เคยกลัวอะไรมาก ๆ และสุดท้ายก็ได้เจอสิ่งนั้นกันบ้างไหมคะ 🌿🌿
เราเคยกลัวการขูดมดลูกมากเนื่องจากตอนม.6 เคยสมัครสอบโครงการแพทย์ชนบทและได้ไปฝึกงานที่โรงพยาบาลเล็ก ๆ ประจำอำเภอ ขณะฝึกงานอยู่ได้ยินเสียงคนไข้รายนึงร้องโหยหวน เสียงดัง น่าสงสารมาก เลยถามคุณหมอว่าเขาร้องทำไม
คุณหมอบอกว่าเขาไปทำแท้งเถื่อนมาแล้วตกเลือดเลยต้องมาขูดมดลูก ทำให้ฝังใจ กลัวการขูดมดลูกตั้งแต่นั้นมา
ขอบคุณภาพจาก Pixabay
แต่ภายหลังเมื่อเห็นเพื่อนต้องขูดมดลูก ก็ทราบว่ามีการให้ยาสลบ สิ่งที่เราได้ยินมาตอนนั้น คือ การขูดมดลูกสด ๆ โดยไม่มีการให้ยาสลบ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เรากลัวไม่ใช่การขูดมดลูก แต่เป็นการขูดมดลูกสด ๆ โดยไม่มีการให้ยาสลบ !!
และเมื่อเห็นคนอื่นแท้งลูก เราก็ได้แต่สงสารแต่ก็ไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับเรา แต่สุดท้ายเราก็ได้เจอกับตัวเองเมื่อกลางปีที่แล้ว ตอนตั้งท้องครั้งที่ 2 ช่วงที่โควิดกำลังระบาดพอดี
อาการเกิดขึ้นตอนอายุครรภ์ได้ 8 สัปดาห์ เริ่มแรก คือ ตอนหัวค่ำรู้สึกเหมือนมีตกขาวออกมาเยอะ พอไปอาบน้ำก็พบว่าไม่ใช่ตกขาวแต่เป็นเลือดสีน้ำตาลคล้ายประจำเดือนมาวันแรก เลยไปเสิร์ชหาข้อมูล พบว่าถ้าเลือดเป็นสีน้ำตาลจะเป็นเลือดเก่า ไม่อันตราย ก็ใจชื้นขึ้นมา
แต่พอตกดึกมีเลือดออกมาอีกครั้ง คราวนี้เป็นเลือดสีแดงสด เริ่มไม่สบายใจเลยเสิร์ชหาข้อมูลเกี่ยวกับภาวะแท้งคุกคาม ซึ่งพบว่าเกิดขึ้นได้กับการตั้งครรภ์ถึง 25% แต่ก็สามารถรักษาได้โดยการฉีดยากันแท้งและนอนอย่างเดียว ห้ามลุกไปไหนยกเว้นเข้าห้องน้ำ
ตอนเช้าพบว่าเลือดหยุดไหลแล้ว แต่ก็ไปโรงพยาบาลเพื่อความปลอดภัย พอหมอตรวจภายในเสร็จก็บอกว่าต้องนอนโรงพยาบาลนะเพราะเป็นภาวะแท้งคุกคามและฉีดยากันแท้งให้
ตอนนั้นก็ไม่ได้วิตกกังวลอะไรเพราะโทรปรึกษาเพื่อนที่เคยเป็นมาแล้ว คิดว่าเดี๋ยวก็หายแค่นอนกับเตียงสักสองอาทิตย์
เช้าวันรุ่งขึ้นเลือดหยุดไหลแล้ว คุณหมออนุญาตให้กลับบ้านได้ แต่อยู่ ๆ ก็ปวดท้องเหมือนปวดประจำเดือนแต่ปวดกว่า ปวดบีบเป็นครั้ง ๆ เลยแจ้งคุณหมอ
คุณหมอบอกว่าเป็นปกติของคนเป็นภาวะแท้งคุกคาม เพื่อความแน่ใจให้รอพบอาจารย์หมอตอนบ่ายอีกครั้ง พอเที่ยง ๆ รู้สึกเหมือนมีเลือดออกเยอะเลยเข้าห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนผ้าอนามัย
ขอบคุณภาพจาก Pixabay
ขณะที่นั่งชักโครกก็ก้มลงดูเห็นเลือดออกเป็นหยด ๆ เลยเอามือไปแตะดูที่ช่องคลอด รู้สึกว่าเจออะไรนิ่ม ๆ ลองแตะ ๆ ดูใหม่ ปรากฏว่ามีถุงคล้าย ๆไข่ปลา แต่เป็นสีแดงและมีสีขาว ๆ ปนอยู่เหมือนกุนเชียงนิ่ม ๆ หลุดออกมาประมาณอุ้งมือนึง
ตอนนั้นมั่นใจว่าต้องเป็นถุงตั้งครรถ์ ใจหายวาบ ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นคนโชคร้าย มีคนตั้งมากมายที่เป็นแต่เขาก็หาย แต่เรากลับโชคร้าย อยู่ ๆ น้ำตาก็ไหลมาโดยไม่รู้ตัว
หลังจากนั้นหมอตรวจภายในไม่พบถุงตั้งครรภ์แล้วแต่พบจุดขาว ๆ หลงเหลืออยู่ ซึ่งหมอให้เราตัดสินใจเองว่าจะขูดมดลูกหรือไม่ขูดก็ได้ แต่แนะนำให้ขูดจะดีกว่า ถ้าไม่ขูดอาจจะไม่เป็นไร ร่างกายจะขับเลือดที่ค้างมาทางประจำเดือนเอง
แต่บางรายก็มีการตกเลือดซึ่งต้องขูดมดลูกอยู่ดีและเจ็บด้วย เลยตอบหมอไปว่าจะขูดมดลูกและสอบถามว่ามีการให้ยาสลบใช่ไหม ?
คุณหมอตอบกลับมาว่า..อาจารย์หมอไม่อนุญาต !! เพราะเคสเราไม่ใหญ่ เหลือนิดเดียว หมอขูดเองในวอร์ดได้เลย ไม่ต้องให้ยาสลบแต่จะฉีดยาแก้ปวดให้
ขอบคุณภาพจาก Pixabay
ถามคุณหมอว่าเจ็บมากไหม หมอบอกว่า..ก็เจ็บนะ เห็นคนไข้มักจะร้อง พยาบาลแอบกระซิบว่าเจ็บมากกกกก และก่อนเข้าตรวจภายในก็เจอพยาบาลพยุงคนไข้ออกจากห้องหลังจากขูดมดลูกแล้วมีอาการเป็นลม เลยเปลี่ยนใจไม่ขูด !!หมอก็เลยให้นอนดูอาการต่ออีกคืน
คืนนั้นเลยเสิร์ชหาข้อมูลการขูดมดลูกสดและพบว่ามีน้อยรายมาก ส่วนใหญ่หมอจะวางยาสลบ แต่ในจำนวนนั้นทุกรายเล่าถึงความเจ็บปวดทรมาน บางรายก็ดิ้นจนอุปกรณ์หลุด บางรายก็บอกว่ากรีดร้องจนสามีทนฟังไม่ได้ เจ็บจนสลบไป
มีเคสนึงที่คุณหมอเขียนเล่าว่าตอนเป็นแพทย์ใหม่ ๆ โทรแจ้งอาจารย์หมอว่าเตรียมจะพาคนไข้ซึ่งเป็นเด็กสาวที่ท้องในวัยเรียนและไปทำแท้งมาแล้วตกเลือดไปเข้าห้องผ่าตัดเพื่อขูดมดลูก แต่อาจารย์หมอบอกว่าไม่ต้อง ให้ขูดสดเลย จะได้เข็ดซะมั่ง !!
ขอบคุณภาพจาก Pixabay
หมอตกใจมากแต่ก็ต้องทำตามคำสั่ง
ระหว่างขูดไปก็เครียดไป เหงื่อแตก สงสารเด็กสาวคนนั้นมาก เสียงร้องของเด็กที่บอกว่า หมอหนูเจ็บ ๆๆ ยังก้องอยู่ในหูหมอ แม้ว่าจะผ่านมาแล้ว 20 ปีก็ตาม
ยิ่งอ่านก็ยิ่งกลัว พอรุ่งเช้าคุณหมออีกคนมาตรวจได้แนะนำให้ขูดมดลูกไปเลย ไม่ต้องมาลุ้นว่าจะตกเลือดหรือเปล่า และบอกว่าหมอเพิ่งขูดไปเคสนึงลองไปคุยกับเขาดูก็ได้
เราเลยไปสอบถามเขาและได้ความว่าที่วอร์ดหมอจะใช้แท่งพลาสติกดูดเข้าไป ซึ่งเขาโดนดูดไป 3 ครั้ง เจ็บในระดับที่ทนได้ ส่วนแบบวางยาสลบหมอจะใช้แท่งเหล็กขูดซึ่งจะเจ็บกว่ามากเลยต้องวางยา เราก็เลยมีกำลังใจขึ้น เอาวะ สู้ สู้
ระหว่างที่นอนบนขาหยั่งก็ทำสมาธิ ขอพรต่าง ๆ และทำใจให้เข้มแข็ง ท่องดัง ๆ ในใจวนไปว่า ฉันทำได้ ๆๆๆ เหมือนตอนเบ่งท้องคลอด ที่ต้องรวบรวมสมาธิและฮึดสู้ ไม่งั้นเราจะเจ็บและไม่มีแรงเบ่ง ซึ่งตอนคลอดลูกเราก็ทำแบบนี้ นึกภาพนักกีฬายกน้ำหนักที่ต้องรวบรวมสมาธิแล้วบอกว่า...สู้โว้ย !!!
ขอบคุณภาพจาก Pixabay
พอคุณหมอดูดไปครั้งแรกก็ถามเราว่าเจ็บไหมเพราะเห็นเรานอนหน้าตาปกติมาก เราบอกหมอว่าทนได้ คือ เจ็บแต่ก็น้อยกว่าที่คิดไว้ เจ็บแบบหน่วง ๆ คงเพราะฤทธิ์ยาแก้ปวดด้วย หมอดูดไป 3 ครั้งก็บอกว่าเหมือนยังออกไม่หมด แต่ขูดต่อไม่ได้แล้วจะเป็นอันตราย ขอปรึกษาอาจารย์หมอก่อน
สุดท้ายคุณหมอบอกว่าต้องส่งไปห้องผ่าตัดขูดแบบวางยาสลบต่อ และแล้วก็ได้วางยาสลบสมใจ พอไปห้องผ่าตัดเลยเข้าใจว่าทำไมคุณหมอถึงให้เคสเล็ก ๆ ขูดที่วอร์ด เพราะต้องผ่านการเอ็กซ์เรย์ ต้องใช้เจ้าหน้าที่หลายคน อาจารย์หมอเป็นคนขูดเอง ซึ่งคงจะเป็นการสิ้นเปลืองบุคลากรและค่าใช้จ่าย
ขณะที่คุณหมอและพยาบาลกำลังจับเราขึงโน่นขึงนี่ เราก็ยังกังวลเพราะไม่เห็นคุณหมอให้ดมยาสลบเลยถามไป คุณหมอบอกว่าใช้การฉีดยาเข้าสายน้ำเหลือแล้ว ว่าแล้วเราก็หลับไป รู้ตัวอีกทีมานอนในห้องพักฟื้นแล้ว หมอให้กลับบ้านได้เลย
สรุปค่าใช้จ่ายแอดมิท 2 คืน 12,000 บาท ไม่รวมค่าห้อง ประกันสังคมจ่าย กลับบ้านไปก็ไม่มีอาการอะไร วันรุ่งเช้าก็ไม่มีเลือดไหลแล้ว
ขอบคุณภาพจาก Pixabay
ในความโชคร้ายก็ยังมีโชคดี โชคร้ายที่เสียลูกไปแต่ก็ยังโชคดีที่ไม่มีอาการแทรกซ้อนอะไร ไม่ต้องเจ็บตัวเหมือนอีกหลาย ๆ คน และยังทำให้รู้ซึ้งถึงความรักของแม่
การจะได้เป็นแม่คนนั้นไม่ง่ายเลย ยิ่งในสมัยก่อนที่ระบบสาธารณสุขยังไม่เจริญนั้น การตั้งท้องแต่ละครั้งจึงเป็นความเป็นความตายของผู้หญิง ยิ่งทำให้รู้สึกรักแม่มากขึ้นไปอีก 🌿🌿
ขอบคุณทุกคนที่แวะมาให้กำลังนะคะ ♥️♥️
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
