19 ม.ค. 2021 เวลา 12:50 • เพลง & ซีรีส์ เกาหลี
ช่วงก่อนปีใหม่แทบไม่มีวงการไหนไม่พูดถึง ซีรีย์ Start-up ที่จบไป เห็นแนวโน้มตั้งแต่ขึ้นเป็นอันดับ 1 Netflix ตลอดทุกสัปดาห์ พอซีรีย์จบสื่อหลายแขนงออกมาเขียนวิเคราะห์แง่คิดที่ได้จากเรื่องนี้กันหลายมุมมอง ด้วยเป็นเรื่องแนวธุรกิจสมัยใหม่ผนวกกับเรื่องราวความรักแบบหนุ่มสาวตามแบบฉบับของซีรีย์เกาหลีเขาล่ะ
โดยส่วนตัวแล้ว เห็นชื่อเรื่อง ก็ติดตามดูตั้งแต่สัปดาห์แรกเลย on-air ปล่อยออกมาทุกวันเสาร์-อาทิตย์ สัปดาห์ละ 2 ep. ก็เลยไม่กดดันกับเวลาในการดูมากนัก ก็ไม่รู้ทำไม ช่วงหลัง ๆ มีความสนใจกับเรื่องราวทางธุรกิจมากขึ้น โดยปกติเราชอบเรื่องราวการพัฒนางานในสายธุรกิจมากกว่าสายอาชีพที่เราทำอยู่ประจำอีกนะ อาจเป็นเพราะ ป.ตรี เราก็จบบริหารธุรกิจมั้ง และก็เคยทำงานกับเจ้านายที่มีแนวคิดการสร้างธุรกิจใหม่ ๆ อยู่ตลอด ก็เลยมีความอยากรู้ว่าทุกวันนี้เขาไปถึงไหนกันแล้ว
นอกจากเรื่องนี้จะให้เรื่องความบันเทิงและอินไปกับความรู้สึกเบื้องลึกของแต่ละตัวละครแล้ว สิ่งที่ได้มาก ๆ ก็คือเห็นการทำงานของคน Start-up แหละ ได้รู้ศัพท์เฉพาะหลายคำ ถึงแม้จะมีคำอธิบายสั้น ๆ ให้พอเข้าถึงเรื่องราวของบทได้ แต่สำหรับเรา เราว่ามันก็ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ ก็ต้องเสิร์จหาคำอธิบายเพิ่มเติมกันเลย ก็ได้อ๋อได้เข้าใจไปหลายคำ ก็สนุกดีอ่ะ เช่น แอคไฮร์ (Acq-hiring), แฮกกาธอน (Hackathon), Elevator speech, MVP- Minimum Viable Product เป็นต้น หลายคำพอได้ยินจากเรื่องนี้แล้ว เราก็ไปได้ยินที่อื่นอีก จริง ๆ มันก็เป็นคำโดยทั่วไปแหละ แค่เราเพิ่งรู้จักแค่นั้นเอง อ่อ รวมถึง Sandbox ด้วยนะ ที่เรื่องนี้ก็สื่อความหมายได้น่ารักและอบอุ่นเลยล่ะ "ล้มมาเถอะไม่เจ็บหรอก"
แล้วก็ไปเจอหนังสือเกี่ยวกับ Startup โดยบังเอิญ ได้ลองอ่านก็เลยสนใจจนต้องสั่งซื้อเป็นเล่มมาอ่าน เหมือนจะจริงจังไปนะ 555 แต่ก็อ่านเพราะอยากรู้เฉย ๆ แหละ หนังสือเรื่องนี้ก็เล่าเรื่องราวของคนทำ startup ที่เข้าไปใน YC โรงเรียนสอนที่ซิลิคอนวัลเลย์ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นโรงเรียนสุดยอดสุดเจ๋ง อ่านแล้วก็เข้าถึงได้ไปอีก
แต่ช่วงกลาง ๆ บางทีเราก็อ่านแบบเร็ว ๆ นะ เพราะมีหลายช่วงเหมือนกันแหละที่เราไม่ได้เข้าใจทั้งหมดหรอก แต่ได้เห็นภาพความเป็นจริงที่เอามาถ่ายทอดในหนังสือ เปรียบเทียบกับที่กำลังดูซีรีย์ ก็เป็นข้อมูลประกอบเพิ่มความรู้ได้เป็นอย่างดีเลย และก็ทำให้เราเข้าใจคนทำ Startup มากขึ้นมั้ง
เพราะทั้งหนังสือและซีรีย์ก็ถ่ายทอดถึงความยากลำบากและการต่อสู้เพื่อให้ประสบความสำเร็จ ว่าต้องผ่านการทำงานหนักและความมุ่งมั่นทุ่มเทขนาดไหน  ถึงแม้ในซีรีย์ช่วงท้ายจะดูเป็นสูตรสำเร็จง่ายไปนิดนึง แต่ในหนังสือเล่มนี้ให้เห็นได้แหละว่า มีทั้งที่สำเร็จและล้มเหลว ด้วยปัจจัยตัวแปรมากมายมาเกี่ยวข้อง
ย้อนกลับมาที่ซีรีย์ ใคร ๆ ก็ชอบนัมโดซาน พระเอกของเรื่อง แต่เรื่องนี้เรากลับแอบเชียร์ฮันจีพยอง (หัวหน้าฮัน) ที่เป็นพระรอง แอบลุ้นในช่วงแรก ๆ ว่าจะมีพลิกมั้ย แต่ก็ไม่ ผิดหวังนิด ๆ แต่ก็เข้าใจในความเป็นไปของเนื้อเรื่องที่ผู้เขียนปูทางมา ก็สมเหตุสมผลเขาล่ะ
ตอนแรกเราก็นึกว่าตัวเองจะชอบแบบนัมโดซาน ที่เป็นคนเก่งด้าน IT เป็นนักพัฒนาผู้ก่อตั้งซัมซานเทคร่วมกับเพื่อน เป็นผู้มีความฝัน และยังแบกความหวังของที่บ้านไว้ มีความเก่งบุคลิกแบบเนิร์ด ๆ แต่กลับไม่ค่อยได้เรื่องในแง่ของการทำธุรกิจและการบริหาร เราก็เลยไม่ชอบมั้ง แอบไปชอบหัวหน้าฮัน เป็นฝ่ายนักลงทุนที่มองเกมธุรกิจออกอย่างชี้ขาด ในมาดของผู้นำ ดูเป็นผู้ใหญ่ที่คอยช่วยเหลือให้คำแนะนำนางเอกตลอด
แต่กระนั้น นางเอกก็ยังไม่ได้มีใจในที่สุด การเดินเรื่องช่วงแรก มีเหตุผลประกอบมากมายที่นางเอกควรจะชอบหัวหน้าฮัน ตั้งแต่เรื่องจดหมายในอดีต การเป็นตัวปลอมตัวจริง แต่มาท้าย ๆ เรื่อง ซีนนัมโดซานกับนางเอกนี่มาแรงมาก แอบคิดตาม ว่าทำไมนะนางเอกถึงชอบนัมโดซาน ทำไมไม่ชอบหัวหน้าฮันผู้แสนดี
แต่เจอคำที่นางเอกตอบนัมโดซานไปว่า "เพราะว่าเป็นนาย นายนั่นแหละเหตุผล ก็คนมันชอบ ไม่มีเหตุผลหรอก" โอ้ยย คำตอบที่ใจละลาย อืมม เข้าใจนางเอกก็ได้ ก็จริงแหละ หลายครั้งที่เราพยายามหาเหตุผลว่าทำไมนะทำไม แต่บางเรื่องก็ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลก็ได้นี่นา "ก็เพราะเป็นนายไง"
ในด้านธุรกิจก็มีหลายซีนนะที่เราชอบ ที่ประธานที่ Sandbox แนะนำกับเพื่อนนัมโดซาน ตอนที่มีนักลงทุนสนใจมาร่วมมากมาย ทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้ว่า product ของพวกเขาจะเป็นอะไร แต่นักลงทุนมาด้วยชื่อเเสียงหลังจากที่พวกเขากลับจากซานฟานซิสโก แต่ประธานกลับแนะนำว่า "คุณควรไปหานักลงทุนเอง แล้วลองโดนปฏิเสธดู แล้วลองหาเหตุผลว่าเพราะอะไร พอทำแบบนั้น คุณก็จะเจอนักลงทุนตัวจริง"
จริง ๆ ในเรื่องยังมีอีกหลายช่วง ทั้งช่วงที่หัวหน้าฮันพูดวิจารณ์ให้ความเห็นแบบตรงไปตรงมา แต่อาจดูเป็นการทำร้ายความรู้สึกของผู้ฟังและไร้ซึ่งกำลังใจ แต่นั่นจะทำให้เกิดการพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ได้อย่างแท้จริง อ่อ รวมทั้งตอนที่พูดให้ได้คิดระหว่างการเป็น 'ประธาน' กับ 'คนดี' ก็คือหมายถึงการให้กล้าตัดสินใจแหละ เพราะไม่ว่าจะตัดสินใจแบบไหน ก็โดนด่าอยู่ดี แต่ถ้ากลัวแบบนั้นก็ไม่มีคุณสมบัติเป็นประธานได้
แล้วก็ยังมีประมาณว่า การทำธุรกิจหากมีศัตรูก็เหมือนมีหนี้ แต่หากมีมิตรก็เหมือนหาเงินได้ รวมทั้งการรู้จักประเมินแยกแยะความเสี่ยงต่าง ๆ ที่ไม่ใช่อันตราย แล้วก็ให้เข้าใจถึง 'โมเดลธุรกิจ' กับ 'โมเดลที่ทำกำไร' ตลอดจนเรื่องของการควบคุมอารมณ์ที่แตกต่างระหว่างมืออาชีพกับมือสมัครเล่น และอีกมากมาย
แล้วก็ชอบความรู้สึกอ่อนโยนจริงใจของทุกคน อันนี้คงเป็นปกติของทางเกาหลีเขาแหละ ที่ต้องกระชากความรู้สึกและบีบเค้นอารมณ์คนดูให้ได้มาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของย่านางเอก ที่คุณย่าถือเป็นตัวเดินเรื่องคนสำคัญตั้งแต่แรกเลยล่ะ ความปรารถนาดีที่คุณย่ามีต่อหนุ่มน้อย (หัวหน้าฮัน) ตั้งแต่ยังเป็นเด็กกำพร้า ช่วยเหลือแบบไม่คาดหวังสิ่งตอบแทน
หรือจะเป็นความสัมพันธ์แบบพี่น้องระหว่างนางเอกกับพี่สาว ที่ไม่ว่าจะมีเรื่องราวความไม่ลงรอยมากเพียงใด แต่สุดท้ายพี่น้องก็คือพี่น้อง ความรักของพ่อที่สู้เพื่อครอบครัวจนวันสุดท้ายของชีวิตไม่ว่าสถานะจะเป็นยังไง แม้กระทั่งนัมโดซานที่ได้มารู้จักคุณย่าทีหลังใคร พอได้รู้ถึงปัญหาความยากลำบากของคุณย่าที่ปิดไว้เป็นความลับ ก็กลับไปคิดหาเทคโนโลยีแล้วสร้างมันขึ้นมาเพื่อที่จะช่วยเหลือคุณย่าได้ต่อไป ทุกความสัมพันธ์ ยังไม่รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนในทีม การฝ่าฟัน อุปสรรคความยากลำบากต่าง ๆ ทุกอารมณ์ความรู้สึกและการตัดสินใจ เป็นเหตุเป็นผลกันอย่างลงตัว
สรุปคือชอบ แคปรูประหว่างเรื่องไว้เยอะเลย 555
The end
โฆษณา