14 ก.พ. 2021 เวลา 13:30 • นิยาย เรื่องสั้น
#จันทร์เจ้าขาตอนพิเศษ,
#ที่มาตัวละครผู้กองหนุ่มบทที่ 2ตอนที่ 1
(14/2/2021)
สวัสดีครับ เพื่อนๆ
จันทร์เจ้าขา ในคืนวันวาเลนไทน์ นี้.. เป็นตอนพิเศษ ของผู้กองหนุ่ม นายแพทย์ชอว์ สมิงไพรหนุ่ม มะตีฮะน้อย และเปิดตัวคุณหนูน้อยซ์ ในช่วงท้าย นะครับ..
สุขสันต์วันอาทิตย์นะครับ ทุกคน
..
..
บทที่ 2 ตอนที่ 1 ผู้กองหนุ่ม นายแพทย์ชอว์ สมิงไพรหนุ่มมะตีฮะ และคุณหนูน้อยซ์ (5)
#บริเวณประตูเมืองบังบดเขตไทรโยคที่ครอบครัวชาวมอญกำลังเดินเท้า,
ปรากฏ..ลูกธนูลึกลับจำนวนมหาศาลวิ่งฝ่าอากาศ ข้ามออกมาจากในบริเวณเขตป่าของประตูเมืองบังบด..
และพุ่งใส่ชาวมอญที่กำลังเดินเท้าอพยพหนีภัย อยู่ในเส้นทาง
เสียงจากลูกธนูเหล่านั้น ..
เวลานี้ฟังดูคล้ายเสียงขู่ฟ่อของงูยักษ์ที่กำลังจะพุ่งเข้าฉกเหยื่อเคราะห์ร้าย..
“ฟู่วววๆๆๆๆ..”
จากนั้น ..เสียงร้องโหยหวน ของครอบครัวชาวมอญ ก็ดังก้องขึ้น..ไล่หลังตามหลัง..ม้าของสมิงอะคร้าน
และปลุกให้มะตีฮะ..ตื่นขึ้นมาพบกับภาพของบรรดาผู้อพยพชาวมอญ กำลังร่วงลง..ล้มตาย..ราวกับใบไม้ในป่า..ที่หลุดปลิดปลิว..
ไปตามสายลมแห่งความตายจากลูกธนูนั้น..
“ ฮื่อ จ๋งเกาะข้าไว้ให้แน้น เถิด..เจ้าทั้งสอง ..ลูกธนูของทหารแถวที่สอง จักมีจำนวนมากกว่านี้นัก..”
สมิงอะคร้าน ร้องเตือน พร้อมกับห้อม้าควบทะยานไปข้างหน้า อย่างรวดเร็ว..
..
..
แต่ทันใดนั้นเอง สมิงเป่อ กลับดึงสายบังเหียนควบคุมให้ม้าของตน วิ่งชะลอลง ..แล้วจึงบังคับม้าให้หันกลับไปเผชิญหน้า กับกองทหารลึกลับผู้ประสงค์ร้ายนั้น..
สมิงอะคร้าน เห็นดังนั้นจึงกระตุกสายบังเหียน ให้ม้าของตนหยุดวิ่ง..แล้วร้องถามสมิงเป่ออย่างขัดใจขึ้นว่า..
“ฮื่อออ!! นี่ผี กำลังทำอะไร๋อยู่ รู้ตั๋วดีใช่ไหม..
พวกมันกำลังจะยิงธนูชุดที่สอง และที่สาม ตามหม๋าใน๋ไม่ช้านี้ แล้ว..
รีบห้อม้า ไปหาเจ้าเมี้ยะวดีกันเถิดหน๋า ผีจ๋า..”
สมิงเป่อ หันมองสมิงอะคร้าน แล้วตะโกนขึ้นว่า..
“โหวยย ไอ่หม๋า.. ข้า
เป๋นพี๋ ..ยังไม่ได้เป๋นผี!!!”
เอ๋งจงเร่งพ๋า เจ้าสมิงไพร กับเจ้าเด็กน้อย ไปหาเมี้ยะวดี โด๋ยเร๋วเถิด..
ข้าจะต้านศึกทางนี้ ถ่วงเวลาให้พวกเจ้า และชาวมอญได้เร่งหนีเข้าอีกทางของประตูเมืองบังบดเพื่อที่จะทะลุไปยังช่องแคบ ..
พบกับทหารหลวงอาทมาฏของออกหลวงพจน์ฯ..ตามแผนการที่ไว้วางไว้เถิดหน๋า”..
สมิงอะคร้านได้ฟังความจากสมิงเป่อผู้พี่แล้ว จึงส่งสายบังเหียนให้สมิงไพรหนุ่ม แล้วพูดขึ้นว่า..
“ฮื่ออออ จ๋งเร่ง ไปเถิด เจ้าสมิงไพรหนุ่ม..และลูกศิษย์น้อย ขอจ๋งช่วยเมี้ยะวดี..พ๋าบรรดาครอบครัวชาวมอญอพยพหนีไปให้พ้นภัยนี้เถิด..
ข้าจะอยู่ร่วมต้านศึกกับผีสมิงเป่อ..ที่นี่ให้เอ๋งง
จ๋งรู้ไว้เถิด.. เจ้าสมิงไพรหนุ่ม ว่า พ๋วกเร๋าขือ เชื้อสายสมิง ผู้เป๋นเจ้าแห่งพ๋งไพร๋ ..แลเป็นไม้แห่งกรอบบานประตูรักษาพระไตรปิฏก หม๋าช้าน๋าน..
และพ่อของเจ้า คือ เจ้าแห่งสมิงทั้งป๋วง.. พวกเร๋ามีอายุขัยยืนยาว กว่ามนุษย์ทั้ง
หลายมากนัก..
ขอจ๋งอย่าต๋ายโหงต๋ายห่า กับเรื่องบ้าๆบอๆ มุทะลุเสียล่ะ..เจ้าสมิงไพรหนุ่ม..
ส่วนศิษย์ข๋องเจ้า คือนางสิงห์ แห่งตระกูลโบตูระ ก็อย่ามัวแต่โอ๋แต่เลี้ยงให้มั๋นเป็นลูกแมวเสียล่ะ..ฮะฮะฮะ
จ๋งไปเถิด..ขอพรอั๋นดีจงสถิตย์อยู่กับเจ้าทั้งสองเถิด”
สมิงอะคร้าน กล่าวเสร็จก็กระโดดลงจากหลังม้า แล้ววิ่งไปยืนข้างๆ กับสมิงเป่อผู้พี่..พร้อมกับหันมองหน้าสมิงเป่อ และพูดขึ้นว่า..
“ข้า สมิงอะคร้าน ดีใจ๋นักที่วันสุดท้ายแห่งชีวิต ขือ ก๋าร ได้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับผี และได้ต๋ายในสนามรบแห่งนี้กับผี ขอรับ”
สมิงเป่อ ชักดาบคู่ออกมากระชับในมือ ก่อนที่จะหันหน้าไปยิ้มให้กับ น้องรัก แล้วพูดว่า..
“ไอ่หม๋า ขืนเรียกข้าว่า ผี อีกครั้งเดี๋ยวหน๋า..
คราวนี้ เอ็งจะได้เป็นผี ก่อน พี๋แน่ๆ หึหึ..
มาแข่งกันกับพี๋เถิดหน๋าว่า ใครจะฆ่าเจ้าพวกทหารผีนัต แห่งผีพระเจ้าอโนรธา มังช่อ ได้มากกว่ากัน..หึหึ”
สมิงอะคร้าน ยิ้มตอบรับด้วยใจฮึกเหิม ก่อนตะโกนก้องว่า..
“ฮื่ออ ได้เลย..ขอรับ ท่านผ..พี๋”
..
..
มะตีฮะ ตาลอยจ้องมอง ลูกธนูชุดใหม่จำนวนมหาศาลที่ถูกยิงออกมา จนปิดแผ่นฟ้า เป็นเงาทะมึนดำมืดหนาแน่น ..และร้องเรียกสมิงไพรหนุ่ม เสียงหลง ว่า..
“อ๋าาาา...จ๋านนนน ไม่ทันแล้ววว”
..
..
#ในป่าลึกลับเขตเมืองบังบดที่ตั้งของกองทัพทหารผีในสังกัดนัตมินคยีผู้พี่,
นัตมินมหาคีรี เอ่ยถามนัตมินคยี ด้วยความสงสัย ว่า..
“เหตุใด มินคยี ผู้พี่ของนัตมินเล จึงกระทำการไล่สังหารชาวมอญ ผู้บริสุทธิ์ จำนวนมากเช่นนี้ กันนะ?!?
ช่างผิดวิสัยของมินคยี ผู้เปี่ยมเมตตา ยิ่งนัก..”
นัตมินคยี หมุนคอกลับมาทางด้านหลัง จ้องมอง นัตมหาคีรี ด้วยสายตาเมตตาแล้วพูดขึ้นว่า..
“จงม้วนไส้ของเจ้าเก็บให้เรียบร้อย ก่อนเถิดมหาคีรี..
ที่นี่เป็นสนามรบ มิใช่นัตวิหาร ที่พวกเราจะแต่งกายตามสบายเช่นเดิมไม่..”
จากนั้นจึงหมุนศีรษะหันกลับไปมองยังชาวมอญที่นอนตายอยู่ด้านหน้าของป่า..แล้วพูดขึ้นว่า
“หนทางสู่ชัยชนะ นั้นมีหลายทางนัก
การที่มินเลหวังจะเอาชัยต่อเหล่าทหารอาทมาฏ แล้วจึงค่อยเข้าจับกุมพาชาวมอญเหล่านี้กลับกรุงอังวะ ก็เป็นทางหนึ่ง..
แต่ก็เป็นทางที่สุ่มเสี่ยงที่จะสร้างความเสียหายและพลั้งพลาดต่อตนเอง และทัพพม่า..
ก็เนื่องด้วยทหารอาทมาฏของกรุงศรีอยุธยามีฝีมือรบเป็นที่เลื่องลือยิ่งนัก..
ดังนั้นทางของข้า คือ การเข้าเข่นฆ่าชาวมอญให้สิ้นเสียในคืนนี้แทน..
ก่อนที่ทัพพม่า และทัพกรุงศรีอยุธยาจะได้ทันเข้ารบกันในวันพรุ่ง..
แล้วพวกเราก็จะยกทัพกลับ เข้าแจ้งถึงชัยชนะในการเข่นฆ่าเหล่าชาวมอญที่ทรยศต่อกรุงอังวะ ให้ทราบทั่วกัน..
เท่านี้ น้องมินเล และกองทัพพม่า ก็มิต้องสุ่มเสี่ยงสูญเสียใดๆ..ในการต้องเข้ารบ..
นอกจากนี้ก็ยังจะสามารถเปลี่ยนชะตาชีวิตของพระเจ้าสิรินันทสุธรรมราชา พระเจ้าอังวะ (ชื่อทางพม่า-พระเจ้าพินทาเล) ให้ไม่ต้องกลายเป็นนัตแห่งความพยาบาท ได้อีกด้วย..
และส่วนเหล่าชาวมอญทั้งหลายที่ตายลง..
ข้านัตมินตยี จะขอรับทุกดวงวิญญาณนั้น เข้าเป็นเหล่าบริวาร ทหารในสังกัดของข้า มิให้ต้องอดอยากเป็นผีเร่ร่อน เฉกเช่นเหมือนเมื่อครั้งเป็นมนุษย์..”
นัตมหาคีรี พยักหน้าฟังอย่างเข้าใจ และนับถือในสติปัญญา และความเป็นผู้นำอันเด็ดเดี่ยวของนัตมินคยี ยิ่งนัก..
นัตมินคยี ยกมือขึ้นให้สัญญาณอีกครั้ง แล้วจึงสั่งการ ว่า..
“จงสั่งให้กองพลธนูจากแถวที่สามถึงเจ็ด ยิงพร้อมกัน ณ.บัดนี้..”
..
..
“แถวที่ 3..4..5..6..7
ยิงได้!!!!!!”
..
..
#ยอดเขาเก้าเส้งจังหวัดสงขลาในเย็นวันเดียวกันกับเหตุการณ์ในตำหนักช้างพลายดำ,
“นึ้ง..สอง..สาม เดี๋ยวฉันจะหา..เธอให่เจ๋อ”
คุณหนูน้อยซ์หลับตาขานนับเลข..อยู่เดียวที่ก้อนหินใหญ่หัวนายแรง.
“กึกๆ..กึก..ครืด กึกๆ”
เสียงกุกกัก ดังออกมาจากช่องหลุมใต้ก้อนหินใหญ่ เป็นระยะๆ คล้ายเสียงคนกำลังเคาะนิ้ว สลับกับเสียงเล็บขูดกับหิน..
คุณหนูน้อยซ์จึงลืมตา กลมใส ขึ้น พลางย่อตัวลงมองข้างใต้ก้อนหินอย่างช้าๆ..
ทันใดนั้นเอง ลูกสวด(สวาด) เม็ดเอกของคุณหนูน้อย ก็หลุดจากมือ กระเด็น..กลิ้งไหล ตกเข้าไปในช่องใต้ก้อนหินใหญ่..
คุณหนูน้อยซ์ ส่ายหน้า พลางถอนหายใจอย่างไม่สบอารมณ์ แล้วจึงค่อยๆนอนราบ และยื่นมือ เข้าไปควานหาเม็ดหมากขุมของตน..
“หยูหนี่เอ๋ง..”
คุณหนูน้อยซ์อุทานอย่างดีใจ เมื่อนิ้วสัมผัสกับเม็ดกลมลูกนั้น..
คุณหนูน้อยซ์ชักมือกลับออกมา ..พร้อมกับแบมือนั้นออก..
ภาพที่เห็นในมือนั้น..แทนที่จะเป็นลูกสวด..แต่กลับเป็น มุกเม็ดใหญ่สีขาวส่องสว่าง
“นี่หมั๋น หม่ายช่ายของหนู๋ เจ้าค่ะ..” คุณหนูน้อยซ์เอ่ยขึ้นเบาๆ แล้วค่อยๆย่อตัว นอนลงยื่นมือกลับเข้าไปในช่องว่างใต้ก้อนหินใหญ่..
และวางมุกเม็ดใหญ่นั้นคืนกลับลงไปที่เดิม..
“เอ๊า คุณหนูน่อยซ์.. มาทำไหรตรงนี่ เจ้าคะ?!?”
แม่นมนงค์ รีบเดินเข้ามาช่วยจับ คุณหนูน้อยซ์ ให้ลุกขึ้น แล้วปัดเศษดินที่ติดอยู่ให้หลุดออก..ขณะที่คุณหนูน้อยซ์ เล่าให้ฟังว่ากำลังก้มลงหาเม็ดลูกสวดของตนที่หล่นหาย..
และในระหว่างนั้นเอง..ก็ปรากฏมือเล็กขาวซีดยื่นออกมาจากช่องหินนั้น แล้วค่อยๆวางลูกสวดลงกับพื้น ก่อนที่ชักมือกลับลงใต้ช่องหินนั้นอย่างรวดเร็ว..
..
..
“เอ๊า ลูกส๊วดคุณหนูน่อยซ์ ต๊กหยูนี่เอ๋ง”
แม่นมนงค์ ร้องขึ้น และก้มลงหยิบลูกสวดยื่นให้คุณหนูน้อยซ์ ..
ลูกสวาด
ก่อนที่จะจูงคุณหนูน้อยซ์เดินกลับไปยังบริเวณที่รถลากจอดรอรับอยู่..ด้านล่าง
..
..
จบบทที่ 2 ตอนที่ 1
#เกร็ดเพิ่มเติม
นัตทั้ง 37 ตน ของพม่าซึ่งเรียกว่า แน็ตมิน (นัตมิน) หรือผีหลวง ส่วนตํารามหาคีตะเมคะนี (Maha Gita Megani) ที่ว่าด้วยเรื่องผีซึ่งอยู่ในคัมภีร์โลกาพยุหะ อันเป็นตําราตามขนบจารีตพม่า ซึ่ง เซอร์ยอช สก็อต เป็นผู้เรียบเรียงไว้ในอภิธานเมืองพม่าเหนือ (Upper Burma Gazetteer) มีรายชื่อเมืองและประวัติของผีหลวงทั้ง 37 ตน บอกถึงธรรมเนียมเข้าทรงผี ซึ่งส่วนใหญ่คนทรงจะเป็นผู้หญิง (ต่างจากปัจจุบันที่มักเป็นงานของผู้ชายจิตใจหญิง) และนัตแต่ละตนจะมีการขับร้อง การฟ้อนรํา ที่มีเพลงและเครื่องดนตรีเฉพาะตน..ในวัดเจดีย์ชเวสิโกง เมืองพุกาม มีการสร้างรูปนัตแกะสลักจากไม้ขนาดเท่าหุ่นกระบอกที่มีครบอยู่ 37 ตน เพียงแห่งเดียว ซึ่งแต่ละตนต่างแต่งตัวด้วยอาภรณ์หลากสี ตั้งอยู่บนฐานชุกชีในวิหารยาวประมาณ 4 ห้อง มีนัตเพียงคนเดียวที่มีขนาดเท่าคนจริง สวมเครื่องทรงกษัตริย์ซึ่งคือพระอินทร์ ผู้เป็นหัวหน้าของนัตทั้งหมด,
-สำหรับ นัตมินเล เป็นนัตสองพี่น้องตระกูล Taungbyon คนพี่ชื่อ Min Gyi คนน้องชื่อ Min Lay ทั้งคู่เป็นเสนาบดีในราชสำนักของพระเจ้าอนิรุทธมหาราช คนพี่ “มินคยี/มินจี” เป็นคนสุขุม เงียบขรึม เคร่งศาสนา ส่วนคนน้อง “มินเล” เป็นนักรักเจ้าสำราญ ..ความตายของสองพี่น้องมาจากช่วงที่กำลังควบคุมการก่อสร้างศาสนสถานให้พระเจ้าอนิรุทธมหาราชอยู่นั้น พวกเขาจัดหาอิฐมาก่ออาคารได้ไม่ทันใจกษัตริย์ จึงถูกลงโทษด้วยการสั่งให้ตัดอัณฑะทิ้ง จนกระทั่งเสียชีวิต
สองพี่น้องได้รับการสถาปนาให้เป็นนัตลำดับที่ 9 บนเขาโปปา,
1
สวัสดี และขอจบเพียงเท่านี้
ขอบคุณครับ
ร้อยเรียงจันทร์เจ้าขา
(14/2/2021)
..
..

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา