28 ก.พ. 2021 เวลา 02:30 • กีฬา
[ #แตกต่างอย่างขุนค้อน ]
ฤดูกาลนี้พรีเมียร์ลีกมีหลายทีมสร้างเซอร์ไพรส์ไว้อย่างน่าสนใจ
1
ทีมอย่างเอฟเวอร์ตัน , ลีดส์ ยูไนเต็ดหรือแอสตัน วิลล่าสร้างความฮือฮาอยู่ช่วงหนึ่ง ขยับขึ้นไปอยู่หัวตาราง
อย่างไรก็ดีการจะยืนระยะได้ยาวๆในระบบฟุตบอลลีก ต้องยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเอาซะเลย ต้องรักษามาตรฐานทุกสัปดาห์ที่ลงเล่น หากจะทำได้อย่างนั้นต้องมีความพร้อมมากพอ
แต่ในขณะที่ทีมเหล่านั้นเริ่มออกอาการแผ่ว ไม่เปรี้ยงปร้างเหมือนในตอนแรกๆ แต่เวสต์แฮม ยูไนเต็ดกลับตรงกันข้าม
10 นัดหลังสุดในลีกก่อนเจอกับแมนฯซิตี้ ทัพขุนค้อนคว้าชัยมาถึง 7 ด้วยกันและพ่ายเพียงแค่เกมเดียวเท่านั้น
ไม่ใช่ฟอร์มร้อนอย่างเดียวเท่านั้น แต่แนวทางการเล่นก็ชัดเจนเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งบริหารงานโดย เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีมที่เคยโดนตั้งคำถามว่าเก่งจริงหรือ?
กุนซือสก๊อตติชทำทีมอย่างมีเอกลักษณ์ เน้นการเล่นเกมรุกแบบดุดัน ผสมผสานกับความแข็งแกร่งในแดนกลาง รวมทั้งใช้ทีเด็ดจากลูกเซ็ตพีซคอยเล่นงาน ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลยสักนิด ทว่าเต็มไปด้วยประสิทธิภาพ
1
แฟนบอลขุนค้อนต่างตื่นเต้นกับผลงานในซีซั่นนี้ เพราะนานมากแล้วที่ไม่ได้ยืนหยัดโซนบนของตาราง มีลุ้นไปเล่นฟุตบอลยุโรป
เพราะฤดูกาลก่อนๆเต็มที่ประคองตัวอยู่รอด จบครึ่งบนของตารางถือว่าน่าพอใจแล้ว
ว่ากันว่าซีซั่น 2015/16 ภายใต้การคุมทีมของ สลาเวน บิลิช สร้างความสุขให้กับบรรดาเดอะ แฮมเมอร์สมากๆ อย่างน้อยการจบด้วยเลขตัวเดียว มันก็ทำให้พวกเขาเดินยืดได้กว่าเดิม
อย่างไรก็ดีฤดูกาลที่อยู่ในความทรงจำของใครหลายคนต้องย้อนไป 35 ปีก่อน 1985/86 เป็นช่วงที่ขุนค้อนสร้างแรงสั่นสะเทือนได้อย่างเหลือเชื่อ ด้วยเกมรุกอันทรงพลัง จนหวิดจะได้ลุ้นแชมป์ด้วยซ้ำไป
ซีซั่นนั้นขุนค้อนเคยทำสถิติไม่แพ้ติดต่อกันในลีก 18 เกม เบื้องหลังผลงานอันน่าทึ่งมาจากทีมสิปริตอันแข็งแกร่ง อัลวิน มาร์ติน กัปตันทีมในช่วงดังกล่าวเป็นเซ็นเตอร์ของทีม มักจะเรียกเพื่อนๆมาประชุมทำความเข้าใจอยู่เสมอ
พวกเขายังไล่ล่าคว้าชัยชนะถึง 8 เกมติดต่อกัน แฟร้ง แม็คเอเวนนี่ ซึ่งกระชากมาจากเซนต์ มีร์เรนด้วยค่าตัว 350,000 ปอนด์ คือดีลที่คุ้มค่ามากๆ เพราะซัดประตูระเบิดเถิดเทิง
จริงๆแล้ว แม็คเอเวนนี่ เกือบจะย้ายไปลูตัน ทาวน์แล้ว แต่เมื่อได้พบกับ เดวิด อีแวนส์ ผู้บริหารของขุนค้อนก็เปลี่ยนใจทันที ซึ่งมันน่าจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง
เขาได้ลงเป็นตัวสำรองแทน พอล กอดดาร์ด ที่บาดเจ็บในเกมแรกกับเบอร์มิ่งแฮม จากนั้นมาก็ยกระดับกลายเป็นแกนหลักทันที
"แม็คเอเวนนี่ เปรียบเหมือนอาวุธลับของจริง ไม่มีใครรู้จักเขามาก่อน คนส่วนมากยังเรียกชื่อเขาไม่ถูกด้วยซ้ำไป"
อัลวิน มาร์ติน เคยว่าเอาไว้อย่างนี้ อาจเพราะความโนเนมทำให้บรรดากองหลังไม่ค่อยสนใจสักเท่าไร ก่อนจะรู้นี่คือมัจจุราชดีๆนี่เอง
แม็คเอเวนนี่ ทะลวงตาข่าย 26 ประตูในลีกอย่างเดียว เขาจับคู่กับ โทนี่ ค็อตตี้ ได้อย่างลงตัว
ค็อตตี้ กองหน้าร่างเล็ก ปราดเปรียวจัดจ้าน จมูกไวอย่างมากในกรอบเขตโทษ ยามที่จับคู่กับ แม็คเอเวนนี่ จะเกิดสมดุลอย่างดี
จากที่ไม่มีใครรู้จักสองคนนี้สถาปนากลายเป็นพาร์ทเนอร์ดีสุดในดิวิชั่น 1 ยุคนั้น เหนือกว่าคู่กองหน้าไหนๆ เพราะมาแบบเซอร์ไพรส์ไม่ได้ถูกคาดหวัง
แม็คเอเวนนี่ 26 ประตู ค็อตตี้ 20 ประตู สองคนรวมกันจัดไป 46 ตุง ทำให้ ค็อตตี้ ได้รับเลือกเป็นแข้งยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของสโมสร อีกทั้งคว้าผู้เล่นดาวรุ่งของลีกมาครองอีกต่างหาก
ขณะเดียวกันการหายบาดเจ็บกลับมาของ อลัน เดวอนเชียร์ ในรอบกว่า 1 ปีก็ส่งผลให้แดนกลางของเวสต์แฮมแน่นขึ้นมา ด้วยพละกำลังอันเหลือเฟือ รวมถึงไหวพริบอันยอดเยี่ยม เป็นความลงตัวระหว่างกำลังกับมันสมอง
เมื่อบวกกับ โทนี่ พาร์คส์ นายด่านที่ไว้เนื้อเชื่อใจได้ , โทนี่ เกล ปราการหลังที่แข็งแกร่ง ขุนค้อนจึงถึงขั้นได้ลุ้นแชมป์เลยทีเดียว
ก่อนถึงเกมสุดท้ายของซีซั่น เวสต์แฮมระเบิดฟอร์มชนะรวด 6 เกม หากเกมที่ 42 (ซีซั่นนั้นมี 21 ทีม) พวกเขาบุกไปเข่นเอฟเวอร์ตันสำเร็จคว้าอันดับสองมาครองทันที
น่าเสียที่ทอฟฟี่น้ำเงินร้อนแรงในช่วงดังกล่าวเช่นกัน ขุนค้อนเลยพลาดท่า 1-3 ยึดอันดับ 3 แต่ก็ถือว่าน่าภูมิใจมากๆแล้วที่ทำผลงานได้ขนาดนี้
พวกเขาได้สิทธิ์ไปเล่นถ้วยยูฟ่า คัพในสมัย สำหรับแข้งบางคนมันเหมือนฝันเลยจริงๆ ก่อนซีซั่นจะเปิดยังเป็นแค่ม้านอกสายตา เอาแค่อยู่รอดปลอดภัยก็ดีมากแล้ว
ตอนนั้นเวลามีเกมในอัพตัน พาร์คทีไร แฟนบอลจะเข้าไปเนืองแน่นกว่า 30,000 คน เรียกว่าเต็มความจุ เสียงเชียร์ดังกระหึ่มชนิดไม่เคยมีมาก่อน
โทนี่ เกล เล่าว่าแฟนๆกู่ร้องเพลงและตะโกนให้กำลังในระดับเดซิเบลที่สูงมาก เป็นช่วงที่ทุกคนมีความสุข ตื่นเต้นกับการได้ดูเกมทุกสัปดาห์
อย่างไรก็ดีฤดูกาลถัดมา พวกเขาจบอันดับ 15 ตามด้วยซีซั่น 1987/88 ได้ที่ 16 ตามด้วยอันดับ 19 ต้องหล่นชั้นอย่างน่าเจ็บปวด
ผู้เล่นคนสำคัญอย่าง แม็คเอเวนนี่ ย้ายไปกลาสโกว์ เซลติกในปี 1987 ส่วน ค็อตตี้ ไปอยู่เอฟเวอร์ตันในปี 1988
แม้จะเป็นความสุขระยะสั้น แต่สำหรับแฟนเวสต์แฮมแล้วยังอยู่ในความทรงจำเสมอเมื่อปัดฝุ่นนึกถึงครั้งใด
แม้จะพ่ายแมนฯซิตี้อย่างน่าเสียในเกมที่เอติฮัต เมื่อวันเสาร์ แต่เวสต์แฮมต่อสู้ห้ำหั่นได้อย่างน่าพอใจ
อย่างน้อยที่สุดสะท้อนถึงมาตรฐานอย่างแท้จริง ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่เกิดขึ้น มันไม่ควรมีคำถามอะไรอีก
ขุดค้อนยังคงปักหลักอันดับ 4 เช่นเดิม ไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะฝันถึงการสร้างประวัติศาสตร์ได้เล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกฤดูกาลหน้า
มอยส์ เคยมีประสบการณ์กับการคุมเล่นถ้วยใหญ่ยุโรปมาแล้ว ทั้งตอนคุมเอฟเวอร์ตันและแมนฯยูไนเต็ด นี่คือโอกาสดีอีกครั้ง
นอกจากการผ่าตัดปรับจูนรุปแบบการเล่นจนน่าพอใจแล้ว ต้องชื่นชมผู้บริหารทั้ง เดวิด ซัลลิแวน ผู้ถือหุ้นใหญ่และ เดวิด โกลด์ ที่มีหุ้นรองลงมาที่สนับสนุนงบประมาณเพื่อซื้อนักเตะอย่างเต็มที่
ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา พวกเขาจ่ายในเรตสูงทั้ง
- วลาดิเมียร์ คูร์ฟาล 5.4 ล้านปอนด์
- ปาโบล ฟอร์นาลส์ 24 ล้าน
- อิสซ่า ดิย็อป 22 ล้าน
- จาร็อดโบเว่น 18 ล้าน
- อาร์เธอร์ มาซูอาคู 6.2 ล้าน
- โธมัส ซูเช็ค 19 ล้าน
- ซาอิด เบนรามาห์ 25+5 ล้าน
ส่วน ฟาเบียน บัลบูเอนา และ อันเดร ยาร์โมเรนโก้ ที่ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขก็น่าจะใช้ไปไม่ร่วม 30 ล้านปอนด์ ไหนจะจ่าย 1.5 ล้านเพื่อค่ายืมตัว เจสซี่ ลินการ์ด อีก
อาจจะยังบอกไม่ได้หรอกว่าคุ้มค่ามากน้อยแค่ไหน แต่นี่คือการเดินมาถูกทางแล้วของเวสต์แฮม
สิ่งที่ทุกคนจับตาคือจะยืนระยะรักษาได้นานแค่ไหน แฟนเวสต์แฮมได้แต่หวังว่าจะไม่ซ้ำรอยฤดูกาล 1985/86 ที่ฟอร์มเยี่ยมแค่ช่วงนั้น แล้วก็รูดลงมาอย่างน่าใจหาย
เวสต์แฮมคือตัวอย่างของการทำงานที่มุ่งมั่นจริงจังทุกภาคส่วน ทีมสปิริตทีมเหนียวแน่นมากๆ ขวัญกำลังใจผู้เล่นดีเยี่ยม บรรยากาศในทีมราบรื่น
เดแคลน ไรซ์ ยังพูดไว้เลยว่า เกิดมาไม่เคยเห็นเวสต์แฮมเล่นดีอย่างนี้มาก่อนเลย จัดเป็นปรากฎการณ์สำหรับแฟนบอลจริงๆ
หากพวกเขาจบท็อปโฟร์ได้ ควรยกตำแหน่งทีมยอดเยี่ยมแห่งซีซั่นให้ไปเลย
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา