฯลฯ
➜ สามารถใช้เวลาที่เหลือไปรับ Job Sharing อีกงานเพิ่มได้ เป็นการเพิ่มประสบการณ์การทำงานไปพร้อม ๆ กัน ใช้เวลาเท่าเดิมแต่ที่เพิ่มเติมคือประวัติการทำงานที่ดูดีครับ
ในแง่ของบริษัท
➜ จากเดิมที่มีลูกจ้างคนเดียว ก็จะมีอีกคนมาช่วยเสริมทัพ ทำให้บริษัทได้แต้มต่อในการระดมความคิดเข้ามาช่วยในการทำงาน เพราะลูกจ้างมีทักษะและประสบการณ์ที่แตกต่างกันมาช่วยกัน
➜ หากมีการลาหยุดหรือลาออก ตำแหน่งงานนั้น ๆ ก็จะไม่สะดุด และยังไหลลื่นต่อไปได้เรื่อย ๆ
➜ หากพนักงานมี Work Life Balance มากขึ้น สุขภาพจิตก็จะดีขึ้น และอาจจะส่งผลให้การทำงานดีขึ้นไปด้วย
➜ หากพนักงานทำ Job Sharing เพิ่มอีกงาน ก็จะมีทักษะและประสบการณ์ใหม่ ๆ มาแลกเปลี่ยนในบริษัทด้วย
🔴 ส่วนข้อเสีย ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องความยากในการจัดการครับ เช่น การหาคู่ทำงานที่เข้าขากันได้ดี การแบ่งงานอย่างเป็นระบบและเท่าเทียมกัน การกำหนดงานให้ตรงตามขอบเขตการทำงาน การติดตามงาน ฯลฯ
1
แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกงานที่สามารถทำ Job Sharing ได้ แต่ถ้างานไหนที่สามารถทำได้ และบริษัทสามารถจัดการได้ การจ้างงานแบบ Job Sharing ก็นับว่าน่าสนใจมากเลยทีเดียวครับ
========================
ℹ ขอบคุณสำหรับการกดไลค์ กดติดตาม และเป็นกำลังใจให้พวกเราในการแบ่งปันข้อมูลข่าวสาร และแนวคิดใหม่ ๆ นะครับ - The Columnist
โฆษณา