5 ก.พ. 2021 เวลา 10:22 • ปรัชญา
“เวลา” เป็นสิ่งมีค่าที่ใช้เงินซื้อไม่ได้ และ ไม่ว่าใครต่างก็มี 24 ชั่วโมงเท่ากัน การบริหารจัดการเวลาจึงเป็นเรื่องสำคัญลำดับต้นๆ สำหรับการใช้ชีวิต
ถ้าพูดถึง “เวลา” แน่นอนทุกคนรู้ว่ามัน “มีค่า”
แต่คนเราแปลกอยู่อย่างหนึ่ง คือ ของบางอย่างที่มันจำเป็นต้องใช้เวลา กลับชอบบอกว่ากลัวเสียเวลา แต่กับของบางอย่างที่รู้ทั้งรู้ว่าทำเเล้วมันเสียเวลา กลับชอบไปใช้เวลากับมันซะอย่างนั้น
จริงๆ แล้วคนส่วนใหญ่รู้อยู่แก่ใจ ว่าอะไรดี อะไรไม่ดี แต่เพราะเสพติดความสบายก็เลยไม่ได้ทำตามที่เป้าหมายตั้งใจเอาไว้
ป๋าเต็ด ยุทธนา บุญอ้อม ได้แนะนำสูตรบริหารเวลาเอาไว้ในหนังสือเรื่องนี้ดี รู้งี้อ่านนานแล้ว ซึ่งเป็นคำสอนของอดีตเจ้านายของเขา คือ คุณไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม (ผู้ก่อตั้งแกรมมี่) ซึ่งได้มาจากคุณเทียม โชควัฒนา (ผู้ก่อตั้งกิจการในเครือสหพัฒน์) อีกที
โดยสูตรนั้นเรียบง่ายมาก มันมีชื่อว่า “เร็ว ช้า หนัก เบา”
ซึ่งใช้ได้กับทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็น เรื่องงาน เรื่องส่วนตัว หรือ แม้แต่เรื่องครอบครัว
กล่าวคือ ในแต่ละวัน จะมีงานที่เราต้องทำเข้ามาเต็มไปหมด และมันไม่ได้เข้ามาทีละอย่างด้วย แต่มักจะเข้ามาพร้อมๆ กัน ซึ่งข้อผิดพลาดของคนส่วนใหญ่คือ ไปให้ความสำคัญกับมันเท่ากันหมด
ฉะนั้น “กฎข้อแรก” ของการจัดการเวลา คือ เราต้องจัดลำกับความสำคัญของมันออกเป็นหมวดหมู่ก่อน
- หมวดที่ 1 “เร็ว” คือ งานที่ต้องทำเสร็จให้รวดเร็ว หรือ ใกล้จะถึงเดดไลน์แล้ว
- หมวดที่ 2 “ช้า” คือ งานที่ไม่มีเดดไลน์ หรือ กว่าจะถึงก็อีกนาน
- หมวดที่ 3 “หนัก” คือ งานที่สำคัญ หรือ ต้องใช้พลังงานมากเป็นพิเศษ
- หมวดที่ 4 “เบา” คือ งานที่ไม่ต้องซีเรียสมาก ไม่ต้องทุ่มพลังงานสมอง และ ไม่ค่อยสำคัญ
ซึ่งโดยส่วนใหญ่งานแต่ละอย่างมักจะมีมากกว่า 2 หมวดขึ้นไป คือ
- หนัก x เร็ว คือ เป็นงานสำคัญ ที่ใกล้จะถึงเดดไลน์แล้ว
- หนัก x ช้า คือ เป็นงานสำคัญ แต่เดดไลน์ยังอีกนาน หรือ ต้องเป็นงานระยะยาว
- เบา x เร็ว คือ ด่วนก็จริงแต่เป็นงานเบาๆ ไม่ได้สำคัญอะไรมาก บางอย่างก็ให้คนอื่นทำได้
- เบา x ช้า คือ งานนี้เก็บไว้เคลียทีหลัง หรือ เป็นเรื่องไร้สาระ
พอแบ่งตามสูตรนี้ เราจะเริ่มจัดลำดับได้ แล้วก็จะพบว่า ความจริงแล้วงานไม่ได้ถาโถมเข้ามามากมายขนาดนั้น
แต่ปัญหาคือ คนส่วนใหญ่มักเลือกทำงานที่มีสาระน้อยกว่า แต่มันสนุก (เบา x ช้า) จนเบียดบังเวลาที่ควรใช้ทำงานสำคัญ
หรือ ในอีกแง่หนึ่งคือ เราใช้เวลากับงานที่ หนัก x เร็ว มากเกินไป และรู้สึกว่ามีแต่งานที่ หนัก x เร็ว เต็มไปหมด
แต่ความลับของคนที่ประสบความสำเร็จในเรื่องของการบริหารจัดการเวลาก็คือ เขาจะให้ความสำคัญกับงานที่ หนัก x ช้า
4
นั่นก็เพราะถ้าคุณทำงานที่ หนัก x ช้า ได้สำเร็จ มันก็จะไม่ค่อยมีงานที่ หนัก x เร็ว ยังไงล่ะครับ
2
เมื่อคุณจัดการงานตามหมวดหมู่ได้แล้ว กฎข้อที่สอง ที่จะทำให้คุณบริหารเวลาได้ดีขึ้น คือ การใช้หลักการพาเรโต 80/20
กล่าวคือ 20 เปอร์เซ็นต์ของงานที่เราทำ จะส่งผลกระทบต่อชีวิตเราถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วน 80 เปอร์เซ็นต์ของงานที่เราทำ จะส่งผลกระทบต่อชีวิตเราแค่ 20 เปอร์เซ็นต์
นั่นหมายความว่า ส่วนสำคัญที่เราต้องทำในชีวิตประจำวันมีเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น ส่วนอีก 80 เปอร์เซ็นต์ คือ สิ่งที่ทำแล้วไม่ได้มีประโยชน์อะไรมาก หรือ อยู่ในงานจำพวกที่ เบา x ช้า นั่นเอง
1
เช่น การไถฟีดบนเฟซบุ๊ก การเปิดดูคลิปไร้สาระในยูทูป การเปิดมือถือเพื่อเช็กบทสนทนาทั้งที่มันไม่ได้มีอะไร
ถ้าไม่เชื่อลองปิดโซเชียลมีเดียสัก 1 ชั่วโมงดูครับ คุณจะรู้สึกเหมือนได้เวลากลับมาเพียบเลย แถมงานที่ทำก็เสร็จเร็วขึ้น และ มีคุณภาพมากขึ้นด้วย ซึ่งมันจะทำให้คุณสามารถจัดการกับงานที่ทั้ง หนัก x ช้า และ หนัก x เร็ว ได้สบายๆ
ต่อมากฎข้อสาม คือ กฎ 2 นาที
หรือ พูดง่ายๆ ก็คือ งานที่สามารถทำเสร็จได้ภายใน 2 นาที ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในงานที่ เบา x เร็ว ก็ทำให้เสร็จเลย
1
เช่น การตัดสินใจตอบรับ/ปฏิเสธ เพื่อน ลูกน้อง การตอบอีเมลลูกค้า หรือ ใครก็ตามที่รอการตัดสินใจของคุณ เพื่อป้องกันความล่าช้า และ ไม่ให้มันมารบกวนหรือขัดจังหวะเวลางานที่สำคัญของคุณ
1
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงเข้าใจสูตรบริหารเวลาอันเรียบง่ายอย่าง “เร็ว ช้า หนัก เบา, กฎ 80/20 และ กฎ 2 นาที” กันแล้ว คราวนี้ก็เหลือแค่นำไปลงมือทำอย่างเดียวเท่านั้น
บางคนบ่นไม่มีเวลา แต่ก็ไม่เห็นจะทำอะไรสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง แต่บางคนดูเหมือนยุ่งจนไม่มีเวลา แต่กลับ ทำอะไรสำเร็จได้มากกว่าเรา นั่นก็เพราะเขารู้จักวิธีการบริหารจัดการเวลาที่ถูกต้อง
อย่างคำกล่าวที่ว่า “คนที่ประสบความสำเร็จ ชีวิตหนึ่งวันจะมีเวลา 25 ชั่วโมง ส่วนคนที่ล้มเหลว ชีวิตหนึ่งวันจะมีเวลา 23 ชั่วโมง”
3
พูดง่ายๆ คือ คนสำเร็จเขาทำเหมือนตัวเองมีเวลามากกว่าคนทั่วไป แต่คนล้มเหลวดูเหมือนคนที่มีเวลาน้อยกว่าชาวบ้าน ทั้งที่ความจริงแล้ว เราทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมง เท่านั้น
1
สร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตจาก 7 คอลัมนิสด์ชื่อดังของเจาะใจ ได้ในหนังสือ เรื่องนี้ดี รู้งี้อ่านนานแล้ว
“เปลี่ยนตัวเองเป็นคนที่ดีขึ้น
ด้วยการอ่านหนังสือดีๆ สักเล่ม”
.
แต่ถ้าไม่รู้ว่าตัวเองควรอ่านเล่มไหน
ทักมาปรึกษาสมองไหลได้เลย
.
สั่งซื้อหนังสือออนไลน์ง่ายๆ ส่งตรงถึงหน้าบ้านคุณ
ได้ที่ Inbox เพจ #สมองไหล
1
โฆษณา