28 ก.พ. 2021 เวลา 13:29 • นิยาย เรื่องสั้น
#จันทร์เจ้าขาตอนพิเศษ,
#ที่มาตัวละครผู้กองหนุ่มบทที่ 2ตอนที่ 3
(28/2/2021)
สวัสดีครับ เพื่อนๆ
จันทร์เจ้าขา ในคืนนี้.. ขอขยายตอนพิเศษอีกหนึ่งตอน ตามคำขอของมะตีฮะน้อย ที่ยังไม่อยากให้จบนะครับ..
ดังนั้นตอนจบอันสุดแสนประทับใจของผู้กองหนุ่มจึงขยายออกไปเป็นวันพุธ ที่3/3/2021 นะครับ
❤️🎶💙🎵
สุขสันต์วันอาทิตย์นะครับ ทุกคน
..
..
บทที่ 2 ตอนที่ 3 ผู้กองหนุ่ม นายแพทย์ชอว์ สมิงไพรหนุ่มมะตีฮะ และคุณหนูน้อยซ์ (8)
#ค่ายที่พักชาวมอญ ตรงบริเวณตีนเขา,
“จงรีบ เข้ามาหลบภัย ในเขตเมืองบังบดฝั่งนี้เถิด..
ประตูได้เปิดแล้ว..
ข้าจะนำพวกออเจ้า ไปยังช่องแคบ .. นั้นด้วยตัวข้าเอง“
สิ้นเสียงตะโกนสั่งของเมี้ยะวดี..
บรรดาครอบครัวชาวมอญอพยพ ก็ส่งเสียงฮือฮา และรีบหยิบข้าวของเครื่องใช้ ลุกขึ้นเร่งเดินเท้า ตามกันเข้าสู่เขตเมืองบังบด..
แต่ในความชุลมุนวุ่นวายนั้น ..มะตีฮะ ก็เริ่มสังเกตเห็นถึงความผิดปกติของท้องฟ้า ที่มืดลงอย่างรวดเร็ว ..และ..ศพชาวมอญที่โดนลูกธนู นอนตายเกลื่อนกลาด อยู่ด้านหลังเหล่านั้น.. กลับลุกยืนขึ้น แล้วค่อยๆยืดตัว ร่ายรำกลายร่างเป็นอสุรกายน่าเกลียด ..น่ากลัว
และเดินย่างก้าวยาวๆ เดินมุ่งหน้ามาทางประตูเมืองบังบดฝั่งนี้..
เมื่อ มะตีฮะ เหลียวมองชาวมอญที่เดินอยู่รอบๆ ก็พบว่า เหมือนมีอะไรบางอย่างบังตา ..ทำให้ชาวมอญเหล่านั้นไม่เห็นถึงสิ่งผิดปกติ รอบๆตัว ..
มะตีฮะ จึงหันกลับมาสะกิดสมิงไพรหนุ่ม และเล่าถึงอาเพศประหลาด ที่กำลังเกิดขึ้น..อยู่ในขณะนี้..
สมิงไพรหนุ่มได้ฟังแล้ว จึงล้วงหยิบสิ่งหนึ่ง ออกมาจากย่าม แล้วยื่นส่งให้มะตีฮะ..พร้อมกับพูดว่า
“จงใช้สิ่งนี้เถิด..”
มะตีฮะก้มมองพิจารณาพระกริ่งในมือ แล้วจึงถามสมิงไพรหนุ่มว่า..
“อาจารย์ เจ้าคะ.. สิ่งนี้คือ อะไร รึเจ้าคะ?”
สมิงไพรหนุ่มเอียงศีรษะยิ้มให้มะตีฮะ และตอบอย่างเอ็นดู ว่า..
“นี่คือ พระกริ่งพระปทุมสุริยวงศ์ ที่สร้างขึ้นในสมัยพระชัยวรมันต์ ที่ 7 ..ขอเจ้าจงใช้สิ่งนี้ เพื่อเรียกสติ ชาวมอญเหล่านี้จากอาถรรพ์อาเพศวิปริตนี้เถิด..”
มะตีฮะ พยักหน้ายิ้มตอบรับอาจารย์ อย่างเข้าใจ..
“ได้เลย เจ้าค่ะ..”
และก่อนที่สมิงไพรหนุ่มจะได้ทันสอนพระคาถากำกับการใช้..มะตีฮะก็ลุกขึ้นยืนบนหลังม้าอีกครั้ง แล้วตะโกนดังลั่น ขึ้นว่า..
“ทุกคนจงดู!!!
นี่คือพระกริ่งพระปทุมสุริยวงศ์ ที่สร้างขึ้นในสมัยพระชัยวรมันต์ ที่ 7..
ข้า มะตีฮะ ได้พบสิ่งนี้บนพื้นในระหว่างทางเดิน ..ขอพวกท่านทั้งหลาย จงก้มลงหาเถิด ..พวกท่านอาจเป็นผู้มีบุญญาธิการ ได้พบเจอ และครอบครองสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่นข้า..”
ทันที ที่มะตีฮะพูดจบ..
เหล่าชาวมอญ ก็พร้อมใจกันหมอบทรุดตัว ก้มมะงุมมะงาหรา คลานควาน หารอบๆตัว..
จนเกิดช่องว่างทำให้ง่ายต่อการมองอาถรรพ์ที่กำลังก่อตัวอยู่ด้านหลัง..
สมิงไพรหนุ่ม หัวเราะและเอามือจับขยี้ผมของศิษย์รัก อย่างถูกใจกับความฉลาดแกมโกง เล็กๆนี้ .. แล้วจึงมองตามไปทางด้านหลัง
1
คิ้วของสมิงไพรหนุ่มค่อยๆขมวดเข้าหากัน อย่างครุ่นคิดแล้วจึงพูดสั่ง มะตีฮะ ..
ในขณะที่รวบตึงผมยาวขึ้นมัดด้านหลัง..ในลักษณะของชาวสมิงที่เตรียมออกรบ..
“ไม่ได้การเสียแล้ว มะตีฮะ
..ลักษณะของศพเหล่านั้นได้ถูกตรึงไว้ด้วยตราประทับ ..ให้ตกเป็นเครื่องเซ่น ทาสรับใช้ ของเหล่าแม่ทัพนัตของพม่าเสียแล้ว
จงเร่งให้ชาวมอญเหล่านี้ รีบผ่านพ้นเข้าประตูเมืองบังบด ติดตามบุตรของสมิงเป่อ โดยเร็วเถิด..
ส่วนพวกเรานั้น จะหลอกล่ออสุรกาย เหล่าทหารผีของกองทัพนัต ให้ติดตามพวกเราไปอีกทางหนึ่งของเมืองบังบด ..”
มะตีฮะได้ฟังสมิงไพรหนุ่มพูดดังนั้น ก็ทำท่าตาโต อ้าปากกว้าง แล้วจึงเอ่ยทักท้วงเสียงแหลม ว่า..
“อาา.. จ๊านนนน รับมือกับทหารอสุรกาย เพียงเราสองคน นี่หรือเจ้าคะ..คือความคิดที่ดี ..โอยยยย..”
สมิงไพรหนุ่มยิ้มมุมปาก
..แล้วจึงหยิบดิ้นปั้นลูกหนึ่งยื่นให้มะตีฮะ แล้วพูดว่า..
“หึหึ..เราเพียงสองคน ที่ไหนกัน มะตีฮะ..
อาจารย์เพิ่งสอนวิชาผูกหุ่นพยนต์ให้เจ้า เมื่อพระจันทร์เต็มดวงครั้งก่อน ..
คราวนี้ เจ้าจะได้ปั้นดินเสกเล่น ให้สมใจแล้ว มะตีฮะ..”
มะตีฮะพยักหน้ายื่นมือรับดินปั้นหุ่น ด้วยสีหน้าดีใจ
ในขณะเดียวกัน สมิงไพรหนุ่มก็หยิบลูกปืนอาคมบรรจุเข้ารังเพลิง แล้วตั้งท่าประทับปืนเล็งไปยังบริเวณหน้าผากอสุรกายตัวที่ใหญ่ที่สุด..
แล้วกำหนดสมาธิในระดับฌาณ 4 ก่อนที่จะเหนี่ยวไก ..จนเกิดเสียงปืนดังขึ้นตามมา
“เปรี้ยงงงงงงง!!!” ดังก้องทั่วบริเวณ
จนชาวมอญทั้งหลายลุกขึ้นยืนมองนิ่งตกตะลึง
และชี้มือไปตามเสียงกระสุนปืนที่ดังระเบิด ขึ้นอีกครั้งเมื่อถูกเข้าหน้าผากของอสุรกายตัวสูง.. จนกระเด็นถอยหลังไปตามแรงระเบิด..
จากนั้น ชาวมอญทั้งหลายก็ได้สติ ..หลุดออกจากภวังค์อาถรรพ์..ส่งเสียงกรีดร้องแล้วรีบวิ่งหนี ตามเมี้ยะวดีเข้าไปยังเขตเมืองบังบด อย่างรวดเร็ว..
..
..
#ในป่าลึกลับเขตเมืองบังบดที่ตั้งของกองทัพทหารผีในสังกัดนัตมินคยีผู้พี่,
นัตมหาคีรีขยับตัวลุกขึ้น และสะบัดศีรษะอยู่สองสามครั้ง ให้หายมึน แล้วจึงจับหน้าผากที่ปูดโนของตน พร้อมกับคำรามเบาๆ ว่า..
“มันผู้ใดช่างบังอาจนัก ..
มาทำลายมนต์อาถรรพ์ของข้าลงได้..
เช่นนั้นแล้ว เหล่าทหารผีของข้า..จงติดตามนำ..มันผู้นั้น มาเป็นเครื่องเซ่นสังเวยให้ข้า นัตมหาคีรี ในบัดนี้..”
..
..
#ณ.บริเวณปากประตูทางเข้าเมืองบังบดฝั่งสมิงไพรหนุ่ม,
เมื่อครอบครัวชาวมอญชุดสุดท้ายก้าวเท้าเข้าสู่เขตแดนเมืองบังบด..
เมี้ยะวดี จึงเริ่มร่ายโองการหมอกมุงเมือง เพื่อปิดปากประตู..
มะตีฮะ มองสมิงไพรหนุ่มที่ยังยืนอยู่ประตูปากทางฝั่งโลกมนุษย์ โดยไม่มีท่าทีจะก้าวข้ามตามเข้ามา..
มะตีฮะจึงเสียบดาบของตนเก็บเข้าฝักเหน็บสะพายให้เรียบร้อย แล้วเดินก้าวออกมาจากเขตเมืองบังบด..มายืนข้างหลังสมิงไพรหนุ่ม
ก่อนที่จะหันกลับไปมอง
เมี้ยะวดี แล้วพูดขึ้นว่า..
“ข้า กับอาจารย์ ขออำนวยอวยชัย ให้บุตรสาว แห่งทหารกล้าสมิงเป่อ และเหล่าชาวรามัญทั้งหลายจงเดินทางถึงช่องแคบ อย่างปลอดภัย..
ข้ากับอาจารย์จะอยู่ต้านเหล่าอสุรกายทหารผี พม่า ทางนี้ไว้ให้..
หากวันหนึ่ง.. บุตรแห่งสมิงเป่อ ได้พบแม่มะซานดาในเขตเมืองบังบด แห่งใดแห่งหนึ่ง.. ขอจงฝากคำของข้า ถึงนางว่า..
ข้า มะตีฮะ รักและคิดถึงนางอย่างที่สุด..
ในทุกๆครั้งที่พระจันทร์เต็มดวง.. ข้า.. ร้อง..เพลง
รอ..แม่มะซานดาของข้า เสมอ..ข้าเอง ก็ไม่รู้ว่า..
ข้าจะได้เจอท่านแม่ เมื่อไหร่..แต่..อาจารย์สัญญากับข้า ว่า.. หากอาจารย์ยังมีลมหายใจอยู่.. อาจารย์จะพาข้าไปพบแม่มะซานดา อย่างแน่นอน..
อาจารย์ข้าถึงจะบ้าระห่ำ มุทะลุบ้างในบางครั้ง..
แต่อาจารย์เป็นคนรักษาสัจวาจาอย่างที่สุด..
ดังนั้น ข้า มะตีฮะ จึงขออยู่สู้เคียงข้าง ปกป้องลมหายใจของ อาจารย์ข้า..อยู่ที่นี่
เพื่อให้อาจารย์ทำตามคำสัญญานั้นให้สำเร็จ..”
มะตีฮะยกแขนขึ้นปาดน้ำตาครั้งหนึ่ง และส่งยิ้มให้เมี้ยะวดี ..จากนั้นจึงโบกมือลา และหันหน้ากลับไปยังสมิงไพรหนุ่มอีกครั้ง..
เมี้ยะวดี พยักหน้าส่งยิ้มและโค้งศีรษะร่ำลามะตีฮะเป็นครั้งสุดท้าย ..แล้วจึงปิดประตูเขตเมืองบังบดลงให้กลายเป็นหินภูเขาดังเดิม..
..
..
สมิงไพรหนุ่มก้มลงยิ้มให้ศิษย์รัก และยื่นถุงดินปั้นหุ่นพยนต์ให้ทั้งถุง พร้อมดินสออาคมแท่งหนึ่ง..โดยไม่พูดอะไร..
มะตีฮะ ปาดน้ำตาอีกครั้ง ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมองสมิงไพรหนุ่ม แล้วเอ่ยถามว่า..
“อาจารย์เจ้าคะ.. อาจารย์จะให้ข้าเขียนบนหลัง หุ่นพยนต์เหล่านี้ ว่าจะนำเหล่าอสูรกายทหารผี เหล่านี้ ไปที่ใดกัน หรือ เจ้าคะ..”
สมิงไพรหนุ่ม หันหน้าไปยังเหล่าทหารผีที่กำลังวิ่งตามใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ..แล้วจึงอมยิ้ม หัวเราะเบาๆ แล้วตอบว่า..
“ จงเขียนคำว่า ..นรก เถิดมะตีฮะ..
อาจารย์จะนำพวกมันไปส่งยังนรกภูมิให้หมดทั้งกองทัพ
เพื่อเซ่นไหว้ ต่อ วิญญาณสมิงอะคร้าน และสมิงเป่อ .. พี่น้องร่วมสาบานของบิดาอาจารย์..
หึหึหึ..”
มะตีฮะยิ้มตาหยี ให้อาจารย์ และขานรับเสียงดังว่า..
“ได้เลยเจ้าค่ะ อาจารย์!!!”
..
..
..
“แต่ว่า นรก เขียนยังไงนะเจ้าคะ อาจารย์..”
สมิงไพรหนุ่มส่ายหน้าหยิบดินสออาคม และหุ่นพยนต์ขึ้นมาสองตัว บรรจงเขียนให้เป็นตัวอย่างให้มะตีฮะดู..
จากนั้นจึงส่งคืนให้มะตีฮะ ก่อนที่จะกระชับดาบแล้ว
กระโดดกลับขึ้นบนหลังม้า..
พร้อมกับยื่นมือให้ศิษย์รัก..
“อาจารย์เจ้าคะ..”
มะตีฮะเงยหน้ามองสมิงไพรหนุ่มบนหลังม้า แล้วยื่นหุ่นพยนต์ทั้งสองตัวให้อาจารย์ของตน แล้วพูดว่า..
“ตัวนี้ อาจารย์เขียนอ่านได้ว่า.. นา..รัก..
1
อีกตัว อาจารย์เขียนอ่านได้ว่า .. น่า..ร๊อก..
1
อาจารย์จะส่งพวกมันไปที่ปลายทางไหนกันแน่เจ้าคะ..?”
สมิงไพรหนุ่ม หลับตา ถอนหายใจยาว ..แล้วจึงลืมตาขึ้น พูดกับมะตีฮะว่า..
1
“เขียนบนหลังพวกมันว่า พม่า.. ส่งพวกมันไปพม่า แทนแล้วกัน !!!
รีบๆขึ้นมาบนหลังม้าได้แล้ว มะตีฮะ!!”
มะตีฮะ พยักหน้ายิ้ม แล้วพูดตอบสมิงไพรหนุ่ม ว่า..
“ฮะฮะ ฮะ ดีเลยเจ้าค่ะ.. ส่งไปพม่า..
เขียนง่ายกว่าส่งไป นรก เยอะเลย เจ้าค่ะ..”
มะตีฮะจับมืออาจารย์ แล้ว
กระโดดขึ้นมานั่งอยู่บนหลังม้า..
จากนั้น สมิงไพรหนุ่มจึงกระตุกสายบังเหียน ควบม้าให้พุ่งทะยานไปข้างหน้า
ขณะที่ มะตีฮะ บริกรรมพระคาถา แล้ว เขียนอาคมบนหลังหุ่นพยนต์ แต่ละตัว ว่า..
“พา..ไป..ส่ง.. ที่..พม่าๆๆๆ”
พลางโยนหุ่นพยนต์เหล่านั้น ตามรายทางที่ม้าควบผ่าน..
..
..
จบบทที่ 2 ตอนที่ 3
..
..
#เกร็ดเพิ่มเติม
การสร้างพระกริ่งเริ่มต้นที่ประเทศทิเบตและจีน จึงเรียกพระกริ่งทิเบตและพระกริ่งหนองแส ต่อมานิยมสร้างในเขมร เรียกว่า พระกริ่งอุบาเก็ง หรือพระกริ่งพนมบาเก็ง และพระกริ่งพระปทุมสุริยวงศ์ พบว่าขอมได้สร้างพระกริ่งปทุมขึ้นอย่างแพร่หลายทุกยุคในรัชสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เพื่ออุทิศบูชาแด่พระพุทธไภษัชยคุรุ ซึ่งได้มีการสร้างขึ้นมาตั้งแต่ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 1 ภายหลังแพร่หลายในหมู่ชาวไทย ลาว สำหรับประเทศไทย การสร้างพระกริ่งปรากฏเป็นหลักฐาน ก่อนยุครัตนโกสินทร์ บ้างว่า สมัยกรุงศรีอยุธยา บ้างว่าตั้งแต่สมัยสุโขทัย
พระกริ่งนิยมมีการบรรจุเม็ดกริ่งเป็นเม็ดโลหะเล็ก ๆ ไว้ภายในองค์พระ เพื่อเขย่าแล้วเกิดเสียงเวลาสวดมนต์ขอพรจากพระพุทธองค์
#“ผูกหุ่นพยนต์” 
คือการเอารูปหุ่นที่ได้แล้วมาเป่าเสกคาถา เมื่อ ปลุกเสกเสร็จแล้วจะมีคาถากล
บทอยู่ 4 คาถาที่ใช้หลังจากปลุกเสกแล้ว ..ตามวัตถุประสงค์ที่จะเรียกใช้หุ่นพยนต์เหล่านั้น..
เช่น แกะสลักจากไม้จากหิน หรือปั้นจากดิน เป็นยักษ์ปิศาจ สัตว์ประหลาดต่างๆ มีกระบองกระบี่ ขี่พาหนะ มีโล่มีเกาะ ยืนบ้างนั่งบ้าง ใช้ต่อสู้ หรือเฝ้าสถานที่ ปกปักษ์พิทักษ์รักษาสถานที่ต่างๆ ตามคำสั่งของผู้ใช้วิทยาคม..
สวัสดี และขอจบเพียงเท่านี้
ขอบคุณครับ
ร้อยเรียงจันทร์เจ้าขา
(T.Mon)
28/2/2021

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา