28 ก.พ. 2021 เวลา 05:18 • ความคิดเห็น
Life is suffering
ชะตากรรมชีวิตของ หลี่เสวี่ยเหลียน และ จอห์น วิค
1
หนังสือ : “อย่าเรียกฉันว่านังแพศยา”
(I did’t kill my husband)
เขียนโดย หลิวเจิ้นอวิ้น
แปลโดย ศุณิษา เทพธารากุลกาล
เป็นหนังสือเล่มหนาพอสมควรคือ 404 หน้า
2
มดใช้เวลาสามวันถึงจะจบ ที่จริงหากมีเวลาเต็ม ๆ วัน ก็น่าจะอ่านรวดเดียวจบได้ เพราะเนื้อเรื่องสนุกน่าติดตาม
1
พออ่านหนังสือจบก็ได้มีโอกาสดูภาพยนต์ Jonh Wick ภาค 3 ในขณะที่ยังอินอยูกับหนังสือที่เพิ่งอ่านจบ เรื่องราวของจอห์น วิคในจอภาพยนต์ตรงหน้า และประโยคที่ว่า “Life is suffering” ก็ทำให้นึกถึง หลี่เสวี่ยเหลียน จากหนังสือ : “อย่าเรียกฉันว่านังแพศยา” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ชะตากรรมของทั้งคู่ไม่ต่างกันนัก และมีความ Suffering ของชีวิตคล้าย ๆ กัน ต่อสู้อย่างโดดเดี่ยวและลำพัง ยังไม่พอ ยังโดนกลุ้มรุมทำร้ายจากผู้มีอำนาจทุกทิศทาง แต่น่าแปลกที่เรื่องแบบนี้ กลับสร้างความบันเทิงให้เราทั้งสองเรื่อง
หลี่เสวี่ยเหลียน แต่งงานกับสามี และมีลูกหนึ่งคน อยู่มาสักพักเกิดตั้งท้องลูกคนที่สอง ซึ่งผิดกฎหมายประเทศจีนในขณะนั้น ที่กำหนดให้มีลูกได้เพียงคนเดียว
นางเลยคิดแผนการณ์ หย่ากับสามี (แบบปลอม ๆ ) โดยทำให้เหมือนจริงโดยการแยกกันอยู่ ไม่ไปมาหาสู่กัน รอจนคลอดลูก แล้วจะได้กลับมาแต่งกันอีก โดยลูกคนที่เพิ่งคลอดก็จะได้ไม่ถือว่าเป็นลูกที่เกิดจากการสมรสครั้งก่อน แต่เป็นลูกติดแม่แทน (ทั้ง ๆ ที่ก็พ่อแม่คนเดิมนี่แหละ)
1
เรื่องควรจะจบง่าย ๆ ตามแผน ถ้าสามีนางไม่ดันไปแต่งงานกับสาวอื่นซะก่อน หลี่เสวี่ยเหลียน ในตอนแรกแค้นใจสามีมาก จนอยากจะฆ่าให้ตาย แต่สุดท้ายนางก็ตัดสินใจจะพึ่งขบวนการยุติธรรม
3
นางอยากให้ศาลตัดสินว่า การหย่าในครั้งนั้นของนางเป็นการหย่าจอมปลอม นางต้องการที่จะแต่งงานกับสามีอีกครั้ง แล้วหย่าให้ถูกต้อง
1
สารภาพว่า อ่านในตอนแรกก็งงว่า นางจะทำไปทำไม ก็ในเมื่อตอนนี้ก็แยกกันอยู่กับสามีแล้ว ต่างคนต่างอยู่ไปสิเธ้อ จะไปทำอะไรให้ยุ่งยากทำไมอี๊กกกก
ซึ่งทุกคนในเรื่องก็คิดเช่นนั้นหมด พร้อมทั้งมองนางเป็นตัวประหลาด และซุบซิบนินทา จนจากนางตัวประหลาดกลายเป็นนางแพศยาได้อย่างไรก็สุดจะคาดเดา
แล้วเรื่องราวก็ดำเนินขับเคลื่อนไปตามแรงความแค้นของนางที่ถูกสามีทรยศ และการถูกปฎิเสธครั้งแล้วครั้งเล่าของกระบวนการยุติธรรม นางไม่ย่อท้อเดินเรื่องต่อไปจนถึงระดับประเทศ และทำให้ผู้คนทุกระดับชั้นเกรงกลัวในความดื้อ ความกล้า และความไม่ยอมใครของนาง
ส่วนชีวิตจอห์น วิค ยุ่งวุ่นวาย ต่อสู้กับกองทัพนักฆ่ามากมาย เพียงเพราะมีคนมาทำร้ายหมา และรถแสนรักของพี่เค้า ชีวิตของพี่วิคแทบไม่ต่างกับหลี่เสวี่ยเหลียน ที่เริ่มจากการต่อสู้กับนักเลงระดับล่าง ไต่เต้าไปจนระดับหัวหน้าใหญ่ นักฆ่าทุกระดับชั้นทั่วโลก แม้จะเป็นศัตรูต้องตามล่าพี่วิค ก็ยังต้องแอบชื่นชมยกย่องให้พี่วิคเป็นไอดอล
นี่ตามดูพี่วิคมาจนภาคที่ 3 ซึ่งสภาพเริ่มทรุดโทรมจากการระหกระเหิน และหนีหัวซุกหัวซุนเต็มที่ บางทีก็คิดว่า พี่วิคจะมีซักครั้งหรือไม่นะที่จะฉุกคิดว่า ชีวิตดำเนินมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร จากที่เคยคิดจะวางมือ สร้างบ้านสวยเก๋ มีรถสวยเท่ ใช้ชีวิตสมถะและนั่งดูรูปแฟนที่จากไปด้วยความคิดถึงทุกเมื่อเชื่อวัน
กลายมาเป็นนักรบเร่ร่อน ที่แม้แต่หมาที่รักก็ยังต้องฝากคนอื่นไว้ เพราะลำพังตัวเองยังไม่รู้จะรอดมั้ยเลย
หลี่เสวี่ยเหลียน และ จอห์น วิค มีชีวิตที่ระทมทุกข์เฉกเดียวกัน
ในหนังสือฉากชีวิตของหลี่เสวี่ยเหลียนจบไปแล้ว และตลอดเส้นทางขีวิตของเธอไม่ได้พานพบกับความสุขจากความยึดมั่นถือมั่นของเธอเลย
1
ไม่มีใครเข้าใจเธอเลย แม้จะมีบางเสี้ยวที่เธอเหมือนได้น้ำทิพย์ชโลมใจจากชายที่คิดว่ารักเธอ แต่ก็นั่นแหละเธอมาพบภายหลังว่า แท้จริงเธอโดดเดี่ยวเพียงใด
ชีวิตของพี่จอห์น วิคยังไม่จบ เข้าใจว่ากำลังจะถ่ายทำภาค 4 ซึ่งทั้ง 3 ภาคที่ผ่านมา แม้จะดูเหมือนว่าพี่วิค ยังได้รับการหยิบยื่นความช่วยเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่โดยรวม พี่วิคก็ต่อสู้อย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย จนบางทีก็แทบจะตอบไม่ได้ว่า จะทำไปทำไม หรือจะมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร
ไม่ว่าชีวิตหลี่เสวี่ยเหลียน และ จอห์น วิค จะระทมทุกข์หรือ Suffering ขนาดไหน ท้ายที่สุดแล้ว ก็เป็นความระทมทุกข์ที่ทั้งสองเลือกเอง ต่อให้มีใครกี่ร้อยกี่พันคน ตะโกนใส่หูว่า
“เฮ้ย ชีวิตมีอีกหลายทางให้เลือกเดินอย่างมีความสุขกว่านี้นะ”
3
สองคนนี้ก็อาจจะไม่ได้ยิน และไม่ได้เห็น
ก็เหมือนกับหลายครั้งในชีวิตเรานั่นแหละ เราเลือกฟังในสิ่งที่เราอยากฟังและก็เลือกที่จะระทมทุกข์แบบที่ไม่แยแสใคร
3

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา