27 ก.พ. 2021 เวลา 05:00 • กีฬา
[ บอลไทยชัดเจน by บุญคำ : "ตั๋ว 2 ใบกับอีก 4 ทีม!?" ]
แม้ว่าการลุ้นแชมป์ ไทยลีก 2020-21 จะไม่สนุกเสียแล้ว เพราะฟอร์มที่สะดุดหยุดอยู่กับที่ของ การท่าเรือ เอฟซี ทำให้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ค่อยๆ คืบคลานสู่บัลลังก์อันดับหนึ่งแห่งสยามประเทศ
ความสนุกมันเลยไปลุ้นกันที่พื้นที่ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2022 ที่มีแคนดิเดตถึง 8 ทีมเลยทีเดียว
ความห่างระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (อันดับ 2) ไปจนถึง นครราชสีมา เอฟซี (อันดับ 9) นั้นคือ 10 คะแนน
มันอาจจะดูเยอะนะครับ ทว่าถ้าสะดุดแค่นัดเดียว มีโอกาสสูงเลยที่จะถูกคู่แข่งแซงหน้า
เอาง่ายๆ อย่าง การท่าเรือ รั้งอันดับ 2 อยู่เนิ่นนานเกินครึ่งฤดูกาล แต่เวลานี้ถูก บุรีรัมย์ พลิกทำแต้มขึ้นไปนำแทนที่
โควต้าถ้วยใหญ่ของเอเชีย ที่ไทย ได้รับนั้นอยู่อันดับ 4 ของโซนเอเชียตะวันออก ถือเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน เพราะค่าสัมประสิทธิ์รองเพียงจีน, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดี เนื่องจากมันแสดงให้เห็นว่าคุณภาพลีกของเรานั้นได้รับการยอมรับระดับหนึ่ง
โควต้าที่่ว่าคือ 2 + 2 โดยอันดับ 1 ของลีกและแชมป์ เอฟเอ คัพ จะได้เข้าเป็นเล่นรอบแบ่งกลุ่มโดยอัตโนมัติ ส่วนอันดับ 2 กับ 3 นั้นจะไปเล่นรอบเพลย์-ออฟ
ผมขออนุญาตตัดการลุ้นแชมป์ เอฟเอ คัพ ไปก่อนนะครับ เพราะจะแข่งขันกันอีกทีก็นานโข
จากฟอร์มปัจจุบัน ผมให้น้ำหนักกับ 4 ทีม ที่มีโอกาสจะได้ไปโลดแล่นใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2022 โดยมีตั๋วเพียง 2 ที่นั่งเป็นเดิมพัน
ขออนุญาตอีกครั้งที่ต้องตัดชื่อ สมุทรปราการ ซิตี้, เชียงราย ยูไนเต็ด, ราชบุรี เอฟซี และ นครราชสีมา หากมีแฟนๆ ของทีมที่เขียนไปได้เห็น ต้องขออภัยด้วยนะครับ
เหตุที่ต้องตัด สมุทรปราการ ก็เพราะพวกเขายังฟอร์มไม่นิ่งพอ อีกทั้งถ้าวันใดไม่มี บาร์ลอส ทาร์เดลี่ อยู่ข้างหน้า วันนั้นพวกเขาจะขาดทีเด็ดทีขาดในจังหวะสุดท้าย
เชียงราย กับฤดูกาลที่หนักหน่วง สภาพร่างกายของนักเตะกรอบเกรียวจนไม่น่าจะต้านทานไหว บวกกับ เอกนิษฐ์ ปัญญา ที่ออดๆ แอดๆ จนส่งผลต่อเกมรุกของกว่างโซ้งมหาภัยอย่างเห็นได้ชัด
ราชบุรี พอไม่มี ยานนิค โบลี่ ค้ำอยู่ในแดนหน้าก็ไร้พิษสงไปเยอะ ขณะที่ นครราชสีมา ที่ฟอร์มแจ่มแหว๋วในขณะนี้ก็ไม่น่าจะไปได้สุดเมื่อถึงท้ายฤดูกาล
ดังนั้นจึงเหลือแค่ บุรีรัมย์, การท่าเรือ, เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่จะขับเคี่ยวกัน
ปราสาทสายฟ้า, สิงห์เจ้าท่าและกิเลนผยองอาจจะมีโอกาสมากกว่า บียู เพราะคะแนนห่างอยู่พอสมควร
ทว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ในโลกของฟุตบอล
ทีมแรกที่ผมมองว่ามีโอกาสจบอันดับ 2 มากที่สุดคือ บุรีรัมย์ นี่แหละ เพราะตอนนี้พวกเขาเริ่มกลับมาเป็น บุรีรัมย์ ที่น่ากลัวเหมือนเก่าอีกครั้ง
นับตั้งแต่แพ้ สมุทรปราการ เมื่อปลายปี 2020 ปราสาทสายฟ้าซิวชัยได้ถึง 10 จาก 11 เกมเมื่อรวมทุกรายการ
ผลงานขนาดนี้ย่อมทำให้พวกเขามั่นใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และการมี อเล็กซานเดร กามา คุมทัพย่อมทำให้ บุรีรัมย์ เป็นทีมที่เขี้ยวลากดิน เล่นเพื่อผลการแข่งขัน ดังนั้นใครจะได้แต้มจากปราสาทสายฟ้านั่นยากยิ่ง
อย่างไรก็ตาม โปรแกรมของพวกเขาค่อนข้างโหดเอาเรื่อง เพราะต้องไปเยือน นครราชสีมา, เยือน เมือทอง, เยือน สมุทรปราการ และได้เล่นในรังพบ แบงค็อก ซึ่ง 4 เกมนี้แหละจะตัดสินว่า บุรีรัมย์ จะได้อันดับ 2 หรือเปล่า
ลำดับต่อมาผมยังมองว่า การท่าเรือ มีโอกาสจบไม่อันดับ 2 ก็ 3 โดยจะแย่งชิงพื้นที่กับ บุรีรัมย์ นั่นแหละ
แม้ว่า 5 นัดหลังสุดพวกเขาจะเก็บได้แค่แต้มเดียว เพราะแพ้ไปถึง 4 นัด แต่ถ้าความมั่นใจของบิ๊กทีมแห่งย่านคลองเตยฟื้นคืนเมื่อไหร่ ผมเชื่อว่าสิงห์เจ้าท่าจะเดินเกียร์ห้าได้ไม่ยั้ง
แถมโปรแกรมที่เหลือของ การท่าเรือ ยังดูแล้วเป็นงานง่ายกว่าเพื่อนร่วมก๊วน เพราะมีเพียงการเล่นในบ้านรับมือ แบงค็อก กับออกไปเยือน ราชบุรี เท่านั้นที่น่าเป็นห่วง
หากคืนฟอร์มเมื่อไหร่ พวกเขาฟาดแต้มไม่ยั้งแน่
ขณะที่ เมืองทอง แม้จะได้รับการยกย่องอย่างสูงถึงสไตล์การเล่นที่ดูสนุกและมีอนาคต แต่ผมยังไม่ค่อยเชื่อมือ มาริโอ ยูรอฟสกี้ เท่าไหร่
ไม่ใช่ว่าเขาไม่เก่งนะครับ เพียงแต่ประสบการณ์ในการเป็นโค้ชของกุนซือชาวมาซิโดเนีย นั้นน้อยนิดจริงๆ ดังนั้นเมื่อเจอกับสถานการณ์กดดัน ไม่รู้ว่าพี่แกจะสามารถรับมือกับมันไหวหรือเปล่า
ส่วนโปรแกรมนั้นอาจจะไม่หนักหน่วงเท่าไหร่ เพราะมีเพียงเปิดบ้านเจอ บุรีรัมย์, เชียงราย และ บีจี ปทุม ซึ่งตอนนั้นคงอยากจะทำสถิติไร้พ่าย เท่านั้นที่น่าหนักใจ แต่นั่นคือการเล่นที่ เอสซีจี สเตเดี้ยม ทั้งหมด จึงไม่ค่อยน่าห่วงเท่าไหร่
และสุดท้าย ทีมนี้คือ 'ม้ามืด' ที่ผมมองว่าสามารถสอดแทรกสู่ท็อปทรีได้แน่ๆ ถ้าไม่สะดุดขาตัวเองเสียก่อน
แบงค็อก ของ ธชตวัน ศรีปาน ค่อยๆ เดินเครื่องแบบช้าๆ แต่สมรรถนะนั้นแรงล้นเหลือ
ล่าสุดกับการถล่ม ชลบุรี เอฟซี ไปเละเทะ 5-1 ก็พอจะบอกได้ดีว่าพวกเขาเริ่มจะสำแดงเดชทีละนิด
อย่างที่ผมเคยเขียนอยู่เสมอว่า 'แท็กติก' ของ ธชตวัน ถ้าได้ผู้เล่นที่ฝีเท้าถึง รับประกันเลยว่าแผนการของ 'โค้ชแบน' จะมีประสิทธิภาพสูงมาก
8 นัดหลังสุด พวกเขาสะดุดเสมอ 3 เกม เท่านั้น ซึ่งนั่นคือการเผชิญหน้าทีมใหญ่ทั้ง เมืองทอง, เชียงราย และ บีจี ปทุม ซึ่งนัดหลังสุดนี่ บียู เกือบจะเป็นทีมแรกที่สามารถเอาชนะกระต่ายแก้วได้ด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม โปรแกรมที่เหลือของทีมแข้งเทพนั้นสาหัสสากรรจ์พอควรทีเดียว เพราะเจอแต่โหดๆ ไม่ว่าจะเป็นต้องบุกไปเยือน สุโขทัย ที่กำลังต้องการคะแนนดิ้นรนหนีตกชั้น
เท่านั้นยังไม่พอยังต้องบุก แพท สเตเดี้ยม และ ช้าง อารีน่า เพื่อเผชิญหน้า การท่าเรือ กับ บุรีรัมย์ คู่แข่งแย่งชิงตั๋วโดยตรง
ทว่าถ้า บียู สามารถผ่านด่านพวกนี้ได้ครบ รับรองเลยว่าพวกเขาจะเป็น 1 ใน 3 ของ ไทยลีก อย่างแน่นอน
นี่คือบทวิเคราะห์คร่าวๆ ของผม ซึ่งอาจจะตรงหรือไม่ตรงใจคุณผู้อ่าน หากข้อเขียนของผมทำให้ท่านไม่ปลื้ม ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
แต่ถ้าสิ่งที่ผมเขียนไป แล้วมันดันโป๊ะเช๊ะขึ้นมา อันนี้ผมหล่อเลยแหละ (ฮ่าาา)
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา