6 ก.พ. 2021 เวลา 00:35 • นิยาย เรื่องสั้น
อาชีพผมคือละครชีวิต บทที่ห้า..
เรื่อง..ศึกสายเลือดของตาหว่าง..ยาวไป ๆ ๆ👴👴👴
การมีครอบครัว รักเดียวใจเดียวไม่ยกย่องหญิงอื่นหรือชายอื่นฉันสามีภริยา ผมถือว่าเป็นมงคลชีวิตอย่างหนึ่ง นอกจากความกตัญญูกตเวที การรับรู้เรื่องราวของผมในอาชีพทนายความ เกี่ยวกับเรื่องครอบครัวจนกลายเป็นคดีความ มีทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดี..ผมเพียงเป็นคนส่งสารเท่านั้น..
เช่นเดียวกับเรื่องของนายสว่าง ซึ่งผมจะเรียกแกว่า ตาหว่าง ..ชายแก่อายุ 82 ปีไม่น่าเชื่อนะครับ คนมีอายุ 82 ปีแล้ว ยังต้องมาเป็นคดีความอยู่อีก แล้วไม่ใช่คดีเดียวครับ..ที่สำคัญมันเป็นศึกสายเลือด..
ผมไม่เคยรู้จัก ตาหว่าง มาก่อนแกมาจากจังหวัดเพชรบูรณ์ ..ส่วนผมอยู่จังหวัดกำแพงเพชร ..จนกระทั้งวันหนึ่ง ตาหว่าง เดินเข้ามาในสำนักงานทนายความ โดยได้รับคำแนะนำ จากศูนย์ดำรงธรรมให้มาขอความช่วยเหลือ..และนั้นคือวันแรกที่ผมรู้จัก ตาหว่าง..
เดิม ตาหว่างเป็นคนจังหวัดกำแพงเพชร มีที่นาหลายร้อยไร่ เมื่อ 30 ปีก่อน แกมีภริยา และลูก 4 คน 2 ใน 4 คน พิการเป็นใบ้ 1 คน และพิการทางสมอง 1 คน แต่ตาหว่างไม่เคยมีปัญหาการเงินด้วยฐานะของแกเอง ..
คนเรามีเงินมีทรัพย์สินมากเข้า ..กิเลสก็ครอบงำ ..ตาหว่าง ไปได้ภริยาใหม่ อีก 1 คน และเริ่มตีตัวออกห่างลูกและภริยา สร้างความไม่พอใจ แก่ลูกและภริยา ..ที่สำคัญแกขายที่ทางเอาเงินไปหมด เหลือที่ดิน อยู่ประมาณ 60 ไร่ ..จนสุดท้าย..
ตาหว่าง ก็แบ่งที่ดินที่เหลือทั้งหมดให้ภริยาและลูก 30ไร่ โดยภริยาและลูกคนโตเป็นคนดูแลทรัพย์สิน ส่วนตาหว่างขอไว้ทำกิน 30 ไร่ โดยให้ลูกชายคนโตดูแลที่ดินของแก แล้วแกก็ไปอยู่กับภริยาใหม่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์..
เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ..แม้จะแบ่งที่ทำกินให้ภริยาและลูกแล้วก็ตาม แต่ความเป็นพ่อของ ตาหว่าง ไม่มีแล้วในขณะนั้น ตาหว่างไม่เคยมาดูหรือเหลียวแล ลูกที่พิการอีกสองคน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของภริยา และลูกดูแลกันเอง..
ความโกรธและเกลียดพ่อเกิดขึ้นในใจของลูก ตาหว่าง โดยเฉพาะลูกชายคนโตเป็นความรู้สึกที่สะสมมาหลายสิบปี ..
จนกระทั้ง เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ตาหว่างมาขอที่ดินคืน แต่ลูกคนโตไม่ให้อ้างว่าตาหว่างไม่ได้ทำกินและห้ามตาหว่างมาเหยียบที่บ้านอีก ..ศึกสายเลือดปรากฎเป็นภาพชัดเจนขึ้น..
เมื่อสำนักงานปฏิรูปที่ดิน ออกเดินสำรวจรวมทั้งที่ดินตาหว่างด้วย แต่เป็นลูกชายคนโตที่ไปยื่นขอออก ส.ป.ก ตาหว่างก็ไปคัดค้าน ..แต่ไม่สำเร็จ ตาหว่างจึงไปร้องศูนย์ดำรงธรรม . ..
เรื่องที่ดินยังไม่จบ ระหว่างนั้นตาหว่าง ยังไม่กลับเพชรบูรณ์ ด้วยความโกรธ แกเข้าไปเอาอุปกรณ์รถไถ ทึ่เป็นของแกเอง ลูกชายก็ให้ภริยา ไปแจ้งความจับ
ตาหว่าง ซึ่งเป็นพ่อของตัวเองในข้อหาลักทรัพย์..นั้นเป็นคดีแรกในตอนอายุใกล้ 80 ปี..
อีกไม่กี่เดือนต่อมา ลูกชายก็ให้ภริยา ลูกสะใภ้ของตาหว่างเองก็ไปแจ้งความดำเนินคดีกับตาหว่างในข้อหาบุกรุกอีก และนี่คือคดีที่ สอง..
ในระหว่างที่ ตาหว่าง ต่อสู้คดีอยู่นั้น ในคืนวันหนึ่งขณะที่ตาหว่าง ขับรถกลับที่พักก็คือบ้านญาติที่มาขอพักอาศัยอยู่..ระหว่างทางมีคนร้ายออกมาจากข้างทางแล้วใช้อาวุธปืนยิง..ถูกรถและกระจก ..แกรอดเพราะก้มหลบทัน ..ซึ่งคนร้ายก็ไม่ได้ตามมายิงซ้ำ..ถามว่าคนร้ายเป็นใคร..
คำตอบจากปากตาหว่าง ..คนร้ายคือ ลูกชายคนโตของแกเอง ...
ตาหว่างเข้าแจ้งความ ให้ดำเนินคดีกับลูกชายคนโต ในข้อหา พยายามฆ่า และนี่คือคดีที่ สาม
ทั้งหมดทั้งมวล ผมไม่รู้เป็นบาปหรือเป็นกรรมที่ตาหว่าง ทอดทิ้งครอบครัวไม่ดูแลเนื่องจากไปมีภริยาใหม่ ทำลายมงคลชีวิตตัวเอง..ซึ่งถ้าหากตาหว่างยังเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี เรื่องพวกนี้คงไม่เกิดขึ้น..
ผมว่ามันเหมือนภาพยนตร์หรือละคร ..แต่ว่าใครเป็นผู้กำกับ..
ท่านผู้อ่านคงคิดว่าจบแค่นี้..แต่ไม่ครับยังไม่จบ..
หลังจาก ตาหว่างถูกดำเนินคดี ในข้อหาลักทรัพย์และบุกรุก 2 คดี และลูกชาย
ตาหว่างก็ถูกดำเนินคดีข้อหาพยายามฆ่าตาหว่าง ..
ทั้งสองคน ต่อสู้คดีไม่มีใครยอมใคร ..โดยลืมไปว่า เป็นพ่อลูกกัน..สุดท้ายศาลพิพากษายกฟ้อง ตาหว่าง ทั้งสองคดี และพิพากษายกฟ้องลูกชายตาหว่างในข้อหาพยายามฆ่าด้วย ..
ศึกสายเลือด ...จบ..ตาหว่างหอบใจโทรม ๆ กับเพชรบูรณ์ ลูกชายยังทำไร่ตามปกติ เวลาผ่านไปไม่นาน ปรากฎว่า ลูกสาวตาหว่างคนที่เป็นใบ้ป่วยเป็นมะเร็งและถึงแก่ความตาย ..ที่สำคัญ ดันมีทรัพย์มรดกเป็นที่ดิน 1 แปลง..
ทายาทที่มีสิทธิรับมรดกก็คือตาหว่าง เพียงคนเดียว ..เพราะผู้ตายไม่มีสามีและไม่มีลูก..ตาหว่างยื่นขอศาลเป็นผู้จัดการมรดกของลูกสาว ..ตาหว่างดีใจที่จะได้ที่ดินมาทำกินอีกครั้ง..
แต่แล้วศึกสายเลือดรอบสองก็เกิดขึ้นอีกจนได้..
ลูกชายคนโตยื่นคำร้องคัดค้านตาหว่าง อ้างว่า ตาหว่างไม่มีสิทธิรับมรดก เพราะผู้ตายได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดก ให้แก่ลูกชายคนโต ทั้งหมด ..ตาหว่างต้องถูกตัดโดยพินัยกรรม..ศาลนัดไต่สวนคำร้อง ...และนี่คือคดีที่สี่
ขณะที่ผมเขียนบทความเรื่องนี้ คดียังไม่จบ ...และไม่รู้จะจบเมื่อไหร่..
เมื่อสองวันที่ผ่านมาตาหว่าง ขับรถจากเพชรบูรณ์มาหาผม ถามว่า ตาจะชนะไหม ผมก็ต้องตอบตามข้อเท็จจริง ว่า หากฟังว่าพินัยกรรมไม่ชอบด้วยกฎหมายตาก็ชนะ แต่หากฟังว่า พินัยกรรมนั้นถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ตาหว่างก็แพ้ ..
ตาหว่างอมยิ้ม..แล้วก็พูดว่า ..ตาคงต้องพึ่งสิ่งศักสิทธิ์ซะแล้ว..ผมถามว่าที่ไหน..
ตาหว่าง มองหน้าผมแล้วร้องว่า " หอบใจโซ ๆ ไปวัดกะโก กราบหลวงพ่อรวย การเงินมันติด ชีวิตมันป่วย ตัวช่วยไม่มีเลยพ่อ...."
แล้วแกก็หอบเอกสารเดินออกจากสำนักงานไป...
1
😁😁 บุญรักษาทุก ๆ ท่านครับ ...สุขสันต์วันเสาร์ คร้าบ 🙏🙏🙏

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา