19 ก.พ. 2021 เวลา 11:54 • ปรัชญา
Compassion Week #7 Month of love.
Happy valentine
(Episode 3/3)
Best Friend
You will never walk alone.
คนเรานั้นมีความรู้แตกต่างกัน ไม่มีใคร รู้ละเอียดในทุกเรื่อง
หลวงพ่อชา ท่านมุ่งปฏิบัติธรรม หลายครั้งที่ท่านเดินทางไปปฏิบัติคนเดียวแล้วเกิดคิดติดขัดหาทางออกไม่ได้ ต้องเดินทางไปหาผู้รู้ ให้ช่วยชี้ทาง แก้ปัญหา ให้ ก้าวไปต่อได้
หลวงพ่อชา เดินทางไปหาอาจารย์มั่น อยู่ฟังธรรมกับอาจารย์มั่นเพียง 3 วัน แต่หลังจากนั้น ไม่ว่าหลวงพ่อชาจะอยู่ที่ไหน ก็รับรู้เหมือนกับว่าอาจารย์มั่นคอยสอดส่องการปฏิบัติของหลวงพ่อชาอยู่เสมอ ทำให้หลวงพ่อชาก้าวหน้าไปได้เสมอ
2
หลวงพ่อชา เป็นศิษย์ที่อาจารย์มั่นบอกว่าไม่ต้องญัตติเป็นธรรมยุติ เพราะนิกายไหนก็บรรลุธรรมได้เช่นกัน อาจารย์มั่น หวังให้หลวงพ่อชา เป็นกำลังหลักของฝ่ายมหานิกาย
เพราะสรรพสิ่งล้วนเป็นธรรม
มีหลายเรื่องที่หลวงพ่อชาท่านพิจารณาธรรมจากธรรมชาติ เช่น
เรื่องคนที่ตกเป็นทาสกิเลส เหมือนนกที่ติดบ่วงนายพราน เขาจะหักปิกความชอบธรรมทำให้บินไม่ได้ หรือเขาจะหักขาทำให้ไม่สามารถลุกขึ้นสู้ก็ได้
เรื่องสมมุติโดยมีแก่นแท้ที่เป็นต้นน้ำมาจากรูปแบบธรรมเดียวกัน แล้วปรับเปลี่ยนสมมติให้เป็นสิ่งต่างๆ นั้น ท่านก็เรียนเอาจากธรรมชาติ
มีครั้งหนึ่งหลวงพ่อชา ลงมาจากเขา พอดีเกิดฝนตกหนัก จึงเข้าหลบฝนที่ศาลา นั่งมองสายฝนที่ตกลงมา พิจารณาเห็นว่า สายฝนตกจากฟ้าทั้งหมด แต่ถ้าตกลงหลังคาที่รองน้ำใส่ตุ่ม ไว้เป็นน้ำดื่ม ที่ตกไหลลงท่าน้ำก็เป็นน้ำท่า เป็นน้ำใช้ ทีไหลลงคลองก็เป็นน้ำคลอง น้ำต่างๆ แก่นแท้เป็นน้ำที่ตกจากฟ้าเหมือนกัน
คนเรานั้นแม้จะแตกต่าง เชื้อชาติ ผิวพรรณ แต่ทุกคนมีแก่นแท้รูปแบบเป็นคนเหมือนกัน
You will never walk alone.
หลวงพ่อชาสอนว่า “ให้เข้าใจว่าพระพุทธเจ้า ยังอยู่นะ”เราทำ ที่ไหนๆ ที่เป็น“สัจจะธรรม”แล้ว
จะคิดว่าเราทำชั่วอยู่ที่นี่ ไม่เป็นไรหรอก ไม่มีใครเห็น “พระพุทธเจ้าเห็นนะ” ท่านยังอยู่ คอยประคับประคองให้พวกเราเดินทางให้ถูกต้องอยู่เสมอ แต่เราไม่เห็น แต่เราไม่รู้เรื่อง
ที่ไม่มีใครเห็น แต่ตัวเรานะเห็นความจริง“สัจจะธรรม”ที่เราทำผิดหรือเราทำถูกอยู่ ไม่ว่าเราจะไปทำที่ไหน ที่เป็นความลับไม่มี เพราะเราเห็นความจริงตลอด
พระพุทธเจ้า "ผู้ใดเห็น“สัจจะธรรม” ผู้นั้นเห็นเรา"
เดิมไม่มีพระพุทธเจ้า เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะ บรรลุคุณธรรมอันแท้จริง ได้เป็น“พระพุทธเจ้า”คือเป็น “ท่านผู้สอนให้ปุถุชน ประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ ที่เรียกว่าพุทธศาสนา”
พระพุทธเจ้าตรัสรู้คุณธรรมแล้ว ท่านไม่ได้เอาไปด้วยหรอก คุณธรรมนั้นยังอยู่บนโลกนี้
พระพุทธเจ้า "ผู้ใดเห็น“สัจจะธรรม” ผู้นั้นเห็นเรา"
เพราะสรรพสิ่งล้วนเป็นธรรม
เมื่อศิษย์พร้อม อาจารย์ก็ปรากฏตัว
พระอริยสงฆ์ เห็นสัจจะธรรม เหมือนเห็นพระพุทธเจ้าที่เป็นนามธรรมนั่งอยู่ตรงหน้าตลอดเวลา
1
เพราะสัจจะธรรมความจริงแท้ ไม่ว่าเราไปทำผิด หรือทำถูก ที่ไหน ไม่มีใครเห็น แต่ตัวเราเห็นตัวเองและบันทึกลงเป็นข้อมูลกฎแห่งกรรม
หลวงพ่อชา สอนไม่ให้เอาใจฝากไว้กับคนอื่น
คนที่ดีใจหรือเสียใจกับคำพูดของคนอื่น เป็นเพราะไม่เชื่อตัวเอง เช่นตัวเราดีอยู่ คนบอกว่าเราไม่ดีก็เสียใจ จึงเป็นคนอนาถา
หลวงพ่อชา ท่านมีเมตตามาก ท่านสอนโดยชอบพูดรุนแรงหน่อยเพื่อให้ฟังแล้วตื่นเต้น ตื่นขึ้นมาแก้ไข ไม่ใช่ฟังไปเฉยๆ
ยิ่งกว่าคำพูดรุนแรง หลวงพ่อชา เมตตาใช้เท้าถีบหน้าอกพระจนหงายท้องก้นกระแทกพื้น ทำให้พระฟิลิปตื่นเต้นและได้รู้ถึงความผิดตัวเอง เมื่อฟังหลวงพ่อชา สอน"ไม่ให้เอาใจฝากไว้กับคำพูดของคนอื่น”
โดยพูดถึงเหตุการณ์ เมื่อเช้าพระฟิลิปอารมณ์ขุ่นมัวที่เพื่อนพระนินทากันไม่รู้จักสำรวม พอตกสายเดินผ่านกุฏิหลวงพ่อชาแล้วหลวงพ่อทัก “Good Morning”ทำให้พระฟิลิปหายขุ่นมัวและดีใจ พอตกเย็นมานวดเท้าให้หลวงพ่อชาร่วมกับพระอื่นๆพอถึงเวลาสวดมนต์เย็น
หลวงพ่อชาบอกว่าให้พระฟิลิปคนเดียวอยู่นวดเท้าต่อไม่ต้องไปสวดมนต์เย็น ทำให้พระฟิลิปยิ่งใจพองโต จนหลวงพ่อชาต้องถีบให้รู้สึกตัวว่า อย่าไปดีใจ เสียใจเพราะคำพูดของคนอื่น อย่าไปฝากใจไว้กับคนอื่น ต้องเป็นตัวของตัวเอง
อ่านถึงตรงนี้ ผู้อ่านคงเห็นชัดในความเมตตาของหลวงพ่อชา
Compassion Week #8 Month of love.
วันมาฆบูชา Unconditional love.

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา