23 ม.ค. 2021 เวลา 01:30 • ข่าว
เรื่องจริงที่พูดไม่หมด ของโพสต์การจ่ายเช็คในสหรัฐ
ได้ทุกคน ไม่ต้องลงทะเบียน ไม่ต้องจ่ายภาษีก็ได้ จริงเหรอ?
หลังจากที่เห็นว่ามีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการที่คนไทยไปทำงานที่สหรัฐอเมริกา แล้วได้รับเช็คจากรัฐบาลสหรัฐเพื่อช่วยเหลือผู้พำนักในสหรัฐ โดยใช้ประโยคว่า “ได้เงินทุกคน และไม่ต้องลงทะเบียน” ซึ่งอาจจะมีหลายข้อมูลที่ทางผู้โพสต์น่าจะไม่ได้บอกว่าทำไมถึงได้รับเงินช่วยเหลือ เงินนี้มาจากไหน แล้วมันได้ทุกคนจริงหรือไม่ ในบทความนี้ผู้เขียนจะรวบรวมเงื่อนไขต่างๆ ที่เข้าเกณฑ์การได้หรือไม่ได้เงินช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐมาให้อ่านแบบง่ายๆ และเข้าใจได้มากที่สุด แล้วเป็นสิ่งที่ผู้โพสต์บอกไม่หมดในโพสต์ดังกล่าว
มาตรการจ่ายเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ จากวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มูลค่า 600 ดอลลาร์ต่อคน ให้กับผู้ใหญ่ที่มีรายได้ต่อปีสูงถึง 75,000 ดอลลาร์สหรัฐและอีก 600 ดอลลาร์สหรัฐต่อเด็ก 1 คน ชาวอเมริกันบางคนที่มีรายได้มากกว่า 75,000 ดอลลาร์สหรัฐจะได้รับเงินหากมีคุณสมบัติตรงตามที่ระบุคือ
#คุณสมบัติผู้ได้รับเช็ค
🔹️เป็นผู้เสียภาษีเงินได้ในปี 2019 โดยมีฐานข้อมูลของ IRS หรือกรมสรรพากร และรายได้ไม่เกิน 87,000 ดอลลาร์สหรัฐ
🔹️ผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 75,000 ดอลลาร์สหรัฐ จะได้เงินเต็มจำนวน 600 ดอลลาร์สหรัฐ
🔹️ผู้มีรายได้สูงกว่านั้นแต่ไม่เกิน 87,000 ดอลลาร์สหรัฐ จะได้เงินในจำนวนที่ลดหลั่นลงมา (เกณฑ์สูงสุดลดลงจากปีที่แล้วที่ 99,000 ดอลลาร์สหรัฐ)
🔹️เช่นรายได้ 81,000 ดอลลาร์สหรัฐ จะได้เงิน 300 ดอลลาร์สหรัฐ
🔹️ครอบครัวที่มีรายได้รวม 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ และคู่สมรสยื่นภาษีร่วมกันก็จะได้เงิน 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ
🔹️ผู้เสียภาษีมีลูกที่อายุไม่เกิน 17 ปีก็จะได้รับเงินเพิ่ม 600 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อลูก 1 คน
🔹️ครอบครัวรวมกัน 4 คน สามารถรับเงินช่วยเหลือรวม 2,400 ดอลลาร์สหรัฐ หากเป็นไปตามข้อกำหนดด้านรายได้
🔹️คนต่างด้าวบางรายมีคุณสมบัติได้รับเช็ค หากพวกเขามีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ และมีหมายเลขประกันสังคมที่ถูกต้อง คนต่างด้าวที่มีได้รับสถานะพลเมืองและมีกรีนการ์ดหรือวีซ่าทำงาน H-1B และ H-2A มีสิทธิ์ได้รับเช็ค
3
#แล้วใครที่จะไม่ได้เช็ค?
🔹️หากอยู่นอกเหนือจากเงื่อนไขดังกล่าวนี้คือ ไม่ได้รับเช็ค ผู้ที่อ้างจ่ายแค่ Vat ไม่มีสิทธิ์มาเคลมว่าฉันก็จ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว ทำไมไม่ได้รับเช็คแบบบ้านเราอันนี้ก็ไม่ได้
🔹️คนที่มีรายได้เกินเกณฑ์หรือว่าคนรวยก็ไม่ได้ คนไม่จ่ายภาษีเงินได้ก็ไม่ได้ คนต่างด้าวที่ไม่ได้มีถิ่นที่อยู่และ ผู้อยู่ในอุปการะสำหรับผู้ใหญ่ ที่อายุ 18 - 26 ปีจะไม่มีสิทธิ์ได้รับเงิน
🔹️ผู้ที่ตกงานแต่มีรายได้สูงก็ไม่ได้รับเงิน ซึ่งสิทธิ์ในการตรวจสอบจะพิจารณาจากการคืนภาษีในปี 2019 ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงจากการชำระเงินรอบแรกที่อิงตามการคืนภาษีปี 2018 หรือ 2019 ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงจำนวนรายได้ที่ได้รับ หากตรวจสอบแล้วมีมีรายได้มากกว่า 87,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในปีที่แล้วแต่ตกงานในปี 2020 คุณจะไม่มีสิทธิ์ได้รับเงิน
🔹️ผู้สูงอายุและผู้พิการบางคน คือผู้อยู่ในอุปการะที่เป็นผู้ใหญ่ไม่มีสิทธิ์ได้รับเช็ค ซึ่งหมายความว่าพ่อแม่ที่สูงอายุหรือสมาชิกในครอบครัวที่อาศัยอยู่ภายใต้การดูแลของลูกที่เป็นผู้ใหญ่ ซึ่งอ้างว่าเป็นผู้อยู่ในอุปการะจะไม่ได้รับเงินโดยตรง
🔹️ผู้อพยพบางคน เป็นผู้ที่ไม่มีหมายเลขประกันสังคม แรงงานต่างด้าวชั่วคราวไม่ว่าถูกหรือผิดกฎหมาย ซึ่งโดยทั่วไปแล้วผู้อพยพที่ไม่ได้รับอนุญาตจะไม่มีสิทธิ์
2
#มีผู้ได้รับเช็คเท่าไหร่?
ในรอบแรกชาวอเมริกันจะได้รับเงินช่วยเหลือประมาณ 160 ล้านคน ซึ่งนับตั้งแต่เมื่อเดือนเมษายน 2563 ก็ยังมีประชาชนหลายล้านคนที่ยังไม่ได้รับเช็ครอบแรก ส่วนในรอบ 2 ที่เพิ่งเริ่มส่งเช็คให้ประชาชนเมื่อเดือนธันวาคม 2563 ก็จะมีผู้ได้รับเช็คประมาณ 158 ล้านคน ซึ่งก็ต้องใช้เวลาในการกระจายเช็คให้ได้รับทั่วถึงกันอีกหลายเดือน
ส่วนรอบที่ 3 ยังคงเงียบอยู่
#ถ้าไม่เสียภาษีเงินได้จะเรียกร้องได้หรือไม่?
คำตอบคือ “ไม่ได้” ก็ไม่เมื่อไม่เสียภาษีเงินได้ตามกฎหมาย จากการทำมาหากินและมีหมายเลขเสียภาษีถูกต้อง จะมีสิทธิ์อะไรเรียกร้องขอรับเงินเยียวยา มิหนำซ้ำผู้ที่ไม่ทำหน้าที่เสียภาษีเงินได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน ถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรง มีโทษตามกฎหมายในสหรัฐ ของผู้ที่หลบ หลีก เลี่ยงชำระภาษีเงินได้ ตามกฎหมายสรรพากรมาตรา 7201 โทษคือปรับไม่เกิน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มจากจำนวนภาษีที่หลบ หลีก เลี่ยง และดอกเบี้ย จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
4
#สรุปคือ...
🔹️เช็คไม่ได้ทุกคน ผู้ที่จะได้ต้องมีเลขเสียภาษีกับกรมสรรพากร และรายงานต้องอยู่ในเกณฑ์เท่านั้น เกินกว่านั้นไม่ได้
🔹️แม้ไม่ต้องลงทะเบียน แต่ก็ต้องมีการเสียภาษีเท่านั้นถึงจะได้รับเช็ค
🔹️แต่ผู้ไม่เคยยื่นภาษี หรือผู้มีรายได้น้อยต้องลงทะเบียนออนไลน์ IRS เพื่อป้อนข้อมูลบัญชีธนาคารและข้อมูลอื่นก่อน
🔹️ไม่เสียภาษีเงินได้ ไม่ควรมาเรียกร้อง แถมมีโทษหนัก ถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรง
🔹️ภาษีที่สหรัฐจ่ายสูงมากราว 43% ของเงินเดือน แถมมีภาษีอื่นๆ ที่ต้องจ่ายอีกเช่น ภาษีบำรุงเมือง และภาษีรัฐ
🔹️แม้สหรัฐจะใช้วิธีการอัดฉีดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจหรือทำ QE แต่ใช่ว่าจะทำเท่าไหร่ก็ได้ เพราะเงินยิ่งเยอะก็ยิ่งเฟ้อ กระทบค่าเงิน และอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ดังนั้นแม้สหรัฐจะพิมพ์เงินได้เอง แต่ใช่ว่าจะแจกเงินเป็นเบี้ยได้โดยไม่สนใจอะไร เพราะธนาคารกลางสหรัฐคุมหนักมากเรื่องค่าเงินดอลลาร์
คนอเมริกันไม่ว่าจะไปทำงานที่ไหนบนโลกนี้ก็ต้องจ่ายภาษี พอสิ้นปีก็ต้องเอาไปคำนวณภาษี ซึ่งจะรู้ว่าต้องจ่ายเพิ่มเท่าไหร่ มันเป็นหน้าที่เลยว่าต้องยื่น เพราะไม่ยื่นมีสิทธิ์ว่าจะโดนตามตรวจสอบย้อนหลัง แล้วการที่จะได้เงินช่วยเหลือในรอบที่ 2 นี้ ก็จะดูตามรายได้ปี 2019 คือบางคนที่ไม่ได้ยื่น แต่เป็น Veteran กับ Disability คือได้กันโดยอัตโนมัติ ตรงนี้ถือเป็นข้อยกเว้นเพียงเล็กน้อย ถึงแม้จะดูได้ง่ายๆ แต่เอาเข้าจริงก็ยังมีคนตกค้างไม่ได้เช็คอีกมากตั้งแต่รอบแรกเมื่อเมษายนปีที่แล้ว ซึ่งแล้วแต่รัฐที่อาศัยอยู่
อีกอย่างเงินแค่ 600 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 18,000 บาท ถ้าเป็นในเมืองไทยอาจดูเยอะ แต่เอาเข้าจริงๆ ในสหรัฐค่าเช่าบ้านเดือนนึงราว 1,500 ดอลลาร์สหรัฐ ก็คิดดูแล้วกันว่าพอหรือไม่ เพราะแค่ค่าเช่าบ้านยังจ่ายไม่พอเลย
ส่วนในประเทศไทยมีประชากรยื่นภาษีแค่ 11.7 ล้านคนเมื่อปีที่แล้ว จ่ายภาษีจริง 6 ล้านคน ถ้าใช้เกณฑ์แบบสหรัฐมาใช้ในไทย ก็คงจะมีคนได้รับเงินช่วยเหลือแค่ 6 ล้านคน ส่วนอีก 50-60 ล้านคนก็ไม่ต้องเยียวยาอะไร ซึ่งคงไม่เหมาะกับการไม่จ่ายภาษีเงินได้แบบไทยแน่ๆ
โฆษณา