26 ม.ค. 2021 เวลา 13:45 • ปรัชญา
#Sophia amoruso ผู้หญิงที่ไม่แคร์ใคร จนได้เป็นนายคน
เพราะฉันทำเรื่องบ้า ๆ มาเยอะแยะ เพื่อทดสอบตัวเองว่าชอบอะไร จนสุดท้ายฉันก็พบว่า คำพูด และสายที่จะจับจ้องมองในทางลบนั้น ไม่ได้สำคัญสำหรับชีวิตใครเลยจริง ๆ
นักธุรกิจสาว
เธอเป็นใคร…
Sophia Amoruso เป็นผู้นักธุรกิจและนักเขียน ที่ติดอันดับขายดีของ New York Times เธอสร้างเส้นทางที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ด้วยการสร้างแบรนด์ที่โดดเด่นและแตกต่าง
Sophia ได้พัฒนาสินค้าจนกระทั่งไปถึงจุดสูงสุดในวงการแฟชั่น อีกทั้งเธอยังก้าวเข้าสู่ผู้นำทางความคิด ,วัฒนธรรม ,แรงบันดาลใจให้กับนักธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นคนทำงานอิสระ หรือครีเอทีฟรุ่นใหม่ด้วย
Sophia Amoruso’s 2014 memoir, ‘#Girlboss,’ was adapted into a Netflix series with the same name in 2017. Cindy Ord/Getty Images for Sophia Amoruso
ช่วงแรกเริ่ม...
Sophia เธอเป็นหญิงสาวที่ได้รับการตรวจพบว่า เป็น โรคสมาธิสั้น ตั้งแต่ยังเด็ก นอกจากนั้นเธอยังถูกไล่ออกจากโรงเรียน และด้วยเหตุนี้ Sophia จึงต้องใช้เวลาหลายปี กว่าที่จะสร้างอาชีพได้
และหลังจากการหย่าร้างของพ่อแม่ เธอจึงย้ายไปที่ แซคราเมนโต แคลิฟอร์เนีย ซึ่ง Sophia เล่าว่า “ในตอนนั้น เธอรอดชีวิตมาได้ด้วยการรอนแร่
ขโมยของตามร้าน และขโมยจากถังขยะ ก่อนที่จะได้เข้าทำงานเป็นพนักงานต้อนรับที่โรงเรียนศิลปะ ใน ซานฟรานซิสโก”
กว่าจะถึงฝัน
ก้าวสู่อาชีพ….
อย่างไรก็ตาม หลังเงินเดือนที่ได้รับไม่พอใช้ และโดนใครหลายคนดูถูกในเรื่องการงาน การเงิน และครอบครัว
เธอจึงได้เริ่มขายเสื้อผ้าวินเทจ และสินค้าอื่น ๆ ผ่านเว็ปไซต์ชื่อดังอย่าง eBay
ด้วยชื่อร้านที่มีว่า Nasty Gal Vintage (ตั้งชื่อตามบันทึกของเบ็ตตี้เดวิส) รายได้ของเธอก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั้ง ในปี 2008 เธอก็หาได้โดยสรุปอยู่ที่ 223,000 ดอลลาร์
การเติบโต
และในปี 2011 ธุรกิจของเธอก็เติบโตจนมีพนักงานมากถึง 200 คน และมียอดขายมากกว่า 100 ล้านเหรียญต่อปี
จึงทำให้เธอถูกขนานนามว่า "ซินเดอเรลล่าแห่งเทคโนโลยี"
นอกจากนี้แล้ว Sophia ยังเขียนหนังสือเกี่ยวกับประสบการณ์ของเธอ ใน New York Times (ซึ่งต่อมา Netflix ยังได้ขอเนื้อหาจากหนังสือเธอไปทำเป็นซีรีส์เต็มเรื่อง)
Nasty Gal was fine before venture capital came in. Frazer Harrison/Getty Images
เข้าขั้นวิกฤต….
แต่ทว่าความรุ่งเรืองของเธอก็ต้องหยุดลง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งวิกฤตทางธุรกิจของเธอนั้นยืดเยื่อยาวนานจนถึงปี 2016
ถึงขนาดที่ว่า Nasty Gal เข้าสู่ภาวะล้มละลาย..
Sophia จึงต้องยื่นขอความคุ้มครอง ในเดือนพฤศจิกายน 2016 และในที่สุดก็ขายบริษัทนี้ให้กับ Boohoo.com ผู้ค้าปลีกออนไลน์ของอังกฤษในราคา 20 ล้านดอลลาร์
เพื่อความอยู่รอด
แม้ว่าเธอจะก้าวลงจากตำแหน่งซีอีโอของ Nasty Gal แต่ในปี 2017 Sophia ก็ได้เริ่มต้นธุรกิจให้ ด้วยการก่อตั้ง Girlboss Media ซึ่งเป็นเว็บไซต์ ไลฟ์สไตล์สำหรับผู้หญิง โดยเธอเล่าว่า
“Nasty Gal คือการทำให้ผู้หญิงรู้สึกมั่นใจผ่านแฟชั่นหรือสไตล์ของเสื้อผ้า ส่วน Girlboss จะให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงพวกเขา เข้ากับการจัดหาทรัพยากร ,เครื่องมือ และการศึกษา เพื่อให้พวกเขาก้าวหน้า และสามารถพัฒนาตัวเองจนถึงจุดสูงสุดได้
ซึ่งสำหรับฉันแล้ว...ธุรกิจนี้ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นขั้นตอนต่อไป ที่เป็นไปตามธรรมชาติของคนเราได้จริง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพราะกับฉัน ที่หวังว่าจะได้สิ่งนี้เมื่อฉันต้องสร้าง ธุรกิจ อะไรสักอยาก”
Sophia Amoruso wants to help women succeed. Rich Fury/Getty Images for Girlboss
บทสรุป….
Girlboss จึงถือเป็นชุมชนสำหรับผู้หญิงที่มีความทะเยอทะยาน และความกระตือรือร้น
โดยในปี 2019 งาน Girlboss Rally ครั้งที่ 5 มีผู้เข้าร่วมถึง 1800 คน
ซึ่งภายในงาน Sophia ยังได้เปิดตัว Girlboss.com ใหม่ ซึ่งเป็นเครือข่ายมืออาชีพ ด้านดิจิทัลที่ Fast Company
หนังสือ GIRLBOSS (via: picbubble.com)
อีกทั้งธุรกิจนี้ของเธอยังได้รับการขนานนามว่า "The LinkedIn for Women"
ที่มีหญิงสาวนับหลายล้านคนมาร่วมตัวกันเพื่อสานฝันและพัฒนาตัวเอง
ท้ายที่สุด Sophia ยังเป็นเจ้าของ Girlboss Radio ซึ่งมียอดดาวน์โหลดมากกว่า 20 ล้านครั้ง ในเดือนธันวาคม 2019 อีกด้วย
ดังที่ Sophia amoruso กล่าวไว้ว่า “อย่ายอมแพ้และอย่ายอมรับคำปฏิเสธ”
แปลและเรียบเรียงโดยเรื่องเล่าจากดาวนี้
ที่มา:
ติดตามเรื่องเล่าจากดาวนี้เพิ่มเติมได้ที่
หากชื่นชอบก็อย่าลืมกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ สามารถแชร์แนวคิด มุมมองดีๆได้ใน Comments นี้เลย 😄
โฆษณา