28 ก.พ. 2019 เวลา 04:00 • กีฬา
ของดีที่รักษาไม่ได้
ฤดูกาล 2014/15 เลสเตอร์ กระทืบคันเร่งสุดชีวิตในโค้งสุดท้าย ก่อนเก็บได้ 41 คะแนน รอดจากการตกชั้นอย่างน่าทึ่งเป็นที่สุด
ที่ต้องบอกว่าน่าทึ่งนั้น เพราะ 29 นัดแรกของฤดูกาล จิ้งจอกสยามเพิ่งเก็บไปได้แค่ 19 แต้มเท่านั้น พลิกปูมหลังรื้อดูแล้ว ทีมไหนก็ตามที่อยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ เตรียมตัวเตรียมใจตกชั้นได้เลย
แต่ เลสเตอร์ ทำในสิ่งเกินคาดหมาย เข้าป้ายจบด้วยอันดับ 14 ต่างหาก ห่างจากโซนแดงหรืออันดับ 18 ถึง 6 แต้มด้วยกัน ย่อมเป็นผลงานที่ควรค่าต่อการยกย่อง
ไนเจล เพียร์สัน ผู้จัดการทีมเวลานั้นได้รับการยกย่องในภารกิจหนีนรกซึ่งสำเร็จลุล่วงอย่างน่าพอใจ
มันเป็นเรื่องปกติที่จะต้องได้รับไฟเขียวให้ทำหน้าที่ต่อไป อย่างไร้เงื่อนไข
แต่แล้ว 30 มิถุนายน 2015 ก่อนม่านฤดูกาลใหม่รูดเปิดไม่เท่าไร เลสเตอร์ ประกาศปลด เพียร์สัน ออกจากตำแหน่งกุนซือ
ตอนข่าวแพร่สะพัดออกไปช็อคแฟนจิ้งจอกสยามที่นั่นแทบทั้งสิ้น นี่คือกุนซือที่สร้างปาฎหาริย์พาทีมรอดจากการตกชั้น เซฟเงินให้กับสโมสรนับร้อยล้านปอนด์
อย่างไรก็ตามเบื้องหลังของการเปลี่ยนแปลงแบบกะทันหันเช่นนี้ มันไม่ได้มาจากความไร้เหตุผลหรืออารมณ์ความรู้สึกส่วนตัวอย่างแน่นอน
มันเกิดขึ้นหลังจากทัพเลสเตอร์ เพิ่งกลับมาจากประเทศไทยในช่วงปรีซีซั่น ซึ่งมาเก็บตัวและเตะอุ่นเครื่องที่กรุงเทพฯ
จากนั้นมีเรื่องราวคาดไม่ถึง เมื่อสื่ออังกฤษต่างโหมข่าวและลงคลิป 3 แข้งเลสเตอร์ มามั่วเซ็กซ์กับสาวไทย
แถมยังพูดจากโหวกเหวกโวยวายอีกทั้งดูถูกผู้หญิงที่ร่วมทำกิจกรรมทางเพศอีกต่างหาก ท่ามกลางความคึกคะนองราวกับไม่รู้กาลเทศะ
3 นักเตะที่ว่าประกอบด้วย ทอม ฮูเปอร์ กองหน้าดาวรุ่ง , อดัม สมิธ นายด่านตัวสำรองและ เจมส์ เพียร์สัน ลูกชายในไส้แท้ๆของ ไนเจล เพียร์สัน
ต่อให้ เลสเตอร์ ไม่มีเจ้าของสโมสรเป็นคนไทย ทั้งสามคนก็ต้องโดนลงดาบสถานหนัก
จึงไม่แปลกใจที่ทางสโมสรจะตัดสินใจฉีกสัญญา อันหมายความว่าตะเพิดพ้นออกจากทีมนั่นแหล่ะ แม้ภายหลังจะมานั่งคอตกแถลงขอโทษแล้วก็ตาม
ผลการกระทำอย่างสิ้นคิดของลูก ส่งแรงกระทบกระแทกเข้ากลางลำของพ่อเต็มๆ
เพราะแม้ไม่มีการยืนยันว่า เพียร์สัน ออกมาปกป้องลูกชายหัวแก้วหัวแหวน แต่เพื่อให้เกิดความชอบธรรมและสบายใจกับทุกฝ่าย จึงต้องสังเวยด้วยเก้าอี้ผู้จัดการทีม
แฟนบอลไม่น้อยเห็นในมุมที่ต่างไป เชื่อว่าคนทำเท่านั้นควรได้รับผล ไม่ใช่โยงไปยังครอบครัวด้วย
แต่ อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ยืนกรานว่า ไม่ต้องการให้สโมสรมาเสื่อมเสียชื่อเสียงที่สร้างสมมานานในช่วงที่ตัวเองเป็นผู้บริหาร
ดังนั้นการตัดไฟกำจัดเนื้อร้าย ก่อนที่จะปล่อยให้ลุกลามออกไปน่าจะเป็นสิ่งที่ดีสุด
เสียงบ่นเสียดาย เพียร์สัน ดังก้องไปทั่วและเมื่อ เลสเตอร์ ประกาศแต่งตั้ง เคลาดิโอ รานิเอรี่ เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ลุยศึกในฤดูกาล 2015/16 กระแสไม่เห็นด้วยแรงหนักกว่าเดิม
แม้จะผ่านการกุมบังเหียนสโมสรชั้นนำในอิตาลีและระดับทีมชาติมาไม่น้อย แต่ส่วนมากแล้วแทบจะล้มเหลว รวมถึงโดนวิจารณ์ในความสับสนเรื่องแท็คติก
รานิเอรี่ จึงถูกตัดสินตั้งแต่ยังไม่เริ่มทำงานด้วยซ้ำ
อัตราแทง 1 จ่าย 5,000 ที่บุ๊กเมคเกอร์หรือบริษัทรับพนันถูกกฎหมายกำหนดขึ้นมาว่า เลสเตอร์ จะเป็นแชมป์พรีเมียร์ จึงเป็นเรื่องตลกขบขันเอาฮากันไป
มีคนมาแทงทั้งสิ้นเกือบ 50 ราย ซึ่งทุกคนไม่ได้คาดหวังอะไร นอกจากหยอดไว้ลุ้นเล่นๆหรือเผื่อฟลุค
แล้วอย่างที่เรารู้กัน ซีซั่น 2014/15 ว่าปาฎิหาริย์แล้ว เจอซีซั่น 2015/16 จึงยิ่งกว่าปาฏิหาริย์ซะอีก
จากที่ รานิเอรี่ ตั้งเป้าไว้แค่ 40 แต้มเพื่ออยู่รอดปลอดภัย แต่มันไปไกลกว่านั้นหลายเท่า เพราะสุดท้ายคว้าแชมป์ประวัติศาสตร์มาครองได้
มันคือความมหัศจรรย์พันลึกแห่งโลกลูกหนังอย่างแท้จริง ความโรแมนติกอันแสนคลาสสิกเกิดขึ้นได้เสมอ แต่ก่อนฤดูกาลไม่มีแม้แต่คนเดียวที่คิดว่า เลสเตอร์ จะทำสำเร็จ
ทุกคนแทบจะลืมวันที่เสียดาย เพียร์สัน และส่งเสียงร้องยี้ใส่ รานิเอรี่ ในทันที
อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ละครหรือภาพยนตร์ที่ตอนจบแฮปปี้เอนดิ้งและความสุขจะคงอยู่ชั่วนิรันดร์
แต่มันคือความจริงที่เราต้องก้าวเดินไปข้างหน้าต่อ ท่ามกลางความท้าทายในหัวข้อที่ว่า การได้แชมป์ว่ายากแล้ว การป้องกันแชมป์ยากยิ่งกว่าอีก
กระนั้นดูเหมือนว่าหลังจากสร้างปรากกฏการณ์แล้ว จิ้งจอกสยามไม่ได้วางแผนเพื่อจะรักษาความสำเร็จนี้ให้ยืนระยะต่อไป
ราวกับว่าพอใจแล้ว มาถึงจุดที่สุดยอดเกินความคาดหมายแล้ว
หลังดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ได้เพียง 9 เดือน รานิเอรี่ ก็โดนเชือดจากตำแหน่ง
มหัศจรรย์แชมป์พรีเมียร์ลีก ก็ไม่อาจช่วยเซฟเก้าอี้ของเขาได้ เพราะผลงานนับกันที่ปัจจุบันหาใช่อดีต
จากกุนซือยอดเยี่ยมประจำซีซั่นของทุกสถาบัน สถานะของ รานิเอรี่ เปลี่ยนเป็นคนตกงานภายในช่วงเวลาไม่เท่าไร ทุกอย่างพลิกไปมาเร็วเหลือเกิน
ว่ากันว่ามีหลายเหตุผลที่ทำให้ เลสเตอร์ ไม่อาจรักษามาตรฐานเอาไว้ได้ เกิดช่องว่างของความแตกต่างมากมาย
อย่างแรกหนีไม่พ้นการปล่อย เอนโกโล่ ก็องเต้ หัวใจสำคัญในแดนกลางไปให้กับ เชลซี แถมได้ค่าตัวเพียงแค่ 32 ล้านปอนด์ ซึ่งถือว่าผิดพลาดอย่างแท้จริง
ก็องเต้ เพิ่งเล่นให้กับทีมเพียงแค่ฤดูกาลเดียว ตอนย้ายมาเซ็นยาวไว้ถึง 4 ปีด้วยกัน นั่นหมายความว่ายังเหลืออีกถึง 3 ปี
แล้วทำไมจึงยอมขายในราคาต่ำเช่นนี้ แถมนี่เป็นยุคที่ค่าตัวผู้เล่นพุ่งกระฉูดเกินความจริงมากๆ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าตัวนักเตะอยากจะย้ายเป็นทุนอยู่แล้ว แต่นี่คือฟันเฟืองหรือคีย์แมนที่นำไปสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่
ไม่ว่าจะอย่างไรต้องดิ้นรนเต็มที่เพื่อเก็บเอาไว้ จะเกลี้ยกล่อมโน้มนาวหาวิธีการอย่างไรก็ได้
นอกจากเรื่องค่าเหนื่อยที่ต้องเกทับตามที่สิงห์น้ำเงินเสนอมา ยังต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับ ก็องเต้ ว่าจะสโมสรมีนโยบายเดินหน้าล่าความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ไม่ให้ทิ้งช่วงเด็ดขาด
ขณะเดียวกันเมื่อรั้งไม่อยู่จริงๆ ก็ควรโก่งราคาให้สุดแรงอย่างน้อย 50 ล้านปอนด์ ต้องเรียกยอมให้จ่ายมา อย่ามัวคิดว่าต้องตอบแทนนักเตะ
นอกจาก ก็องเต้ ที่รักษาไว้ไม่ได้แล้ว แมวมองตาเพชรอย่าง สตีฟ วอลช์ ก็ปล่อยออกไปเช่นเดียวกัน
นี่คือคนที่เห็นแววของ ก็องเต้ , เจมี่ วาร์ดี้ และ ริยาด มาห์เรซ ก่อนดึงมาปั้นจากแข้งโนเนมเป็นดาวดังระดับโลก
เสียสองคนนี้ไป อีกทั้งขาดแรงจูงใจหรือความกระหายที่จะต่อยอดไปเรื่อยๆ แทบทุกอย่างก็พังครืนลงมาทันที
นับตั้งแต่ปรากฏการณ์คราวนั้น เลสเตอร์ ก็ไม่ได้ย่างกรายเข้าใกล้ความสำเร็จอีกเลย
ฤดูกาล 2016/17 ที่เปิดทางให้ เคร็ก เช็คสเปียร์ ผู้ช่วยขึ้นมาสานงานต่อ พวกเขาจบด้วยอันดับ 12 ห่างจากโซนแดงหนีตกชั้น 10 แต้มเท่านั้นเอง ไม่เหลือลายแชมป์เก่าเลยสักนิด
พอซีซั่นรุ่งขึ้นยื้อไปถึงตุลาคม ประเมินถานการณ์แล้วไม่ดีขึ้นก็เปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ทาบทาม โคล้ด ปูแอล มานั่งกุนซือ หลังไม่อาจไปต่อกับ เซาธ์แฮมป์ตัน ได้ แม้ผลงานโดยรวมจะไม่เลวร้ายก็ตาม
คราวนี้กระเตื้องขึ้นจบอันดับ 9 แต่ก็ยังไม่ใกล้พื้นที่ยุโรปนัก เพราะตามหลังอันดับ 7 ถึง 7 คะแนนด้วยกัน
แล้วมาซีซั่นนี้ ปูแอล ก็โดนเชือดให้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ขึ้นมาเป็นนายใหญ่บ้าง
อย่างหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นคือบอร์ดบริหารของจิ้งจอกสยาม ดิ้นรนอย่างเต็มที่เพื่อจะหาบุคลากรที่มีคุณสมบัติมาทดแทน
นักเตะหลายคนถูกกวาดต้อนมามากมาย หวังจะยกระดับกลับมาเขย่าวงการอีกครั้งให้จงได้ แต่ก็ยังไม่เห็นทิศทางหรือสัญญาณเตือนที่ดี
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความเสียดายจะต้องก่อตัวขึ้น เพราะพวกเขาไม่อาจรั้ง ก็องเต้ กับ วอลช์ ซึ่งเปรียบเสมือนสมบัติล้ำค่าเอาไว้ได้
มันอาจไม่ได้หมายความว่า 2 คนนี้จะมีอิทธิพลชี้เป็นชี้ตายได้ ปัจจัยหรือตัวแปรอื่นน่าจะเกี่ยวข้องด้วย
แต่อย่างหนึ่งที่บอกได้ก็คือ ความผิดพลาดที่คุณอาจคิดว่าแค่นิดเดียวไม่น่าจะกระทบอะไร
บางทีมันอาจรุนแรงกว่าที่คิดไว้ก็ได้
#ของดีที่รักษาไม่ได้ 😔🦊
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา