เปลี่ยนมุมมอง สร้างตำนาน - ข้อคิดจากแชมป์แรกของชิคาโก บูลส์ ตอนที่ 2
โดย วิธพล เจาะจิตต์
หลังจากที่เดอะแบดบอยส์ ดีทรอยต์ พิสตันส์ ส่งจอร์แดนและชิคาโก บูลส์ไปพักร้อนก่อนฤดูกาลจบ 2 ปีติดกัน จอร์แดนใช้เวลาช่วงซ้อมเตรียมความพร้อมสำหรับฤดูกาล 1989-1990 ทบทวนเหตุผลว่าทำไมเขาและทีมจึงไม่สามารถผ่านพิสตันส์ไปได้
“ฟิล ผมว่าผมเข้าใจสิ่งที่คุณพยายามเตือนแล้วครับ... ผมไม่เคยเห็นเลยว่าสกอตตีกับฮอเรชเติบโตขึ้นแค่ไหน และในเวลาชี้เป็นชี้ตาย ผมลืมไปหมดเลยว่าแพ็กซ์ (จอห์น แพ็กซ์สัน) แม่นแค่ไหนทั้งๆ ที่เขาแม่นที่สุดในทีมเราเลย...” จอร์แดนสรุปสิ่งที่เขาค้นพบให้หัวหน้าโค้ชฟัง
“แล้วนายเห็นอะไรอีก?” ฟิลซัก
“ผมพยายามเอาชนะด้วยตัวเองมากเกินไป ผมมัวแต่คิดที่จะทำให้พวกนั้น (พิสตันส์) เห็นว่าถึงจะเล่นหนักกับผมแค่ไหน ก็หยุดผมไม่ได้ ผมหลงลืมไปว่าถึงตัวเองเอาชนะได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าทีมชนะ ผมจะมองหาเพื่อนตอนโดนดับเบิลทริปเปิลทีมมากขึ้น ผมขอโทษครับ” จอร์แดนก้มหน้ามองพื้น
“มีเท่านั้นเหรอ?” ฟิลซักต่อ ขมวดคิ้ว จ้องจอร์แดนอย่างพยายามค้นหาความคิดของอีกฝ่าย
“ยังมีอะไรอีกเหรอครับ...?” จอร์แดนส่งสายตาที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามกลับไป
“อีกเยอะ!!!” ฟิลขึ้นเสียง
“ผมไม่รู้ครับ”
“ฟังนะไมค์ นายอาจไม่ชอบประโยคนี้แต่ผมต้องพูด อย่างแรกนายเป็นทั้งสาเหตุของชัยชนะและความพ่ายแพ้ของทีม อย่างที่สองนายเป็นสาเหตุทำให้สกอตตีและโฮเรซเติบโตได้ช้า ทั้งหมดนี้เพราะนายยังไม่ได้ใช้ความสามารถของตัวเองอย่างเต็มที่” ฟิลตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น สบตาคู่สนทนาไม่ลดละ
“ผมแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ ผมก็เป็นทั้งแชมป์ทำแต้มของลีก และผู้เล่นเกมรับยอดเยี่ยมของลีก ผมช่วยทีมทั้งเวลาบุกและรับนะ!!!” จอร์แดนเริ่มขึ้นเสียง
“นายไม่ได้แย่ แต่นายก็ยังเทียบชั้น (แลร์รี) เบิร์ดและเมจิก (จอห์นสัน) ไม่ได้หรอก ถ้ายังคิดแบบนี้ มาดูเทปการแข่งขันด้วยกันดีกว่า...”
ไมเคิล จอร์แดน พูดเสมอว่าสิ่งสำคัญที่สุดสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จ คือการได้นั่งดูเกม วิเคราะห์ วิจารณ์ ดีใจและหัวเราะร่วมกัน ช่วยกันติ ช่วยกันจดโน้ตและจดจำ เพื่อให้ทีมดีขึ้น ผ่านคู่แข่งที่เหนือกว่าได้ และไม่พ่ายคู่แข่งแบบที่ไม่ควรแพ้
การดูเทปการแข่งขัน ทำให้จอร์แดนเห็นจุดบอดของตัวเอง เขาเห็นว่าความภูมิใจที่ได้รับความไว้วางใจให้เล่นในเพลย์สำคัญๆ ของเขาส่งผลด้านลบต่อเพื่อนร่วมทีม โดยเฉพาะสกอตตีและแพ็กซ์ ซึ่งสามารถรับภาระและแรงกดดันนั้นได้เฉกเช่นตัวเขา โดยไม่ได้ตั้งใจ จอร์แดนลดทอนโอกาสที่สกอตตีและแพ็กซ์จะได้เติบโตและพัฒนาตัวเอง
เขาได้เห็นว่าฮอเรชชัวร์แค่ไหนในการยิงบอลระยะกลาง เขารู้ซึ้งถึงการปิดทองหลังพระของ บิลล์ คาร์ตไรต์ เซ็นเตอร์มากประสบการณ์ของทีม ที่ยึดมั่นในวินัยของการทำตามแผนที่โค้ชวางไว้ เขาเห็นเพลย์ที่เขาเข้าทำแต้มได้ง่ายหลายเพลย์ ก็เพราะคาร์ตไรต์คอยเคลื่อนที่บังตัวประกบให้
ชิคาโก บูลส์และดีทรอยต์ พิสตันส์ เผชิญหน้ากันอีกครั้งในรอบชิงชนะเลิศสายตะวันออกปี 1990 ตามโผที่หลายสำนักกีฬาคาดกันไว้ตั้งแต่ก่อนเปิดฤดูกาล พิสตันส์ต้องการผ่านจอร์แดนและบูลส์เพื่อเข้าไปป้องกันแชมป์ บูลส์ต้องการผ่านเข้าไปเพื่อชิงแชมป์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ในสนาม...ผู้เล่นต่อกรกับคู่ปรับที่คุ้นเคยและต่อสู้กันมาหลายปี
ข้างสนาม...ฟิล แจ็กสัน เรียกแผนบนความเชื่อมั่นในการเติบโตของจอร์แดนและทีม
ชัค เดลีย์ เรียกแผนที่มุ่งทำลายความเชื่อมั่นของผู้เล่นทีมบูลส์ และยั่วโทสะของจอร์แดน
ในใจจอร์แดน เขาไม่เห็นเฉพาะคู่ต่อสู้และห่วงอีกแล้ว เขาเห็นการเคลื่อนไหวของผู้เล่นทั้ง 10 คน และเห็นรูปแบบเกมที่เกิดขึ้นอยู่ตรงหน้า
ซีรีส์รอบชิงชนะเลิศสายตะวันออกในปีนั้น สนุกตื่นเต้นยากจะทำนายว่าใครจะชนะ
พิสตันส์เอาชนะ 2 เกมแรกในบ้านตนเองไปได้ แต่จอร์แดนก็กลายร่างเป็นซูเปอร์แมน กดไป 47 แต้มในเกม 3 และ 42 แต้มในเกม 4 นำบูลส์ ตีเสมอซีรีส์ 2-2
เกมห้ากลับมาที่บ้านพิสตันส์ เดอะแบดบอยส์ก็จัดการจอร์แดนอยู่หมัด เอาชนะไปได้และขึ้นแท่นรอเข้าชิงแชมป์ NBA แต่จอร์แดนและพลพรรคก็ไม่ยอมศิโรราบง่ายๆ กลับมาชนะเกม 6 ที่ชิคาโก สเตเดียม ตามมาตีเสมอซีรีส์ได้เป็น 3-3 เกม ส่งผลให้ซีรีส์เดินมาถึงจุดที่ตัดสินกันด้วยเกมเดียว
ในมุมสถิติ สกอตตีเติบโตขึ้นมามากในปีนี้ กลายมาเป็นผู้ทำคะแนนลำดับ 2 ของทีม ฮอเรซ แกรนท์ กลายเป็นเครื่องจักรรีบาวด์ที่สู้กับ เดนนิส ร็อดแมน ได้สมน้ำสมเนื้อ ในซีรีส์ที่เจอกับพิสตันส์ จอร์แดนเป็นผู้ที่ทำแอสซิสต์ช่วยเพื่อนทำคะแนนสูงที่สุดตามที่เขารับปาก ฟิล แจ็กสัน ไว้ ส่วน จอห์น แพ็กซ์สัน มีซีรีส์ที่ความแม่นระยะ 3 แต้มสูงที่สุดในชีวิตเขา
เกมที่ 7 เกมตัดสิน เกมในเดอะพาเลซที่ออเบิร์นฮิลของเมืองดีทรอยต์ เกมแห่งความกดดัน พิสตันส์พกพาประสบการณ์แชมป์ลงสู่สนาม ทางฝั่งบูลส์ จอร์แดนพกพาความเชื่อมั่นเต็มร้อยลงสู่สนาม
ทว่า...สกอตตีฝืนลงสนามพร้อมอาการไมเกรน แม้จะลงเล่นได้ถึง 42 นาที แต่ก็ยิงลงแค่ลูกเดียว
“บางช่วงในเกมผมเห็นไมค์เป็นสองคนเลยครับ แย่จริงๆ ที่ผมเป็นตัวถ่วงของทีม...” สกอตตีให้สัมภาษณ์หลังเกม
หลังจากกรำเกมหนักมา 6 เกม จอห์น แพ็กซ์สัน ต้องยอมรับความจริงว่าเขาต้องทนนั่งดูเกมข้างสนาม
ฮอเรซ แกรนท์ มีเกมรีบาวด์ที่ยอดเยี่ยมเช่นเคย เขาแย่งบอลได้สูงสุดในเกม 7 แต่ความมหัศจรรย์ของการยิงบอลระยะกลางของเขาได้หายไป...
“ผมขอแสดงความยินดีกับพิสตันส์ที่ได้เข้าไปป้องกันแชมป์นะครับ ส่วนคำถามที่พวกคุณถามผมว่าผู้เล่นของเราบางคนฟอร์มการเล่นต่ำกว่ามาตรฐาน ผมคิดว่านักบาสเกตบอลทุกคนก็มีวันแบบนี้ได้นะครับสำหรับพวกเรา มันยังคงมีปีหน้าโอกาสหน้าอยู่เสมอครับ” จอร์แดนให้สัมภาษณ์นักข่าวหลังเกมที่บูลส์พ่ายต่อพิสตันส์ในเกม 7 ตกรอบเพลย์ออฟด้วยน้ำมือของคู่ปรับ 3 ปีติดกัน
เกม 7 ปี 1990 เป็นเกมแห่งความผิดหวังอย่างที่สุดอีกเกมหนึ่งของชิคาโก บูลส์ และจอร์แดน
แต่เกมเดียวกันนี้ เป็นเกมที่ทำให้ทุกคนในทีมชิคาโก บูลส์เห็นและตระหนักถึงความสำคัญของผู้เล่นทุกคนในทีมอย่างไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน
Credit: Warriorworld.com
ในขณะที่สื่อมุ่งรายงานข่าวนัดชิงแชมป์ NBA ปี 1990 ระหว่าง ดีทรอยต์ พิสตันส์ และ พอร์ทแลนด์ เทรลเบลเซอร์ส คนส่วนใหญ่จึงอาจจะไม่ได้เหลือบมองข้อเท็จจริงที่จอร์แดนและพลพรรคค่อยๆ คืบหน้าเข้าหาความสำเร็จพร้อมๆ กับการเติบโตของผู้เล่นและทีม
1988 ชิคาโก บูลส์ แพ้ ดีทรอยต์ พิสตันส์ในรอบรองชนะเลิศสายตะวันออก 4-1 เกม...
1989 ชิคาโก บูลส์ แพ้ ดีทรอยต์ พิสตันส์ในรอบชิงชนะเลิศสายตะวันออก 4-2 เกม...
1990 ชิคาโก บูลส์ แพ้ ดีทรอยต์ พิสตันส์ในรอบชิงชนะเลิศสายตะวันออก 4-3 เกม...
ในปี 1991 ทั้งสองทีมเจอกันอีกครั้งในรอบชิงชนะเลิศสายตะวันออก...โปรดติดตามตอนต่อไปนะครับ
#ไมเคิลจอร์แดน #ชิคาโกบูลส์ #บาส #บาสเกตบอล #บอลไทย #เล่นเป็นเรื่อง #PlayNowThailand
อัพเดตข่าวสารกีฬาก่อนใคร
พร้อมมีของรางวัลพิเศษให้ร่วมสนุกกันเป็นประจำ
ร่วมไลค์ ร่วมแชร์ Play Now Thailand 🇹🇭
- 22
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
