20 ม.ค. 2021 เวลา 00:39 • ธุรกิจ
John Paul DeJoria จากยาจกคนไร้บ้าน สู่เส้นทางมหาเศรษฐีหมื่นล้าน
2
John Paul DeJoria จากคนไร้บ้านแสนอาภัพ ได้เปลี่ยนเงินทุนเพียง 700 เหรียญ ให้กลายเป็นบริษัท John Mitchell Systems ซึ่งเป็นบริษัทดูแลเส้นผมที่สามารถทำกำไรมากที่สุดในโลก สร้างความมั่งคั่งให้เขากลายเป็นเศรษฐีที่มีมูลค่าทรัพย์สินกว่า สามหมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
6
รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด
เมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้ว DeJoria เป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว ที่แทบจะไม่มีบ้านสำหรับไว้ซุกหัวนอนเลยด้วยซ้ำ หลังจากใช้เวลาสองปีกับกองทัพเรือสหรัฐ เขาก็ได้ออกมาเป็นพนักงานขาย สารานุกรมและประกันภัย โดยใช้วิธีการเคาะประตูไปตามบ้าน
1
DeJoria เข้าสู่โลกของการดูแลเส้นผม โดยได้เข้ามาเป็นพนักงานของ Redken แต่เขาก็ได้ถูกไล่ออกไปในปี 1980 จนเขาต้องเลือกทางเดินสุดท้ายของชีวิต ด้วยการชวน Paul Mitchell ช่างทำผมที่เขารู้จัก และกู้เงิน 700 เหรียญ มาเพื่อสร้างธุรกิจที่เป็นหนทางรอดสุดท้ายของชีวิตเขา
8
ช่วงแรกของการทำธุรกิจ เขาแทบจะไม่มีที่นอน ต้องนอนในรถ Rolls Royce คันเก่าอายุ 20 ปี แต่ต้องบอกว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องเพราะยอดขายของธุรกิจเขาได้เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ อย่างรวดเร็ว
8
จุดเปลี่ยนที่สำคัญคือ ในปี 1989 เขาก็ได้ร่วมก่อตั้ง Patron ซึ่งเป็นเตกีล่าระดับพรีเมี่ยม โดยใช้พนักงานชาวบ้านมากกว่า 1,000 คนในประเทศเม็กซิโก โดยได้เข้าไปสนับสนุนเศรษฐกิจในท้องถิ่นหลาย ๆ ด้าน ทั้งด้านการศึกษา และ ที่อยู่อาศัยสำหรับเด็กกำพร้า
8
ในช่วงต้นการเติบโตของ Patron นั้น มีรายได้เพียงแค่ 1 ล้านเหรียญต่อเดือน แต่ต้องบอกว่าด้วยการบริหารงานของ DeJoria ทำให้กิจการเตกีล่าของเขานั้นเติบโตขึ้นสองเท่าในทุก ๆ ปี
5
ซึ่งหลังจากได้เงินลงทุนหลายล้านดอลลาร์ ในการเพิ่มกำลังการผลิต เขาก็ไม่เคยทำให้พื้นที่โรงงานของเขาเกิดมลพิษ เพราะกระบวนการกลั่นของเขา นำน้ำกลั่นที่เหลือ กลับมาใช้ใหม่ เพื่อทำปุ๋ยให้กับผืนดิน
7
สุดท้ายเขาก็สามารถทำให้ Petron กลายมาเป็นเตกีล่าอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งเขาก็ได้ทำการขายกิจการให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง บาคาร์ดี ในปี 2018
5
Patron ที่สุดท้ายขายให้ยักษ์ใหญ่อย่างบาคาร์ดี
ชีวิตของ DeJoria เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วผ่านธุรกิจที่สร้างรายได้ให้กับเขาอย่างต่อเนื่อง และเขาก็ได้พยายามขยายธุรกิจออกไปในแขนงต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น เครือไนต์คลับ House of Blues , John Paul Pet ที่เขาเป็นหนึ่งในคนที่ชอบเลี้ยงสัตว์เป็นอย่างมาก และได้ตั้งปณิธานว่าจะเลือกทดสอบผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของเขาด้วยตัวเอง
5
เมื่อเขาได้มีโอกาสผ่านชีวิตที่ยากลำบากมาก่อน ในตอนนี้เขาจึงร่วมกับมหาเศรษฐีกว่า 150 คน เพื่อมอบรายได้ 50% เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาโลกให้ดีขึ้น เขายังมีส่วนช่วยในองค์กรการกุศลกว่า 160 องค์กรทั่วโลก
2
ความหลงใหลในการให้ของ DeJoria นั้น ทำให้ DeJoria เซ็นสัญญากับ Bill Gates และ Warren Buffet ใน “The Giving Pledge” ในปี 2011 เพื่อนำรายได้ของเขากว่าครึ่งไปช่วยเหลือองค์กรการกุศลนี้
2
บริจาครายได้ครึ่งนึงให้ มูลนิธิ The Giving Pledge ของ bill Gates และ Warren Buffet (CR:vox.com)
นอกจากนี้เขายังได้ก่อตั้ง มูลนิธิ Peace Love & Happiness Foundation เพื่อเป็นศูนย์กลางในการบริจาคเพื่อการกุศลของเขา ที่สะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมหลักของบริษัทของเขา นั่นก็คือ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การช่วยเหลือผู้ยากไร้ และ การปกป้องชีวิตของสัตว์
7
และตอนนี้จากชายไร้บ้าน ที่แทบไร้ที่ซุกหัวนอน เขาได้มาอาศัยอยู่ในที่ดินมูลค่ากว่า 50 ล้านดอลลาร์ ในมาลิบู พร้อมของเล่นทั้งหมดที่ผู้ชายต้องการ ไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์ไซต์ รถยนต์ เครื่องบินเจ็ทส่วนตัว
6
เขาได้ให้แนวคิดที่น่าสนใจมาก ๆ ในภาพยนต์สารคดีที่เกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตของเขาที่มีชื่อว่า “Good Fortune”
3
“ทุกคนมีนิยามของความสำเร็จ” “ทุกวันนี้มันไม่ได้วัดกันแค่ที่ว่าคุณมีเงินเท่าไหร่ หรือ มีตำแหน่งใหญ่โตแค่ไหน แต่ความสำเร็จคือ คุณเก่งที่สุดในสิ่งที่คุณทำแล้วหรือไม่? และหากคุณพบเจอกับความสำเร็จ และคุณไม่ได้แบ่งปันมันให้กับใคร สิ่งนั้นคือความล้มเหลวในชีวิตของคุณ”
27
รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด
=========================
ร่วมสนับสนุน ด.ดล Blog และ Geek Forever Podcast
เพื่อให้เรามีกำลังในการผลิต Content ดี ๆ ให้กับท่าน
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog ผ่าน Line OA เพียงคลิก :
=========================
ฟัง PodCast เรื่องเกี่ยวเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้ที่ Geek Forever’s Podcast
——————————————–
ฟังผ่าน Podbean :
——————————————–
ฟังผ่าน Apple Podcast :
——————————————–
ฟังผ่าน Google Podcast :
——————————————–
ฟังผ่าน Spotify :
——————————————–
ฟังผ่าน Youtube :
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
=========================
1
โฆษณา