9 ก.พ. 2021 เวลา 13:45 • ประวัติศาสตร์
# ชีวิตที่ขมขื่นของ โจ ไบเดน ประธานาธิบาดีที่อายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์
Joe Biden เป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้เขายังดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีของบารัคโอบามาตั้งแต่ปี 2008-2016. ที่มาของเขาจะเป็นเช่นไรนั้น อ่านเรื่องราวต่อไปนี้แล้วคุณจะเข้าใจ
เป็นที่รู้จักกันว่า
Joe Biden เคยทำงานเป็นทนายความในช่วงสั้น ๆ ก่อนที่จะหันมาเล่นการเมือง เขากลายเป็นวุฒิสมาชิกสหรัฐที่อายุน้อยที่สุดเป็นอันดับ 5 ในประวัติศาสตร์
และเป็นวุฒิสมาชิกที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดของเดลาแวร์
แม้ว่าการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2008 ของเขาจะไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนมากนัก แต่ทว่า บารัคโอบามา ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต
ก็ได้เลือกเขาเป็นเพื่อนร่วมงาน ด้วยเหตุนี้ Biden จึงได้ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐอเมริกานับแต่นั้น
Official portrait, 2013
นอกจากนี้ ในปี 2560 โอบามา ยังได้มอบเหรียญแห่งอิสรภาพของประธานาธิบดีให้กับ Biden อีกด้วย แรงใจและแรงสนับสนุนต่าง ๆ ที่เข้าได้รับมานั้น
จึงส่งผลให้สองปีต่อมา Biden ได้ตัดสินใจเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ และได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐอเมริกา
แต่ก่อนที่จะมาถึงจุดสูงสุดของ ตำแหน่งและอำนาจนี้ได้ นั้น คงต้องขอเล่าย้อนกลับไป เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 1942 เสียก่อน เนื่องจากวันนี้เป็นวันแรกที่ Biden ลืมตาดูโลก เขาเติบโตและอาศัยอยู่ในเมืองสีน้ำเงิน หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ Scranton รัฐเพนซิลเวเนีย
เมืองที่เงียบสงบ
ซึ่งในช่วงนั้นพ่อของเขา Joseph Biden Sr. ทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดเตาเผา อีกทั้งยังเป็นพนักงานขายรถยนต์มือสอง ส่วนแม่ของเขา Catherine Eugenia "Jean" Finnegan เป็นแม่บ้าน
พ่อแม่ของ Biden มักจะปลูกฝังให้เขามีความอดทนต่อการทำงานหนัก และความเพียรพยายาม โดยพ่อมักจะบอกกับเขาอยู่เสมอว่า "ความสำเร็จของผู้ชาย ไม่ได้อยู่ที่ว่าล้มบ่อยแค่ไหน แต่อยู่ที่ว่าลุกขึ้นได้เร็วแค่ไหน"
3
นอกจากนี้ Biden ยังเคยเล่าให้ได้ฟังอีกว่า “เมื่อเขากลับบ้านมาพร้อมกับสีหน้าบึ้งตึง กลังจากถูกเด็กที่โตกว่าคนหนึ่งในละแวกนั้นรังแก แม่ของเขาจะบอกเขาว่า "เลือดที่ออกจากจมูกมาในวันนี้ คือแรงผลักดันที่จะทำให้ลูกลุกขึ้นยืนใหม่ได้ในวันถัดไป!"
3
คำสอนที่จำฝังใจ
Biden เข้าเรียนที่โรงเรียนประถมเซนต์พอล ในสแครนตัน จนเมื่ออายุได้ 13 ปี ครอบครัวก็ย้ายไปที่ เมย์ฟิลด์ เดลาแวร์ ซึ่งเป็นชุมชน คนชั้นกลาง ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท เคมีดูปองท์ ที่อยู่ใกล้เคียง
ตอนเป็นเด็ก Biden ต้องสู้กับการพูดติดอ่าง จนนำมาซึ่งฉายาในวัยเด็กว่า "Dash" และ "Joe Impedimenta" ซึ่งเพื่อน ๆ มักจะล้อเลียนเขาแบบนี้อยู่เป็นประจำ
จนกระทั่งความพยายามในการฝึกท่องจำบทกวียาว ๆ และท่องออกมาดัง ๆ หน้ากระจก ทุกวันของเขา ก็ส่งผลทำให้อุปสรรคในการพูดติดอ่างนี้หายไปจนได้
2
Biden at age 10 (1953)
แม้ว่า Biden จะต้องย้ายเข้าไปเรียนที่โรงเรียนเซนต์เฮเลนา แต่เพียงระยะสั้น ๆ เขาก็สร้างผลงานมากมาย จนได้รับการยอมรับให้เข้าเรียนที่ Archmere Academy อันทรงเกียรติได้สำเร็จ
แต่ด้วยค่าเรียนที่ค่อนข้างแพงมาก เขาจึงต้องทำงาน เป็นพนักงานทำความสะอาด และ พนักงานกำจัดวัชพืชในสวนของโรงเรียน เพื่อช่วยครอบครัวจ่ายค่าเล่าเรียน เหตุที่เขายอมทำทั้งหมดนี้ ก็เนื่องด้วยว่า Biden มีความใฝ่ฝัน มานานแล้วว่าอยากเข้าเรียนในโรงเรียนนี้ให้ได้สักครั้งในชีวิต
ซึ่งเขาเรียกความฝันนี้ว่า "เป้าหมายอันสูงสุดในชีวิต” แม้ว่าที่โรงเรียน Biden จะเป็นนักเรียนที่มีขนาดตัวที่เล็กมากกว่าเด็กคนอื่น ๆ ในรุ่นเดียวกัน แต่เขาก็ได้เป็นถึงตัวรับที่ยอดเยี่ยมในทีม อเมริกันฟุตบอล
ที่โค้ชของเขาเคยบอกเล่าไว้ว่า
เด็กที่ผอมบาง
"Biden เป็นหนึ่งในตำแหน่ง receiver ที่ดีที่สุดในรอบ 16 ปี ที่โค้ช ของโรงเรียนเป็นผู้ยอมรับด้วยตัวเอง"
2
หลังจากเรียนจบชั้นมัธยม Biden ก็ได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเดลาแวร์ ซึ่งเขาเรียนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และรัฐศาสตร์
เขายังออกมายอมรับด้วยว่า “ในช่วงสองปีแรกที่เรียนนั้น ผมให้ความสนใจกับฟุตบอล ผู้หญิงและงานปาร์ตี้ มากกว่าการเรียน”
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ให้ความสนใจในเรื่องการเมือง มากขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากที่ จอห์น เอฟเคนเนดี เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี ในปี 1961
แรงบันดาลใจแรก
อีกทั้ง ในระหว่างการเดินทางไปพักร้อนที่บาฮามาส ทุกอย่างก็ได้เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน เพราะที่นั้น Biden ได้พบกับนักศึกษามหาวิทยาลัย Syracuse ชื่อ Neilia Hunter ซึ่งเขาได้บอกเล่าว่า "ผมตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น"
และด้วยความรักครั้งใหม่นี้ จึงทำให้ Bide ตั้งใจเรียนมากขึ้น จนเขาได้รับการยอมรับให้เข้าเรียนที่โรงเรียนกฎหมาย ของมหาวิทยาลัยซีราคิวส์
พร้อมคำมั่นที่ Biden ได้มอบให้กับ Hunter ไว้ว่า “เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วทั้งคู่จะแต่งงานกัน”
คำสัญญา
แต่ทว่าในช่วงปีแรกที่ซีราคิวส์ เขากับล้มเหลวในการเรียนอีกครั้ง เนื่องจากเขาไม่สามารถอ้างอิงข้อกฎหมายได้อย่างถูกต้อง แม้เขาจะอ้างว่า นั้นเป็นเหตุการณ์ และเรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ
แต่เหตุการณ์นี้ก็ยังคงหลอกหลอนเขามาจนถึงอาชีพการงานในเวลาต่อมา
เพราะ หลังจากจบการศึกษาจากซีราคิว Biden ก็ย้ายไปอยู่ที่ วิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ เพื่อเริ่มฝึกงานที่สำนักงานกฎหมาย และที่นั้นเขาก็ต้องใช้การอ้างอิงข้อกฎหมายต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้แล้วเขายังกลายเป็นสมาชิกพรรค Democratic ด้วย
สู่การเมือง
จนกระทั่งในปี 1970 Biden ก็ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกสภาเทศมณฑล ของ นิวคาสเซิล ในขณะที่ได้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาในปี 1971 อีกทั้งเขายังได้ก่อตั้งสำนักงานกฎหมายของตนเองด้วย
นอกเหนือจากชีวิตการทำงานที่ยุ่งเหยิงมากขึ้นแล้ว Biden ยังมีลูกอีกสามคน นั้นก็คือ Joseph "Beau" (เกิดในปี 1969), Robert "Hunter" (เกิดในปี 1970) และ Naomi "Amy" (เกิดในปี 1971) Biden ยังได้เล่าถึงชีวิตของเขาในเวลานั้นว่า
“ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วกว่าที่ผมคาดการณ์ไว้เยอะมาก”
เกินคาดการณ์
ในปี 1972 Biden วัย 29 ก็ได้ลงหาเสียง แข่งขันกับ J. Caleb Boggs ผู้ดำรงตำแหน่งอยู่ในพรรครีพับลิกัน ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และถึงแม้จะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่คิดว่า Biden มีโอกาสได้รับตำแหน่งนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพียงแค่คนในครอบครัวเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ ผู้สนับสนุนหลักและผู้ช่วยในการหาเสียง จึงมีเพียงแค่สมาชิกในครอบครัวของเขาเท่านั้น
โดย วาเลอรี ไบเดน โอเวนส์ น้องสาว ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการ ส่วนพ่อแม่ของเขาก็ทำหน้าที่หาเสียงทุกวัน และด้วยความพยายามของทั้งครอบครัว
จึงทำให้ Biden ได้รับชัยชนะ ในตำแหน่งวุฒิสมาชิกของสหรัฐที่อายุน้อยที่สุด อันดับที่ 5 ในประวัติศาสตร์ของประเทศ
1
ผู้เป็นตำนาน
โศกนาฏกรรมในครอบครัว...
แม้จะเป็นช่วงที่มีความสุข และดูเหมือนทุกสิ่งจะเป็นไปดังที่คิด แต่ทว่าความเศร้าก็มาเยือนหน้าประตูบ้านเข้า ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนวันคริสต์มาสของปี 1972
เมื่อภรรยาของเขาและลูกสามคนประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ขณะที่ออกไปซื้อต้นคริสต์มาสด้วยกันซึ่งอุบัติเหตุครั้งนั้นก็ได้คร่าชีวิตภรรยา และลูกสาวของเขาไป
1
ส่วนลูกชายทั้งสองคนนั้น ได้รับบาดเจ็บสาหัส Biden ที่อยู่ในอาการเศร้าโศกหลังจากได้ทราบว่า เขาต้องสูญเสียภรรยาและลูกสาวไปตลอดกาล เขาจึงคิดที่จะฆ่าตัวตาย โดยฝากลูกชายที่ยังคงอยู่ในห้องไอซียู ให้กับแม่เขาได้ดูแล
50/50
Biden เล่าว่า "ตอนนั้นผมเริ่มเข้าใจแล้วว่าความสิ้นหวังทำให้ผู้คนเป็นบ้า และเสียสติได้มากเพียงไหน และทำไมการฆ่าตัวตายจึงเป็นหนึ่งในทางเลือกที่มักใช้กัน
วันนั้นหลังจากที่คุณหมอแจ้งว่า คนที่รักทั้งสองคนของผมจากไป ผมจึงเดินออกไปจากโรงพยาบาล ไปตามถนนอย่างไร้สติ
ผมเดินไปเรื่อย ๆ โดยหวังเพียงแค่ว่าจะมีใครสักคนเข้ามาหาเรื่อง และทุบตีผมจนตายไปเท่านั้น ในตอนนั้นผมคิดแค่ว่านี้ เพราะนั้นเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว...ผมรู้สึกว่าพระเจ้า เล่นตลกกับผม อย่างโหดร้ายมากเกินไป"
หมดสิ้นแล้วทุกสิ่ง
อย่างไรก็ตาม ด้วยแรงใจจากครอบครัว Biden จึงตัดสินใจที่จะยกย่องความมุ่งมั่นนั้น เพื่อทำให้ Beau และ Hunter ลูกชายทั้งสองคนมีความสุขมากที่สุด
1
ด้วยเหตุนี้ในวันสาบานตน เข้ารับตำแหน่งวุฒิสมาชิกคนใหม่ ของ วอชิงตัน ซึ่งเขาเข้าพิธีสาบานตน ใน บริเวณด้านห้องพยาบาลของลูกชายทั้งสองคน
เพื่อที่จะใช้เวลากับลูกชายให้มากที่สุด นอกจากนี้ Biden ยังตัดสินใจที่จะอยู่ใน วิลมิงตัน ต่อไป โดยเดินทางไปและกลับ จากวอชิงตัน ทุกวันโดยรถไฟ Amtrak แทน อีกทั้งนี้ยังเป็นแนวทางปฏิบัติที่เขาทำมาตลอดการดำรงตำแหน่งอันยาวนานในวุฒิสภาด้วย
In September of 1988, then Senator Joe Biden seen on the platform in Wilmington, Delaware. He was returning to work in the Senate having suffered an aneurysm, which was life threatening. Joe McNally/Getty Images
แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่ การดำรงตำแหน่งเขาในปี 1973 - 2009 ก็เป็นไปได้ด้วยดี
อีกทั้ง Biden ยังได้รับความเคารพ ในฐานะหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายต่างประเทศชั้นนำขององค์กร
โดยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการความสัมพันธ์ต่างประเทศเป็นเวลาหลายปี และยังเป็นผู้เสนอข้อกฎหมายอาชญากรรมที่เข้มงวดมากที่สุดในช่วงเวลานั้นเลยก็ว่าได้
ดังคำที่กล่าวไว้ว่า “จงมีชีวิตเหมือนพระอาทิตย์ ที่ขึ้นใหม่ได้ทุกวัน”
3
*** แบมขอจบตอนนี้ไว้เพียงเท่านี้ก่อนนะคะ ซึ่งในตอนหน้านั้นจะเป็นความเข้มข้นของชีวิตในอีกรูปแบบหนึ่ง ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยค่ะ แล้วแบมจะรีบมาบอกเล่าให้ได้อ่านกันต่อในตอนถัดไปนะคะ***
แปลและเรียบเรียงโดยเรื่องเล่าจากดาวนี้
ที่มา:
ติดตามเรื่องเล่าจากดาวนี้เพิ่มเติมได้ที่
หากชื่นชอบก็อย่าลืมกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ สามารถแชร์แนวคิด มุมมองดีๆได้ใน Comments นี้เลย 😄
โฆษณา