21 ก.พ. 2021 เวลา 06:04 • กีฬา
คาชิวาบะ เออิจิโร : โค้ชปีศาจจาก TOUCH ที่สะท้อนความเจ็บปวดของการเป็นเบอร์ 2 | MAIN STAND
1
เขาคือโค้ชที่เข้ามาคุมมัธยมปลายเมอิเซอิชั่วคราว เป็นคนที่โค้ชนิชิโอะ โค้ชคนเก่าให้การรับรอง ว่าเป็นคนที่รักและทุ่มเทเพื่อเบสบอล แถมยังเคยเป็นอดีตกัปตันชมรมและเอสหมายเลข 4 ของทีม
อย่างไรก็ดี ตอนที่มาถึงมันกลับไม่ได้เป็นอย่างนั้น เพราะเขาเต็มไปด้วยพฤติกรรมที่รุนแรง ทั้งฝึกหนักเกินกว่าเหตุ ทำร้ายร่างกาย รวมไปถึงกลั่นแกล้งสมาชิกชมรมเบสบอลจนลาออกไปหลายราย
เกิดอะไรขึ้นที่ทำให้เขามาถึงจุดนี้? ติดตามเรื่องราวของโค้ชปีศาจไปพร้อมกับ Main Stand
โค้ชจอมโหด
ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้ชมรมกีฬาญี่ปุ่น เป็นระบบและแข็งแกร่งจนกลายเป็นแหล่งผลิตนักกีฬาสู่สโมสรอาชีพ หรือทีมชาติ คือการมีโค้ชประจำ ซึ่งพวกเขาไม่ใช่ครูในโรงเรียน แต่เป็นโค้ช ที่เข้ามาฝึกสอนนักเรียนโดยเฉพาะ
เช่นกันกับ ชมรมเบสบอลของโรงเรียนมัธยมปลายเมอิเซอิ โรงเรียนของ อุเอสึงิ ทัตสึยะ และ คาสุยะ สองฝาแฝดตัวเอกจากมังงะเรื่อง Touch พวกเขามีโค้ช นิชิโอะ ชิเงโนริ เป็นผู้ฝึกสอนให้กับทีม
Photo : www.anime-planet.com
ทว่า ในขณะที่พวกเขากำลังมีลุ้นไปโคชิเอ็ง จากการที่ ทัตสึยะ ได้เข้ามาเป็นความหวังใหม่ หลังการเสียชีวิตของ คาสุยะ ชมรมก็ต้องได้รับข่าวร้าย เมื่อโค้ชนิชิโอะ ต้องวางมือเป็นการชั่วคราว จากปัญหาสุขภาพ
แต่โค้ชนิชิโอะ ก็ยังมีความรับผิดชอบ เมื่อเขาได้ติดต่อ คาชิวาบะ เออิจิโร อดีตสมาชิกชมรมเบสบอลมัธยมปลายเมอิเซอิ ให้มาเป็นโค้ชรักษาการ พร้อมกับรับรองว่าถ้าหากเป็นโค้ชคนนี้ โคชิเอ็งอาจจะไม่ใช่ความฝัน
1
"เขาเป็นคนที่มีคุณสมบัติของมือโปรพร้อมอยู่ในตัวทีเดียว เขาเป็นกัปตัน เอสหมายเลข 4 ในปีนั้นเราเป็นตัวเก็งชนะเลิศ แต่ก็ไปได้ถึงแค่ 4 ทีมสุดท้ายเท่านั้น แต่ก็เป็นทีมที่เข้มแข็งจริง ๆ" โค้ชนิชิโอะ บอกกับผู้อำนวยการ
อย่างไรก็ดี มันกลับทำให้ทีมต้องเจอกับฝันร้าย เพราะทันทีที่มาถึง โค้ชคาชิวาบะ ก็กลั่นแกล้งสมาชิกในทีมสารพัด ไม่ว่าจะเป็นให้ฝึกหนักเกินกว่าปกติ หรือถึงขั้นลงไม้ลงมือชกต่อยกับนักเรียน
Photo : kknews.cc
"ถ้าฉันไม่สั่งให้หยุดก็ห้ามหยุด ฟาดไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะขาดใจ" โค้ชคาชิวาบะสั่งลูกทีม
วิธีการฝึกของเขา ทำให้สมาชิกหลายคนทนไม่ไหว โดยเฉพาะสมาชิกใหม่ ที่พร้อมใจลาออกจากชมรม และแม้ว่า อาซากุระ มินามิ จะเอาเรื่องนี้ไปบอกผู้อำนวยการ แต่เขาก็ตัดสินใจไม่ทำอะไร เนื่องจากเงื่อนไขที่โค้ชคาชิวาบะตั้งเอาไว้
"เขายอมมาเป็นแทนโค้ชให้เรา โดยมีข้อแม้ว่าต้องไม่ยุ่งกับวิธีการฝึกของเขา ให้เขาลองทำงานนี้ดูก่อนจนกว่าโค้ชนิชิโอะ จะหายดีกลับมา" ผู้อำนวยการบอกกับมินามิ
อย่างไรก็ดี แท้จริงมันเป็นความเข้าใจผิดตั้งแต่ต้น
คาชิวาบะคนพี่ ≠ คาชิวาบะคนน้อง
คาชิวาบะ คือคนที่เคยเป็นอดีตเอสและกัปตันชมรมเบสบอลเมอิเซอิจริง และเป็นคนที่รักและทุ่มเทให้กับเบสบอลอย่างที่โค้ชนิชิโอะพูดเอาไว้ เพียงแต่คนที่มาเป็นโค้ชชั่วคราว นั่นไม่ใช่เขา แต่เป็นน้องชายของเขา
Photo : renote.jp
มันเป็นความเข้าใจผิดของโค้ชนิชิโอะ ที่ตอนแรกตั้งใจจะเชิญ คาชิวาบะ เออิอิจิโร มาเป็นโค้ช แต่คนที่เขาดึงตัวมานั้นกลับเป็นคนน้องที่ชื่อ คาชิวาบะ เออิจิโร ที่ชื่อของพวกเขาคล้ายกันมาก
แม้ว่า คาชิวาบะคนน้อง จะเคยเป็นสมาชิกชมรมเบสของของเมอิเซอิ เหมือนกัน แต่ฝีมือของเขาห่างไกลจากพี่ชายพอสมควร แถมนิสัยยังไปคนละทาง โดยเฉพาะเรื่องอารมณ์ที่รุนแรง และเคยเกี่ยวข้องกับแก๊งอันธพาล
"คุณอาเคยเล่าให้ฟังว่าเคยเรียนกับโค้ชนั่นตอน ม.ต้น และ ม.ปลาย เห็นว่าพี่น้องคู่นี้เก่งเบสบอลมาก" ฮาราดะ โชเฮอิ เล่าให้ มินามิ ฟัง
"คนพี่อายุมากกว่า 3 ปี เป็นคนที่มีชื่อเสียงมากทีเดียว เอสหมายเลข 4 กัปตันที่เก่งกาจของชมรมเบสบอลเมอิเซอิ เขาเป็นคนที่รักเบสบอลจากใจจริง และทำทุกอย่างเพื่อทีม"
"ในปีที่พี่ชายเรียนจบ น้องชายก็เข้าเรียนและเข้าชมรมเบสบอล กัปตันทีมในตอนนั้นเห็นแก่ความดีของคาชิวาบะคนพี่ ก็เลยให้มาเป็นมือขว้าง ถึงขนาดจะให้เป็นเอสเลยทีเดียว"
"แต่ว่าคาชิวาบะ ฝีมือไม่เท่าพี่ ก็เลยไม่ได้รับการยอมรับ แถมคาชิวาบะเคยยุ่งกับพวกอันธพาล เลยทำให้เขามีปัญหาขึ้นไปอีก"
การทำไม่ได้อย่างที่คนคาดหวังว่าจะเป็นเหมือนพี่ ได้กลายเป็นดาบทิ่มแทงคาชิวาบะคนน้อง เขาถูกกลั่นแกล้งจากรุ่นพี่ เพื่อบีบให้ลาออกจากชมรม จนสุดท้ายเขาก็ทนไม่ไหวจริง ๆ และออกไปจากชมรมอย่างเจ็บปวด
ด้วยเหตุนี้ทำให้ คาชิวาบะ เคียดแค้นชมรมเบสบอลเมอิเซอิมาก เขารอวันที่จะล้างแค้นมาตลอด และโอกาสก็มาโดยไม่ทันตั้งตัว เมื่อโค้ชนิชิโอะ ติดต่อให้เขาไปเป็นโค้ชชั่วคราวด้วยความเข้าใจผิด หลังเจ้าตัวล้มป่วยอย่างกะทันหัน
ทำให้เขาตั้งใจที่จะใช้ความรุนแรงเข้ามาทำลายชมรมเบสบอลแห่งนี้ ทั้งการซ้อมสุดโหด ที่หวังบีบให้สมาชิกลาออกจนแข่งต่อไปไม่ได้ หรือการที่แทบจะไม่ได้แนะนำอะไรเลยในการซ้อมและการแข่งเพื่อให้ทีมแพ้เร็วที่สุด
Photo : renote.jp
"ขอให้ไอ้พวกที่ฝันลม ๆ แล้ง ๆ ได้เจอความผิดหวังไปตลอดชีวิต ขอให้ได้เห็นทีมเบสบอลของเมย์เซย์ เป็นตัวตลกเถอะ" คาชิวาบะ คิดในใจ
ความมุ่งมั่นที่จะล้างแค้นของคาชิวาบะ นั้นรุนแรงมาก เพราะแม้แต่ตอนที่รุ่นพี่ รู้แผนการณ์ของเขา และบอกให้เลิกทำ เนื่องจากเด็กในทีมปัจจุบันไม่ได้ผิดอะไร แต่เขาก็ยืนยันว่าจะทำลายชมรมเบสบอลของเมอิเซอิต่อไป
1
"แกคิดว่าฉันมาเป็นโค้ชให้เด็กพวกนี้ทำไม มาเพื่อทำให้พวกรุ่นพี่ชมรมเบสบอลอย่างพวกแก อับอายขายขี้หน้า จนไม่กล้าบอกใครไงล่ะ" คาชิวาบะ บอกกับรุ่นพี่
นอกจากนี้ ยังมีอีกอย่างที่เขาอยากจะทำลายเช่นกัน
ตัวเองในอดีต
นอกจากวิธีการซ้อมสุดโหดแล้ว การกลั่นแกล้งเอสของทีม ก็เป็นอีกวิธีที่ คาชิวาบะ นำมาใช้เพื่อหวังทำลายชมรมเบสบอลเมอิเซอิ และมันก็ทำให้ ทัตสึยะ กลายเป็นคนที่โดนโค้ชเล่นงานเป็นพิเศษ
คาชิวาบะ มักจะสั่งให้ทัตสึยะ ทำอะไรที่หนักกว่าคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นแบกที่ยกน้ำหนักแล้วกระโดดไปรอบสนาม น็อคบอลซ้ำ ๆ จนล้มพับ หรือตั้งใจตีบอลอัดไปที่ตัวหรือหน้าในระหว่างซ้อม
Photo : kknews.cc
มันคือการตัดกำลังคีย์แมนของทีม เพราะหาก ทัตสึยะ ยอมแพ้ และขอลาออกไป ความแข็งแกร่งโดยรวมของทีมก็น่าจะลดลง และเป้าหมายในการผ่านไปเล่นโคชิเอ็งก็แทบจะปิดประตูไปได้เลย
อย่างไรก็ดี ยังมีอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ คาชิวาบะ ไม่ชอบหน้า ทัตสึยะ นั่นคือรู้สึกว่าทัตสึยะเหมือนเงาสะท้อนตัวเองในอดีต
คาชิวาบะ มองว่าอันที่จริง ทัตสึยะ มีชะตากรรมไม่ต่างจากเขา นั่นคือการตกอยู่ภายใต้ร่มเงาของพี่ชาย/น้องชายที่เก่งกว่า และทำให้ผู้คนมองข้ามตัวตนที่แท้จริงพวกเขาไป
แต่ ทัตสึยะ ดีกว่าเขาตรงที่น้องชายผู้เก่งกาจคนนั้นมาเสียชีวิตไปอย่างกระทันหัน จนทำให้คนที่ด้อยกว่าอย่าง ทัตสึยะ ได้ขึ้นมาโดดเด่น ในแบบที่ คาชิวาบะ ไม่เคยมีโอกาสได้สัมผัสตลอดชีวิต
"น้องชายที่ดีกว่าแทบทุกอย่าง ผลการเรียนเป็นเลิศ เป็นเอสตั้งแต่ปีหนึ่ง ส่วนแก เมื่อเทียบกับวีรบุรุษนั่นแล้ว ไม่มีทางโงหัวได้ตลอดชีวิต" คาชิวาบะ บอกกับ ทัตสึยะ
"แต่ตอนนี้แกกลับได้เป็นเอสของเมอิเซอิ มันตายได้จังหวะพอดี สมใจแกใช่มั้ย"
Photo : kknews.cc
นอกจากนี้ เขามองว่า ทัตสึยะ คือคนที่ฉวยโอกาส เพราะตำแหน่งเอสที่ได้มา แท้จริงควรจะเป็นของ คาสุยะ แท้ ๆ ทัตสึยะ แค่ "โชคดี" ที่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ แถมยังกลายเป็นที่สนใจจากคนรอบข้างและสื่อ จากความตายของน้องชาย
"ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ถึงจะแพ้แบบไหน นักข่าวก็เขียนถึงแกอย่างสวยหรู พี่ชายที่ต่อสู้อย่างห้าวหาญ เพื่อสานฝันน้องชาย" คาชิวาบะ พูดต่อ
สิ่งนี้คล้ายกับเรื่องระหว่างเขากับพี่ชายในอดีต ที่เขาต้องมาเป็นผู้รับผิดแทน เออิอิจิโร พี่ชายที่ไปซิ่งรถโดยไม่มีใบขับขี่จนเกิดอุบัติเหตุ เพียงเพราะว่าพี่ชายของเขาเก่งกว่า มีความสำคัญมากกว่าในฐานะเอสของเมอิเซอิ ในขณะที่เขาต้องเผชิญกับผลกระทบที่เลวร้ายหลังจากนั้น
1
"ผู้ที่สมควรรับผิดชอบที่แท้จริง ไม่ใช่คาชิวาบะคนน้องทำให้เกิดอุบัติเหตุ แต่เป็นคนพี่ที่ทำ ในตอนนั้นทีมชนะตัวแทนเขตด้วย คาชิวาบะ คนน้องเลยตัดสินใจยอมรับว่าเป็นคนทำ เพื่อพี่ชายของตัวเอง และเพื่อเบสบอลเมอิเซอิ" ฮาราดะ เล่าเรื่องในอดีตของโค้ชคาชิวาบะให้ มินามิ ฟัง
1
"ในตอนนั้น คาชิวาบะ คนน้อง นับว่าเป็นผู้มีพระคุณต่อชมรมเบสบอล แต่ว่าเมื่อผู้มีพระคุณคนนั้น เข้าโรงเรียนและเข้าชมรมเบสบอล เพื่อต่อความฝันของพี่สู่โคชิเอ็ง แต่เรื่องอุบัติเหตุนั้นทำให้เขาได้รับการต้อนรับอย่างเย็นชาจากคนในชมรม จนต้องเลิกเล่นและออกไป"
Photo : kknews.cc
และมันก็กลายเป็นปมในใจเขามาตลอด เป็นความเจ็บปวดของการเป็นเบอร์ 2 เพราะไม่เพียงแต่ถูกนำไปเปรียบเทียบเท่านั้น แต่กลับต้องมาเป็นแพะรับบาปกับสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ก่อ เพื่อให้พี่ชาย ได้เฉิดฉายต่อไป
1
ทำให้ คาชิวาบะ รู้สึกทนไม่ได้กับการมีอยู่ของ ทัตสึยะ ในทีม เพราะทั้งที่ตอนแรกมีชะตากรรมไม่ต่างจากเขา แต่กลับหลุดพ้น และก้าวขึ้นมาเป็นดาวเด่นของทีม
เขาจึงตั้งใจที่จะทำลายเอสคนนี้เช่นเดียวกับชมรมเบสบอลเมอิเซอิ ด้วยการกดดันและบีบบังคับให้ทำตามเงื่อนไขยาก ๆ เช่นไม่ยอมให้ลงเล่นเป็นพิชเชอร์ตัวจริง หรือขู่ว่าจะเปลี่ยนตัวหากทำพลาดเกิน 3 ครั้ง
อย่างไรก็ดี มันกลับไม่ได้ผล เพราะ ทัตสึยะ กับเขาไม่เหมือนกัน
พี่น้องที่รักกัน
มองอย่างผิวเผิน ทัตสึยะ และ คาสุยะ อาจจะดูเป็นคู่แข่งกัน ทั้งในสนามเบสบอลและสนามความรัก แต่ความเป็นจริงมันไม่เคยเป็นอย่างนั้นเลย เพราะ ทัตสึยะ รักน้องชายของเขาสุดหัวใจ
Photo : renote.jp
ทัตสึยะ เลือกที่จะอยู่ใต้ร่มเงาของน้องชาย ด้วยการเสียสละไม่ลงแข่งทั้งในสนามกีฬา และสนามหัวใจ เขาตัดสินใจเล่นกีฬาชนิดอื่น ทั้งที่มีพรสวรรค์ในด้านเบสบอล ในขณะที่เรื่อง มินามิ เขาก็หลีกทางให้ เพราะรู้ว่านี่คือคนที่น้องชายรัก แม้ว่า มินามิ จะรักเขาก็ตาม
ทำให้พวกเขาแตกต่างจากพี่น้องคาชิวาบะ และไม่ว่าคนจะเอา ทัตสึยะ ไปเปรียบเทียบกับน้องชายที่เก่งกว่าแค่ไหน แต่เขาก็ยืนยันว่านี่คือตัวเขา ทัตสึยะ ไม่ใช่ คาสุยะ แม้ว่าเขาจะเป็นฝาแฝด มีใบหน้า หรือท่วงท่าที่คล้ายกันมากแค่ไหน
นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่ทำให้ ทัตสึยะ ขึ้นมายืนอยู่ในจุดนี้ได้ ก็เพราะความรักที่เขามีต่อ คาสุยะ เขาอยากจะทำให้ฝันของน้องชายเป็นจริง นั่นคือการพาทีมเข้าไปเล่นในโคชิเอ็ง และทำให้เขาพยายามฝึกซ้อมตามโค้ชสั่ง ไม่ว่าจะหนักแค่ไหนก็ตาม
"ฉันจะเป็น อุเอสึกิ ทัตสึยะ ที่เหลวไหลแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว เพราะฉันต้องพาแกไปโคชิเอ็งให้ได้ ใช่ไหม คาสุยะ" ทัตสึยะพูดในใจ
Photo : nemlog.nem.social
มันคือสิ่งที่ทำให้ คาชิวาบะ ไม่สามารถทำลาย ทัตสึยะ ลงได้ ในทางกลับกันกลับยิ่งทำให้พวกเขาไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น เมื่อวิธีการของเขาที่ไม่ได้เกลียดเบสบอลจริง ๆ ได้ทำให้มัธยมเมอิเซอิ ผ่านเข้าไปเล่นในโคชิเอ็งได้สำเร็จ
ความสัมพันธ์ระหว่าง คาชิวาบะ และ ทัตสึยะ จึงเป็นเหมือนกระจกบานใหญ่ที่ใช้สะท้อนตัวตนของกันและกัน ในขณะเดียวกันก็ทำให้เห็นถึงความแตกต่างของการเป็นเบอร์ 2 ของทั้งคู่
นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะอันที่จริง อาจารย์อาดาจิ ก็มีความสนใจในความสัมพันธ์ของพี่น้องอยู่แล้ว เพราะตัวอาจารย์เองก็เป็นลูกชายคนที่ 2 แถม สึโตมุ อาดาจิ พี่ชายของเขาก็เป็นนักเขียนการ์ตูนเหมือนกัน
“ผมมีพี่สาวแค่คนเดียว และมีพี่ชายก่อนหน้าผมอีกคนหนึ่งที่เป็นนักเขียนการ์ตูนเหมือนกัน” อาดาจิให้สัมภาษณ์กับ Weekly Shonen Sunday
“มันจึงเป็นเรื่องยากสำหรับผมที่จะไม่มีเรื่องพี่น้องอยู่ในการ์ตูน”
ทำให้นอกจากเรื่องราวความรักในเรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องคือสิ่งที่อาจารย์อาดาจิต้องการสื่อเช่นกัน ซึ่งทำให้เห็นถึงความเจ็บปวดของคนที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์นี้
Photo : Rémi @RemiNoTsundoku
อย่างไรก็ดี สิ่งสำคัญที่สุด คือจะเลือกทำแบบไหน จะนั่งเฉย ๆ คอยอิจฉาคนที่ได้เป็นเบอร์ 1 แบบคาชิวาบะ หรือถีบตัวเองเพื่อให้พ้นร่มเงาของคนที่เก่งกว่าแบบทัตสึยะ
1
จริงอยู่ที่คนเราอาจจะเลือกเกิดไม่ได้ (ที่ต้องมาเป็นคนรอง) แต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้ปิดกั้นในสิ่งที่เราจะเป็น เพราะทุกคนสามารถเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองมีศักยภาพ โดยไม่จำเป็นต้องมาน้อยเนื้อต่ำใจหรือโทษโชคชะตา เหมือนกับที่ทัตสึยะบอกกับโค้ชคาชิวาบะ ในช่วงท้ายของเรื่อง
“เอาแต่นั่งเฉยๆ ไม่ยอมทำอะไรสักนิด มัวแต่อิจฉาคนอื่นที่ได้ครองเวทีแสงสี เลยปล่อยโอกาสที่ตัวเองจะขึ้นไปซะหมด ถ้าไม่ก้าวขึ้นเวทีเองก็ช่วยไม่ได้นะ” ทัตสึยะบอกโค้ช
เพราะอดีตแก้ไขไม่ได้ แต่อนาคตเปลี่ยนแปลงได้
บทความโดย มฤคย์ ตันนิยม
แหล่งอ้างอิง
โฆษณา