27 ก.พ. 2021 เวลา 02:30 • กีฬา
[ #ต้องผ่านไปให้ได้ ]
1
สมาชิกในครอบครัวของ อลีสซง เบ็คเกอร์ หลายคนเกิดมาเป็นผู้รักษาประตู ราวกับได้รับคำอวยพรจากพระเจ้า
ตระกูลทางฝั่งพ่อสืบเชื้อสายมาจากเยอรมัน โปรดปรานเรื่องกีฬาอย่างมาก โดยเฉพาะเกมลูกหนังที่เหมือนถูกฝังไว้ในสายเลือด
1
ฟุตบอลโลกปี 1998 ในรอบรองชนะเลิศบราซิลโคจรมาเจอฮอลแลนด์ ตอนนั้น อาลี ยังเพียงแค่ 5 ขวบ วัยใสไร้เดียงสาแทบจำอะไรไม่ได้เลย
แต่นาทีที่พ่อของเขาดีใจอย่างบ้าคลั่งเมื่อทัพแซมบ้าสามารถกรุยทางผ่านเข้าไปชิง กลับจำภาพดังกล่าวได้อย่างแม่นยำ เขาไม่ประสีประสาเรื่องฟุตบอล แต่ดีใจมากๆที่เห็นพ่อมีความสุข
โชเซ่ พ่อของเขาชอบเล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูเช่นกัน เคยเล่นในระดับสมัครเล่นมาก่อน ได้รับแรงบันดาลใจจากปู่ของเขาอีกทอด เหมือนสืบรับมรดกกันมา
แต่มาถึงรุ่นของ อาลี น่าจะพีกสุดแล้ว ทั้งตัวเขาและ มูเรียล พี่ชายเติบโตขึ้นมาเป็นผู้อารักขาสองเสาประตูอย่างแท้จริง
ว่าไปแล้วในช่วงวัยเด็กลากยาวถึงวัยรุ่น มูเรียล ไปได้สวยบนเส้นทางสายนี้มากกว่า ดูมีอนาคตมากๆ ถึงขั้นมีโค้ชเคยทำนายไว้ว่าจะติดทีมชาติบราซิลหรือได้เล่นในสโมสรชั้นนำ
ต่างจาก อาลี ซึ่งเริ่มต้นก็ไม่สวยแล้ว รูปร่างที่ตุ้ยนุ้ยเจ้าเนื้อกลายเป็นอุปสรรคสำคัญมาก่อน
อาหารโปรดของเจ้าหนูอาลีคือน้ำอัดลม ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่เด็กบราซิล นอกจากนี้ยังชอบคุกกี้กับเบอร์เกอร์ เป็นพิเศษอีกต่างหาก
นอกจากอ้วนอุ้ยอ้าย ไม่เหมาะกับตำแหน่งนายด่านสุดท้ายที่ต้องปราดเปรียว อีกหนึ่งตัวถ่วงคือความสูงซึ่งไม่ได้มาตรฐานเลย
นั่นคือเหตุผลหลักที่มีน้ำหนักมากพอทำให้ อาลี อยากจะเปลี่ยนแผนชีวิต ไม่คิดจะเป็นผู้รักษาประตูอีกแล้ว
จึงเบนเข็มทิศมาที่การเรียน ซึ่งน่าจะเหมาะสมกว่า อีกทั้งครอบครัวก็พร้อมสนับสนุนเช่นกัน เพราะดูลู่ทางแล้วคงเอาดีการเป็นผู้รักษาประตูได้ยาก
ตอนนั้นนอกจาก มูเรียล พี่ชายที่คอยสร้างแรงบันดาลใจด้วยประโยคปลุกเร้ากระตุ้นให้ฮึดสู้อย่าเพิ่งสิ้นหวังง่ายๆแล้ว
ยังมี ดาเนี่ยล ปาวาน โค้ชคนแรกในชีวิตที่เห็นแววรุ่งโรจน์ พยายามปลอบและโน้มน้าวสารพัด ถึงกับลุยไปหา โชเซ่ เบ็คเกอร์ ผู้เป็นพ่อด้วยตัวเอง
ปาวาน เกลี้ยกล่อมพ่อจนยอม พร้อมทั้งสัญญาว่าขอเวลาหนึ่งปีถ้า อาลี ไม่มีพัฒนาการอย่างที่ตั้งเป้าเอาไว้ ก็จะไม่รั้งอีกต่อไป
โชเซ่ ไม่อยากจะเชื่อคำพูดสักเท่าไร ยังยืนยันอยากให้ลูกชายมุ่งมั่นทางการศึกษามากกว่า โอกาสประสบความสำเร็จในชีวิตน่าจะมีสูง
กระนั้นเพราะเห็นแก่ลูกชายจึงใจอ่อนผ่อนปรนให้ แต่ต้องรับปากว่าตั้งใจอย่างเต็มที่ไม่มีเหยาะแหยะ หลังจากนั้น 1 ปี ค่อยมาดูกันอีกทีว่าสมควรจะได้ไปต่อหรือเปล่า
อาลี ก็สัญญากับตัวเองเช่นกันว่าจะมุ่งมั่นอดทนไม่ย่นย่อต่ออุปสรรค ซ้อมให้หนัก เรียนรู้อย่างเต็มที่เพื่อพิสูจน์ตัวเองให้ได้
ความพยายามอุตสาหะที่ลงแรงไป ผลิดอกออกผลตอบแทนอย่างน่าปลาบปลื้มในเวลาไม่ถึงปี
เขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง รูปร่างเพรียวและสูงขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันบุคลิกหน้าตาก็แตกต่างไปจากเดิม
ใบหน้าคมเข้มบวกกับหุ่นสูงใหญ่ เคยมีโมเดลลิ่งมาทาบทามไปเป็นนายแบบด้วยซ้ำ แต่ตอนนั้นไม่มีอะไรยิ่งใหญ่ไปกว่าฟุตบอลอีกแล้ว
จุดเริ่มต้นคือเข้าไปอยู่อะคาเดมี่ของอินเตอร์นาซิอองนาลตั้งแต่ 10 ขวบ ทีมเดียวกับ มูเรียล ผู้เป็นพี่ซึ่งคอยประคบประหงมดูแลน้องอย่างดี
พออายุ 21 ปีก็ไต่ระดับขึ้นสู่ชุดใหญ่ ซึ่งต้องขับเคี่ยวแย่งตำแหน่งกับ มูเรียล อีกต่างหาก
ไม่ใช่แค่นั้นสโมสรยังไปดึง ดีด้า นายด่านดีกรีทีมชาติบราซิลผู้ผ่านประสบการณ์โชกโชนมาอีก
แทนที่ อาลี จะกลัดกลุ้มตึงเครียด เขากลับเลือกมองด้านบวกมากกว่านี่คือโอกาสจะได้เรียนรู้จากคนเก่งกว่า ถือเป็นครูอย่างดีที่ไม่ต้องไปดิ้นรนหาที่ไหนเลย
มีทั้งพี่ชายและนายทวารจอมเก๋าอยู่ข้างๆ คิดได้อย่างนี้ก็มีความสุขสนุกกับเกมของตัวเองต่อไป
พออายุ 24 ปีได้รับข้อเสนอจากโรม่า เขาไม่ลังเลเลยสำหรับการตัดสินใจแพ็กกระเป๋าขึ้นบ่าไปหาความท้าทายใหม่ยังกรุงโรม
สมาชิกในครอบครัวพร้อมหน้ากันอีกครั้งก่อน อาลี จะเดินทางครั้งสำคัญของชีวิต
เขาขอบคุณพ่อที่ให้การสนับสนุน ยอมแพ้กับคำรบเร้าในอดีต จนทำให้มีปัจจุบันที่น่าภาคภูมิใจ
การได้ติดทีมชาติบราซิลชุดใหญ่คือความฝันของนักเตะในประเทศทุกคน อาลี ทำสำเร็จแล้ว แซงหน้า มูเรียล พี่ชายที่ไม่เคยถูกเรียกติดธงเลย
ก้าวต่อไปคือแสดงให้พวกยุโรปประจักษ์ว่า บราซิลไม่ใช่เป็นแหล่งผลิตพวกแข้งตัวรุกชั้นนำเท่านั้น แต่ยังมีผู้รักษาประตูไฮเอนด์ด้วยเช่นกัน
แน่นอน อาลี ทำได้ ไม่ว่าจะในสีเสื้อโรม่าหรือเมื่อย้ายมาลิเวอร์พูลในปี 2018 ค่าตัวแพงสุดในโลกสำหรับตำแหน่งนี้
ช่วง 5 ปีที่ย้ายมาจากบ้านเกิด ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมากๆ จนแทบตั้งตัวไม่ทัน
เขาถีบตัวเองขึ้นมาจนเป็นผู้รักษาประตูระดับโลก โดดเด่นทั้งความเหนียวหนึบ แถมใช้เท้าเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม อีกทั้งรับบทเป็นกองหลังตัวสุดท้าย
แต่บางเรื่องมันก็เกิดขึ้นโดยที่ อาลี ไม่ทันตั้งตัวเช่นกัน
วันอังคารที่ผ่านมา อลีสซง เบ็คเกอร์ ได้รับแจ้งข่าวร้ายผ่านทางครอบครัวว่า โชเซ่ พ่อของเขาหายตัวไป
ตอนแรกยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดหรือข้อมูลมากพอว่าอยู่ที่ไหน รู้แต่ว่าเดินทางไปยังบ้านพักส่วนตัวในชนบท ซึ่งอยู่ห่างจากนูวู ฮัมบูร์กูที่พักอาศัยราว 220 ไมล์
ปกติแล้ว โชเซ่ ซึ่งเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ก็ไปคนเดียวแบบนี้อยู่ประจำ เพราะชื่นชอบความสงบและธรรมชาติ ชอบที่จะว่ายน้ำในทะเลสาบซึ่งอยู่ใกล้เขื่อน
กระทั่้งวันพุธได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ทีมค้นหาว่าพบศพชายคนหนึ่ง ถูกกระแสน้ำพัดพาขึ้นฝั่งเสียชีวิต ก่อนจะยืนยันว่าเป็น โชเซ่
ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือข่าวร้ายที่สุดในชีวิตของ อาลี มันเกิดบึ้นปุบปับอย่างมาก เกินกว่าทำใจรับไหวได้
เพื่อนฝูงที่ใกล้ชิดให้รายละเอียดกับสื่อว่า อาลี พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อบินไปบราซิล ร่วมพิธีส่งพ่อเป็นครั้งสุดท้าย
เขาดิ้นรนหาไฟลท์เร็วที่สุด แม้จะรู้ดีว่าสถานการณ์ปัจจุบันที่เชื้อไวรัสแพร่กระจายและแต่ละประเทศมีมาตรการป้องกันอันเข้มข้น จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ทางครอบครัวก็กำลังเฝ้ารอว่า อาลี จะกลับมาถึงเมื่อไร เพื่อได้จัดการวางแผนเรื่องสถานที่จัดพิธีศพให้สะดวกกับสมาชิกคนสำคัญ
เขาตั้งใจว่าจะอยู่ที่บราซิล 5 วัน จากนั้นเมื่อบินกลับมาต้องกักตัวอีก 10 วันในโรงแรม โดยไม่ได้มีการฝึกซ้อมตามปกติเลย
อาลี แจ้งกับทางสโมสรจะกลับมาภายใน 3 สัปดาห์ ซึ่งก็ได้รับไฟเขียวเรียบร้อย ทุกคนเข้าใจดีไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์สูญเสียสะเทือนใจเช่นนี้
อุปสรรคยังอยู่ที่ นาตาลี ภรรยาตั้งท้องได้ 28 สัปดาห์แล้ว ใกล้ที่จะให้กำเนิดลูกคนที่ 3 เต็มที ทุกอย่างลำบากมากห่วงหน้าพะวงหลัง ไหนจะหวั่นว่านำเชื้อมาติกระทบถึงเด็กในท้อง
สุดท้ายเขาจึงยอมแพ้ ไม่อาจเดินทางไปส่งพ่อสู่สวรรค์อย่างที่ตั้งใจได้
มันเป็นเรื่องเศร้าสุดในชีวิตของ อาลี ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมาก ไม่มีทางที่จะทำไจได้ง่ายๆ
ท่ามกลางธารกำลังใจที่หลั่งไหลมามากมาย เพื่อให้รู้ว่าเขาไม่ได้เดินตามลำพังเพียงคนเดียว
และถึงที่สุดแล้ว อาลี จะค่อยๆเข้มแข็ง ผ่านมันไปได้แน่นอน
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา