23 ก.พ. 2021 เวลา 01:30 • ธุรกิจ
‘Clubhouse’ โซเชียลมีเดียที่ (ดูเหมือน) ความสำเร็จชั่วข้ามคืน แต่หารู้ไม่ว่าแอปพลิเคชันตัวเดียวกันนี้เองที่เป็น “ความพยายามครั้งสุดท้าย” ของผู้ก่อตั้งทั้งสองคนที่โคจรร่วมธุรกิจกันได้เนื่องจากหนึ่งในนั้นมีภารกิจในฐานะพ่อที่กำลังหาทางช่วยชีวิตลูกสาวอย่างสุดความสามารถ
10
และนี่ก็คือเรื่องราวล้มลุกคลุกคลานของ พอล เดวิสัน (Paul Davison) และ โรฮัน เซ็ธ (Rohan Seth) สองผู้ประกอบการผู้ให้กำเนิด Clubhouse โซเชียลมีเดียน้องใหม่ที่ใครๆ ต่างก็อยากถูก Invite
4
#ผู้หวังสร้างสังคมไร้คนแปลกหน้า
3
Clubhouse ไม่ใช่สมมุติฐานที่ได้รับการพิสูจน์ว่าถูกต้องตั้งแต่การทดลองครั้งแรก พอล เดวิสัน (Paul Davison) หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Clubhouse ได้ลองสร้างแอปพลิเคชันทำนองเดียวกันมาตั้งแต่เมื่อปี 2012 โดยมีชื่อว่า ‘Highlight’
5
Highlight คือแอปพลิเคชันที่จะแจ้งเตือนเมื่อพบว่ามีคนที่มีความสนใจคล้ายเราอยู่บริเวณใกล้เคียง เพราะเดวิสันเชื่อว่า “ไม่มีอะไรส่งผลกระทบต่อความสุขของเราได้เท่ากับคนที่อยู่ในชีวิตของเรา” แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราล้วนพบเจอคนที่เข้ากับเราจนกลายเป็นเพื่อนสนิทกันได้จากความบังเอิญทั้งนั้น ซึ่งเขามองว่ามันไม่มีประสิทธิภาพ จุดประสงค์ของ Highlight จึงเป็นการพาคนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงและมีความชอบคล้ายคลึงกันมาทำความรู้จักกันโดยไม่ต้องพึ่งโชคช่วย
15
“อีก 10 ปีข้างหน้า เมื่อคุณเดินเข้ามาในห้องปุ๊บ คุณก็จะรู้ทันทีว่าทุกคนในห้องชื่ออะไร ทำงานที่ไหน และพวกเขามีอะไรที่คล้ายกับคุณบ้าง” นี่คือสิ่งที่เดวิสันเชื่ออย่างหมดใจเมื่อ 9 ปีที่แล้ว
10
ในปีเดียวกันนี้เอง Highlight กลายเป็นแอปพลิเคชันที่ได้รับเสียงตอบรับร้อนแรงที่สุดในงาน SXSW (The South by Southwest) งานเทศกาลขนาดใหญ่ที่รวมวงการไอที ธุรกิจ การโฆษณา นวัตกรรม และความบันเทิงรูปแบบต่าง ๆ มาไว้ในงานเดียว แต่น่าเสียดายที่เมื่อเวลาผ่านไป ความไฮป์เริ่มจาง ผู้ใช้งานก็น้อยลงเรื่อยๆ
5
แต่เดวิสันก็ยังไม่ยอมแพ้ เขายังคงเปิดตัวแอปพลิเคชันใหม่ๆ ออกมาต่อไป ไม่ว่าจะเป็น ‘Roll’ แอปฯ ที่เราสามารถแชร์ Camera Roll ของเราร่วมกับเพื่อน และ ‘Shorts’ ที่จะแสดงรูปของยูสเซอร์ที่อยู่ใกล้ๆ กับเราแม้เราจะไม่ได้รู้จักเขามาก่อน
4
ทั้งแอปสองตัวไปไม่รอด และเมื่อปี 2016 Pinterest ก็เข้าซื้อกิจการ เดวิสันอยู่ภายใต้ชายคาของ Pinterest ได้ 2 ปีก็ลาออกไปเปิดบริษัทแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิตอลของตัวเองในชื่อ CoinList
4
#ผู้อยู่เบื้องหลังแอนดรอยด์และกูเกิลแมป
โรฮัน เซ็ธ (Rohan Seth) เป็นส่วนหนึ่งของ Google ยาวนานกว่า 5 ปี เขาคือผู้ที่ช่วยพัฒนาซอฟต์แวร์ระบุตำแหน่งให้ฉลาดขึ้น และเป็นสมาชิกตั้งต้นของทีมพัฒนาระบบแอนดรอยด์และ Google Map
7
“เขาสนใจเรื่องการสร้างสังคมมาตั้งแต่เริ่มทำงานที่ Google แล้ว เขาอยากสร้างบางอย่างที่ช่วยเชื่อมต่อผู้คนให้ใกล้ชิดกันมากขึ้นมาตลอด” ไมเคิล ชู (Michael Chu) นักลงทุนที่เคยร่วมงานกับเซ็ธที่ Google เผย
3
เซ็ธลาออกจาก Google เมื่อปี 2012 และออกไปตั้ง Memry Labs สตาร์ทอัปที่ให้กำเนิดโซเชียลแอปทุกรูปแบบร่วมกับ โรฮัน แดง (Rohan Dang) ทั้งสองเปิดตัวโปรดักต์ 6 ตัวภายใน 3 ปี ซึ่งรวมถึง ‘Dayfie’ แอปที่ทำงานเหมือนไดอารี่โดยให้เราแชร์รูปเซลฟี่ของตัวเองในทุกๆ วัน และ ‘Phone-a-Friend’ แอปที่แจ้งเตือนว่าตอนนี้เราว่างคุยโทรศัพท์เผื่อเพื่อนคนไหนกำลังเหงาอยู่
2
สถานการณ์ของเซ็ธไม่ต่างกับเดวิดสันเท่าไร ไม่มีแอปตัวไหนดังเป็นพลุแตก แต่ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหารของ Opendoor เล็งเห็นความสามารถของทั้งสองคนจึงซื้อกิจการ Memry Labs เพื่อชิงตัวทั้งสองคนมาทำงานให้กับ Opendoor
2
#การพบกันที่มาจากการทำเพื่อลูกสาว
2
เซ็ธมีความสุขกับข่าวดีได้เพียง 36 ชั่วโมงก่อนจะพบว่า ลิเดีย ลูกสาวของเขาถูกตรวจพบว่ามียีนกลายพันธุ์ที่ส่งผลต่อการทำงานของสมอง เธอจะสามารถเติบโตได้เต็มที่เพียงไม่กี่เดือน จากนั้นสมองและร่างกายของเธอจะไม่สามารถพัฒนาได้อีกต่อไป แพทย์ผู้ตรวจบอกกับเขาว่า เธอจะไม่สามารถพูด เดิน หรือแม้กระทั่งคลานได้
7
เซ็ธและเจนนิเฟอร์ ภรรยาของเขาก่อตั้งทีมวิจัยที่พร้อมจะศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อรักษาผู้ป่วยที่เจ็บป่วยจากโรคเดียวกับลิเดียภายใต้ชื่อ Lydia Accelerator แต่พวกเขาทั้งสองไม่ได้มีเงินส่วนตัวมากพอจะเป็นทุนให้กับงานวิจัย
4
เมื่อปี 2019 เซ็ธจึงติดต่อเดวิสัน ซึ่งในตอนนั้นเป็นเพียงเพื่อนร่วมวงการสตาร์ทอัป เพื่อขอคำปรึกษาว่าจะระดมทุนให้กับองค์กรไม่แสวงหากำไรอย่างไรดี จากการพูดคุยครั้งนั้นทำให้ทั้งคู่มีโอกาสได้พบปะกันบ่อยขึ้น จนในท้ายที่สุดก็ตัดสินใจทำธุรกิจร่วมกัน
3
“อาจเป็นการกระทำที่ไม่ฉลาดนัก แต่เราตัดสินใจก็ลองทำแอปพลิเคชั่นเชื่อมต่อคนในสังคมดูอีกสักครั้ง”
2
ทั้งสองเปิดตัว ‘Talkshow’ แอปพลิเคชันที่มีจุดประสงค์ให้การทำพอดแคสต์นั้นง่ายขึ้น โดยโฮสต์จะไลฟ์จัดรายการบนทวิตเตอร์สดๆ ทำให้ผู้ฟังสามารถถามคำถามได้ทันที แต่พอผ่านไปสักพักพวกเขาก็รู้สึกว่ามันยังไม่ ‘ง่าย’ พอ เลยตัดสินใจตัดบางฟีเจอร์ทิ้งให้เหลือแต่สิ่งที่ผู้ใช้งานแอปเวอร์ชั่นเบต้าชอบ นั่นคือการที่ผู้ฟังสามารถเป็นผู้พูดในฐานะแขกรับเชิญได้
2
และนั่นก็คือต้นกำเนิดของ Clubhouse โซเชียลมีเดียที่เปิดโอกาสให้เราได้เป็นทั้งผู้ฟัง ผู้พูด ในทุกๆ หัวข้อสนทนาที่เราสนใจ
2
#careerfact
………………
Career Fact เพราะทุกอาชีพ... มีเรื่องราว
3
พูดคุยเรื่องการงาน ถกประเด็นต่างๆ แบ่งปันความรู้
เข้าร่วมกลุ่ม อู้งานมาคุย by Career Fact
โฆษณา