ถ้าหากถามว่า “ใครคือมือสังหารฟรีคิกที่ดีที่สุด เท่าที่โลกนี้เคยมีมา” มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ชื่อของ จูนินโญ่ แปร์นัมบูกาโน่ จะไม่เป็นหนึ่งในนั้น
และบางทีอาจจะไม่ใช่แค่เป็น “หนึ่งในนั้น” แต่เราอาจต้องยกย่องให้ จูนินโญ่ เป็น “อันดับหนึ่ง” สำหรับนักฟุตบอลที่ยิงฟรีคิกเก่งที่สุดตลอดกาลของโลกเลยทีเดียว
จากข้อมูลที่รวบรวมโดยเว็บไซต์ GiveMeSport เมื่อเดือนเมษายน 2019 เผยว่า จูนินโญ่ แปร์นัมบูกาโน่ คือผู้เล่นที่เคยทำประตูจากการยิงฟรีคิกมากที่สุดในโลกถึง 77 ประตู
แม้แต่ตำนานนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลของบราซิลอย่าง เปเล่ ยังรั้งแค่อันดับ 2 ด้วยผลงาน 70 ประตู ขณะที่ “เหยินน้อย” โรนัลดินโญ่ รั้งอันดับ 3 ร่วมกับ วิคตอร์ เลกร็อตตาเย่ อดีตนักเตะชาวอาร์เจนไตน์ ที่ยิงฟรีคิกได้ 66 ประตูเท่ากัน
ส่วนเทพบุตรเท้าชั่งทองอย่าง เดวิด เบ็คแฮม ที่ว่ากันว่ามีลีลาการปั่นฟรีคิกที่สง่างามที่สุด ตามมาเป็นอันดับ 5 จากการซัดฟรีคิกตุงตาข่าย 65 ลูกตลอดเส้นทางนักเตะอาชีพ
นอกจากจะครองสถิตินักเตะที่ยิงฟรีคิกสำเร็จมากที่สุดในโลกแล้ว มันยังมีตัวเลขเหลือเชื่อที่ถูกบันทึกไว้อีกมากมาย เกี่ยวกับผลงานในอาชีพค้าแข้งของ จูนินโญ่ แปร์นัมบูกาโน่
ก่อนที่ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง จะผูกขาดความสำเร็จของฟุตบอลลีกฝรั่งเศสอย่างที่เราได้เห็นในยุคปัจจุบัน ย้อนไปในช่วงต้นยุค 2000 ไม่มีใครไม่รู้จักตำนาน “ลียง ลงเป็นยิง”
โอลิมปิก ลียง คือทีมแรกและทีมเดียวในประวัติศาสตร์ ที่ผงาดคว้าแชมป์ ลีก เอิง ได้นานถึง 7 ปีซ้อน ระหว่างฤดูกาล 2001-02 จนถึง 2007-08
แชมป์ ลีก เอิง ทั้ง 7 สมัยที่ว่าของ ลียง ล้วนมี จูนินโญ่ เป็นกำลังสำคัญในทีม และความเป็นจริงก็คือ ก่อนที่ทัพ “โอแอล” จะคว้าตัวอดีตกองกลางแซมบ้ารายนี้ไปร่วมทีม พวกเขาไม่เคยได้แชมป์ลีกสูงสุดฝรั่งเศสมาก่อนเลย
สถิติบอกว่า ตลอดช่วงเวลา 8 ปีที่ จูนินโญ่ แปร์นัมบูกาโน่ เล่นภายใต้สีเสื้อของ โอลิมปิก ลียง เขายิงให้สโมสรรวมทุกรายการไปถึง 100 ประตู จากการลงสนาม 343 นัด
สิ่งที่เหลือเชื่อก็คือ จาก 100 ประตูที่เขาเคยยิงให้อดีตทีมมหาอำนาจแดนน้ำหอม มันมาจากการยิงฟรีคิกโดยตรงถึง 44 ครั้ง
ส่วนผลงานการเล่นให้ทีมชาติบราซิล จูนินโญ่ ยิงให้ทีมแชมป์โลก 5 สมัยไป 6 ประตูจากการรับใช้ชาติ 40 นัด โดยครึ่งหนึ่งในนั้น ก็คือการทำประตูจากฟรีคิก
ซึ่งกว่าที่ จูนินโญ่ แปร์นัมบูกาโน่ จะกลายเป็นมือวางอันดับหนึ่งของการสังหารลูกนิ่งนอกกรอบเขตโทษ มันไม่ใช่ว่าเขามีพรสวรรค์นี้ติดตัวมาตั้งแต่เกิด แต่มันคือเรื่องของ “พรแสวง” ที่เจ้าตัวพยายามฝึกฝนมาตั้งแต่ช่วงที่เขาเริ่มชีวิตค้าแข้งที่บราซิล
จูนินโญ่ แปร์นัมบูกาโน่ มีชื่อเต็มๆ ว่า อันโตนิโอ เอากุสโต้ ริเบยโร่ เฮส จูเนียร์
คำว่า “จูนินโญ่” มีความหมายเหมือนคำว่า “จูเนียร์” ในภาษาอังกฤษ หรือหากจะแปลเป็นไทยน่าจะมีความหมายว่า “ไอ้จิ๋ว” ส่วน “แปร์นัมบูกาโน่” มาจากชื่อรัฐแปร์นัมบูกู ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองเรซิเฟ่ ถิ่นฐานที่เขาเกิด
ก่อนจะมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ จูนินโญ่ เริ่มเอาดีกับกีฬาฟุตซอลก่อน จากนั้นค่อยหันไปจริงจังกับการเล่นฟุตบอลสนามใหญ่ แล้วจึงเข้าสู่ทีมเยาวชนของ สปอร์ต เรซิเฟ่ สโมสรในเมืองที่เขาลืมตาดูโลก ตอนที่อายุได้ 16 ปี
ในเดือนธันวาคม 2018 เขาเคยไปให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร โฟร์โฟร์ทู เอาไว้ว่า “ผมเป็นนักเตะที่ยิงดีเสมอ แต่ตอนที่ผมยังเด็ก ผมยังมีพลังไม่พอที่จะทำประตูได้จากลูกฟรีคิก”
“ผมเล่นฟุตซอลจนกระทั่งตัวเองอายุ 13 ปีและยิงได้ไม่มากเท่าไร แต่ในช่วงวัยประมาณนั้น ผมได้เริ่มหัดยิงฟรีคิก แต่กำแพงมันใกล้ผมเกินไป มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะทำประตูได้”
“ผมยังไม่ถึงขั้นเป็นผู้ชำนาญการยิงฟรีคิก จนกระทั่งผมย้ายไปฝรั่งเศส จึงพัฒนาเทคนิคการยิงทีหลัง”
อย่างไรก็ตาม ช่วงที่ จูนินโญ่ เล่นฟุตบอลอาชีพใหม่ๆ ที่บราซิล กับ เรซิเฟ่ ตามด้วย วาสโก ดา กาม่า ระหว่างปี 1995-2001 เขาโชว์การยิงฟรีคิกให้เห็นถึง 15 ประตู ไม่ได้น้อยอย่างที่เจ้าตัวให้สัมภาษณ์
แต่การเซ็นสัญญาย้ายไปเล่นที่ฝรั่งเศสกับ โอลิมปิก ลียง แบบไม่มีค่าตัวในช่วงซัมเมอร์ปี 2001 ทำให้โลกได้รับรู้ความอันตรายในการสังหารฟรีคิกของเขายิ่งขึ้นไปอีก
ด้วยความที่ ลียง ผูกขาดแชมป์ ลีก เอิง ทุกฤดูกาล ตลอดช่วงเวลา 7 ปีแรกที่ จูนินโญ่ ไปเล่นในถิ่น สต๊าด เดอ แชร์กล็องด์ ทำให้ดาวเตะชาวบราซิเลียนมีโอกาสดวลกับผู้รักษาประตูระดับท็อปของโลกหลายคนในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
มีสุดยอดนายทวารระดับเวิลด์คลาสจำนวนไม่น้อย ที่เคยเป็น “เหยื่อ” ฟรีคิกที่สุดปัญญาจะรับได้ของเขา
โอลิเวอร์ คาห์น ตำนานนายประตูบาเยิร์น เคยเสียท่าให้ฟรีคิก จูนินโญ่ มาแล้ว
ในเดือนพฤศจิกายนปี 2003 โอลิเวอร์ คาห์น อดีตตำนานนายด่านของ บาเยิร์น มิวนิค เสียท่ายับเยินถึงขนาดที่ศีรษะไปกระแทกกับเสาประตู หลังจากความพยายามพุ่งสุดตัวไปป้องกันลูกฟรีคิกระยะ 35 เมตรไม่เป็นผลสำเร็จ
ลูกบอลจากปลายสตั๊ดของสตาร์ดังแซมบ้า พุ่งแหวกกำแพงมนุษย์ทีมเสือใต้ไปชนสามเหลี่ยมแล้วเปลี่ยนทางตุงตาข่ายที่เสาอีกฝั่ง ถือเป็นหนึ่งในฟรีคิกระดับเวิลด์คลาสที่ได้รับการจดจำมากที่สุด เท่าที่ จูนินโญ่ เคยยิง
นั่นคือประตูนำ 1-0 ของลียง ที่ช่วยให้ทีมจากฝรั่งเศสบุกโค่นยอดทีมอย่าง บาเยิร์น คาบ้านด้วยสกอร์ 2-1
ตำนานผู้รักษาประตูทีมชาติสเปนอย่าง อีเกร์ กาซียาส ก็เคยเสียท่าให้กับฟรีคิกระยะ 25 หลาในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อเดือนกันยายน 2005 เช่นกัน
จูนินโญ่ วิ่งเข้าซัดสุดแรงเกิด บอลพุ่งทะลุกำแพงเป็นวิถีต่ำกระดอนพื้นเสียบเสาโดยที่ กาซียาส พุ่งสุดตัวก็ยังเอื้อมไม่ถึง ซึ่งเกมนั้น โอลิมปิก ลียง เปิดบ้านถล่ม เรอัล มาดริด ไปด้วยสกอร์ 3-0
กาซียาส ถึงกับเคยบอกว่า “ถึงแม้ จูนินโญ่ จะไม่ใช่กองหน้า แต่เขาทำให้ผมหวาดกลัวทุกครั้ง เมื่อมีโอกาสยิงฟรีคิก”
หรือในฤดูกาล 2008-09 ก่อนที่ บาร์เซโลน่า จะผงาดคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ในยุคที่มี เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คุมทีมชุดใหญ่เป็นปีแรก บิคตอร์ บัลเดส ก็เคยลิ้มรสฟรีคิกปลิดวิญญาณจาก จูนินโญ่ มาแล้วเช่นกัน เมื่อซัดจากมุมที่แทบเป็นไปไม่ได้บริเวณริมเส้นฝั่งซ้าย ส่งบอลลอยเสียบหน้าต่างเสาไกลอย่างสุดสวย
อย่างไรก็ตาม คนที่เคยเผชิญหน้ากับลูกฟรีคิกของ จูนินโญ่ แปร์นัมบูกาโน่ มากที่สุดไม่ใช่ดาวดังคนไหน แต่เป็นอดีตนายประตูมือสองของลียงอย่าง เรมี่ แวร์กกู้ทร์ ซึ่งเล่นในถิ่น สต๊าด เดอ แชร์กล็องด์ นานถึง 12 ปีระหว่างปี 2002-2014
แวร์กกู้ทร์ คือคู่ซ้อมคนสำคัญในการทำให้ จูนินโญ่ พัฒนาเทคนิคการซัดลูกนิ่งระยะไกลมากขึ้นเรื่อยๆ เขาเคยให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งของฝรั่งเศส ว่าตนเองเคยซ้อมรับลูกยิงฟรีคิกของ จูนินโญ่ มาแล้วหลายพันครั้ง
เขาเล่าว่า “เรามีการซ้อมรับลูกฟรีคิกของเขา 30-40 ลูกต่อการซ้อมหนึ่งครั้ง และ 90% ในจำนวนนั้นมันพุ่งเข้ากรอบ และแทบทุกครั้งที่มันตรงกรอบ มันเป็นประตู”
“หลังจากที่เขายิงประตูได้หลายๆ ครั้ง คนแรกที่เขาจะวิ่งมาดีใจด้วยที่ข้างสนามจะเป็นผม มันเป็นเรื่องที่สุดยอดมาก ผมรู้สึกว่ามันคือสิ่งตอบแทนสำหรับการทำงานทุกอย่างที่เราทำร่วมกัน”
อย่างที่เราบอกไปว่า จูนินโญ่ คือนักเตะที่ทำประตูจากลูกฟรีคิกให้ โอลิมปิก ลียง มากถึง 44 ประตู
โดยฟรีคิกลูกสุดท้ายที่เขาทำได้ในดินแดนแห่งแฟชั่น คือประตูย้ำชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจากระยะ 35 หลา พาทีมบุกชนะ โอลิมปิก มาร์กเซย 3-1 ในเกมบิ๊กแมตช์เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2009
จูนินโญ่ แปร์นัมบูกาโน่ อาจไม่ใช่คนที่ยิงฟรีคิกสวยงามที่สุดในโลก
ประตูของเขาไม่ใช่การปั่นโค้งบ่อยครั้งแบบที่ เดวิด เบ็คแฮม หรือ ลิโอเนล เมสซี่ ทำให้เห็นหลายๆ ลูก และไม่ใช่การซัดด้วยพลังอันบ้าคลั่งแบบที่เราคุ้นตากับลูกยิงของ โรแบร์โต้ คาร์ลอส
เทคนิคที่ทำให้ฟรีคิกของ จูนินโญ่ มีประสิทธิภาพยิ่งกว่าทุกคน คือการวิ่งเป็นทางตรงเข้าหาลูกบอล ซัดด้วยข้อเท้าขวาด้านในแบบเต็มแรงที่บริเวณใต้ลูก เพื่อให้ลูกบอลส่ายจนผู้รักษาประตูคาดเดาทิศทางไม่ได้ หรือที่เราเรียกกันว่า “นัคเคิลบอล”
จูนินโญ่ เผยว่านักเตะไอดอลที่ทำให้เขาเลียนแบบการยิงฟรีคิก ก่อนจะนำมาพัฒนาสูตรเองในภายหลัง คืออดีตตัวซัดฟรีคิกมือฉมังตำนานทีมโครินเธียนส์อย่าง มาร์เซลินโญ่ คาร์ริโอก้า
เขาให้สัมภาษณ์กับ โฟร์โฟร์ทู เมื่อเดือนธันวาคม 2018 เอาไว้ว่า “ผมเริ่มด้วยการเลียนแบบการยิงฟรีคิกของ มาร์เซลินโญ่ เขาคือหนึ่งในแรงบันดาลใจของผม และเป็นนักเตะคนแรกที่ผมเคยเห็นการซัดให้บอลพุ่งขึ้นและเต้นระบำในอากาศ”
“เรื่องนั้นบอกคุณว่าเทคนิคดังกล่าวไม่ใช่ของผมเอง เช่นเดียวกับ ดิดี้ ซึ่งเคยพาบราซิลคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1958 และ 1962 ก็เคยทำแบบนั้นได้มาก่อน ซึ่งหลังจากนั้นทุกคนได้นำเทคนิคมาปรับแต่งวิธีกันเอง”
แน่นอนว่า จูนินโญ่ แปร์นัมบูกาโน่ คือแรงบันดาลใจในการหัดยิงฟรีคิกของนักเตะยุคหลังๆ หลายต่อหลายคน
อันเดรีย ปีร์โล่ อดีตตำนานกองกลางทีมชาติอิตาลี ที่ถูกยกย่องว่าเป็นนักเตะที่เก่งลูกเซตพีซมากที่สุดคนหนึ่งตลอดกาล ยอมรับว่าเขาศึกษาวิธีการเตะของ จูนินโญ่ อย่างหนักมาก ก่อนจะประสบความสำเร็จในวงการเป็นอย่างสูง
ปีร์โล่ เคยเขียนในหนังสืออัตชีวประวัติของตัวเองว่า “ระหว่างช่วงที่เขาเล่นที่ลียง ชายคนนั้นใช้ลูกบอลทำสิ่งที่ไม่ธรรมดา เขาบิดร่างกายเป็นรูปร่างแปลกๆ วิ่งขึ้นไปแล้วก็ทำประตูได้”
“เขาไม่เคยทำผิดพลาด ไม่เคยเลย ผมไปเช็คสถิติของเขามา และได้รู้ว่ามันไม่มีโอกาสพลาด”
“เขาเหมือนคอนดักเตอร์ของวงออร์เคสตราที่ใช้วิธีสลับกันจากปกติ เขาอาจถือไม้บาตองด้วยเท้าแทนที่จะใช้มือ เขาอาจยกนิ้วโป้งให้คุณโดยใช้หัวแม่เท้าได้เลยด้วยซ้ำ”
“ผมศึกษาเขาหนักมาก ผมสะสมดีวีดีของเขา แม้กระทั่งรูปถ่ายเก่าๆ ที่เขาเคยเล่น และสุดท้ายแล้วผมก็ได้เข้าใจ มันไม่ใช่การค้นพบได้โดยทันที มันต้องใช้ความอดทนและเพียรพยายาม”
“สาระสำคัญก็คือ ลูกบอลจำเป็นต้องถูกซัดจากส่วนล่าง โดยใช้นิ้วเท้า 3 นิ้วแรกเท่านั้น (โป้ง-ชี้-กลาง) คุณต้องทำให้เท้าของคุณตรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วรีบผ่อนแรงลงทันที”
“วิธีนั้น ลูกบอลมันจะไม่หมุนในอากาศ แต่มันจะพุ่งตกลงเข้าหาประตูอย่างรวดเร็ว ซึ่งตอนนั้นแหละที่บอลจะเริ่มหมุน แล้วนั่นคือบทสรุป มันคือวิธีที่เป็นคำสาปจากผม”
ข้อสังเกตถึงความแตกต่างเกี่ยวกับการยิงฟรีคิกของ จูนินโญ่ ระหว่างระยะใกล้กับระยะไกล นั่นคือหากเป็นระยะไกล เขาจะถอยหลังจากลูกบอล 4 ก้าว ส่วนระยะใกล้เขาจะถอยหลัง 3 ก้าว
ส่วนวิธีการวิ่งเข้าหาลูกบอล หากเป็นระยะใกล้เขาจะวิ่งเป็นมุมฉาก ส่วนระยะไกลเขาจะวิ่งเป็นทางตรง
จูนินโญ่ แปร์นัมบูกาโน่ คว้าแชมป์ระดับทีมชุดใหญ่รวมกันตลอดอาชีพค้าแข้งถึง 27 รายการ
โดยนอกจากแชมป์ ลีก เอิง 7 สมัยกับ โอลิมปิก ลียง แล้ว ช่วงที่ยังเป็นดาวรุ่งเขาก็ประสบความสำเร็จอย่างสูงกับการเล่นให้ วาสโก ดา กาม่า ที่บ้านเกิด โดยเคยพาทีมคว้าแชมป์ลีกบราซิลรวมถึง โกปา ลิเบร์ตาดอเรส มาแล้ว
ขณะที่ตอนที่ไปเล่นให้ อัล-การาฟา ระหว่างปี 2009-2011 หลังย้ายออกจากลียง เขาก็ได้แชมป์ทุกรายการในประเทศที่กาตาร์ โดยยิงฟรีคิกระหว่างการเล่นที่ตะวันออกกลางได้ถึง 9 ประตู และคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีจากสมาคมฟุตบอลกาตาร์ได้ในปี 2010
จูนินโญ่ แขวนสตั๊ดกับ วาสโก ดา กาม่า ซึ่งเป็นสโมสรที่เขาเคยสร้างชื่อก่อนไปเล่นที่ยุโรปในปี 2013 ด้วยวัย 38 ปี โดยซีซั่นสุดท้ายเขายังทำผลงานไว้ลายด้วยการยิง 2 ประตู แอสซิสต์อีก 7 ลูก
น่าเสียดายที่เขาไม่ได้แชมป์รายการใหญ่ๆ กับทีมชาติบราซิลอย่างฟุตบอลโลก 2002 และ โกปา อเมริกา 2004 จากการที่มีปัญหาบาดเจ็บหัวเข่าในช่วงใกล้ๆ จะประกาศรายชื่อก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์
ความสำเร็จเดียวกับทีมชาติจึงเป็นถ้วย คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ ปี 2005 เท่านั้น ซึ่งทีมชุดนั้นเต็มไปด้วยดาวดังอย่าง โรนัลดินโญ่, กาก้า, อาเดรียโน่, โรบินโญ่ และ จิลแบร์โต้ ซิลวา ก่อนที่เจ้าตัวจะประกาศอำลาทีมแซมบ้าหลังจบฟุตบอลโลก 2006 ซึ่งบราซิลตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยน้ำมือของฝรั่งเศส
ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน คงมีนักเตะที่ค้าแข้งใน ลีก เอิง เพียงไม่กี่คน ที่จะถูกจดจำว่าเป็นตำนานตลอดกาล โดยไม่เคยไปค้าแข้งในลีกที่ใหญ่กว่าอย่าง ลา ลีกา, บุนเดสลีกา, กัลโช่ เซเรีย อา และพรีเมียร์ลีก
แต่ จูนินโญ่ แปร์นัมบูกาโน่ คือชื่อนักเตะที่แฟนบอลจดจำไว้ตลอดไป ในฐานะกำลังสำคัญของ ลียง ชุด “ลงเป็นยิง” ที่เคยรุ่งเรืองเมื่อช่วงเวลากว่า 10 ปีที่แล้ว
ซึ่งหลังจากที่เขาย้ายออกมาจากทีมเมื่อปี 2009 สโมสรก็ยังไม่เคยได้แชมป์ลีกสูงสุดฝรั่งเศสอีกเลย
เท่ากับว่าแชมป์ ลีก เอิง ทั้ง 7 สมัยในประวัติศาสตร์ของ โอลิมปิก ลียง ล้วนเกิดขึ้นเพราะมีชายคนนี้อยู่ในทีม
แต่ภาพจำที่แฟนบอลคุ้นเคยยิ่งกว่าการเคยเป็นตำนานของลียง ก็คือการที่แฟนบอลยกย่องว่านักเตะที่ยิงฟรีคิกดีที่สุดตลอดกาลของโลกมีชื่อว่า “จูนินโญ่ แปร์นัมบูกาโน่”
#เสียบสามเหลี่ยม #จูนินโญ่ #จูนินโญ่แปร์นัมบูกาโน่ #ลียง #บราซิล #ฟรีคิก #ลีกเอิง #ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก #ตำนานนักเตะ
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
