10 ต.ค. 2019 เวลา 12:19
หน้าที่ของคนไม่มีบอล(ที่เท้า)
ขอบคุณภาพจาก https://pixabay.com
คุณรู้จัก Dr.Randy pausch
ดร.แรนดี้ เพาซ์ ไหมครับ?
เคยได้ยินหนังสือชื่อ The last lecture
(เดอะ ลาสท์ เลคเชอร์) ไหมครับ?
หนังสือเล่มนี้ดังมาก เป็นการเขียนบันทึกถึงการทำตามความฝันก่อนที่ตัวเองจะตาย ของ ดร.เพาซ์ โดยสรุปที่การบรรยายครั้งสุดท้ายของเขา
ตามหัวข้อที่ผมตั้งชื่อไว้ บางคนอาจจะคิดว่า ผมกำลังจะเขียนเรื่องกีฬาหรือเปล่า ....
เปล่าครับ...🙅♂️
ผมกำลังจะเขียนเรื่องชีวิตและหน้าที่
ผมได้อ่าน ข้อความสั้นๆที่คุณตุ้ม สรกล อดุลยานนท์ เขียนไว้ในเพจหนุ่มเมืองจันท์ ถึงดร.เพาซ์ว่า...
ดร.แรนดี้ เพาซ์ ได้เล่าถึงสมัยเขาเป็นเด็ก เขาชอบเล่นฟุตบอล เขามีโค้ชคนแรกชื่อว่า จิม แกรห์ม
ในวันแรกที่พวกเด็กๆลงฝึกซ้อมฟุตบอล พอลงมาในสนาม ปรากฏว่า ในสนามไม่มีลูกฟุตบอลเลย วันนั้น โค้ชจิม แกรห์ม สั่งให้เด็ก ๆ วิ่ง และออกกายบริหาร เสริมสร้างความแข็งแรง และให้ทำอะไรอีกหลายอย่าง
แต่พวกเด็กๆไม่ได้เตะลูกฟุตบอลเลย แม้แต่ครั้งเดียว จนซ้อมเกือบเสร็จ
มีเด็กคนหนึ่ง ทนไม่ได้ จึงเอ่ยปากถามโค้ช จิม แกรห์ม ว่า...
"โค้ชครับ ทำไมเราไม่มีลูกฟุตบอลสักลูก พวกเราจะได้เตะฟุตบอลกัน จริงๆ สักที"⚽
โค้ช จิม แกรห์ม ถามกลับมาว่า...
ในสนามฟุตบอล เวลาแข่งขัน มีกี่คน?
"มี 22 คนครับ"
แล้วมีคนมีลูกฟุตบอลอยู่ที่เท้า กี่คน?
เด็กนั่งนึก🤔"คนเดียวครับ"
"นั่นน่ะสิ ทั้งสนามมีคนมีลูกฟุตบอลอยู่แค่คนเดียว ส่วนทุกคนที่เหลือ ไม่มีลูกฟุตบอล แล้วไม่ต้องทำอะไรเลยหรือ"
โค้ชจึงสอนเด็กๆทุกคนรวมทั้งเด็กชายเพาซ์ ด้วยว่า " เราทุกคนมีหน้าที่ในสนามหมด แม้ว่าเราจะไม่มีลูกฟุตบอลอยู่ที่เท้าก็ตาม"
เราต้องรักษาตำแหน่งการยืน
เราต้องวิ่งหาช่องว่างให้เพื่อนส่งได้ง่ายขึ้น
เราต้องสั่ง ต้องช่วยเพื่อนตำแหน่งอื่น โดยดูว่าคู่แข่งมาจากทางไหน
เราต้องวิ่งหลอกล่อเพื่อดึงผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามให้ตามเรามา เพื่อนเราจะได้เลี้ยงบอลไปทำประตูง่ายขึ้น
"พวกเธอเห็นไหม ในตอนที่พวกเธอไม่มีลูกฟุตบอล พวกเธอก็ต้องมีหน้าที่อื่นๆที่จะช่วยทำให้ทีมเราชนะได้เหมือนกัน"
อ่านเรื่องนี้แล้ว รู้สึกอะไรไหมครับ
มันเหมือนกับเรายกเอาเหตุการณ์ในสนามบอลออกมาในสังคมจริง
ทุกวันนี้ เรามักจะยืนดูคนมีลูก
ฟุตบอลเล่น โดยไม่คิดจะช่วยอะไรบ้างเลย หรือเป็นภาระทีมด้วยซ้ำ
เราอยากให้บ้านเมืองสะอาด ปราศจากขยะ แต่เรายังขอถุงพลาสติกใส่ของ เรายังเดินผ่านหน้าตาเฉยเมื่อมองเห็นขยะตก
อยู่ตรงหน้าแท้ๆ
เราอยากให้ปัญหาการจราจรดีขึ้น แต่เรากลับขับรถผิดกฏจราจรเสียเอง
เราอยากให้เศรษฐกิจดีขึ้น แต่เรายังไม่หยุดฟุ่มเฟือย รูดบัตร ก่อหนี้สิน
เราอยากให้ธรรมชาติกลับมาสมบูรณ์แต่เรากลับชอบไปเที่ยวรีสอร์ทที่บุกรุกป่าเขา รุกล้ำทะเล น้ำตก
เราอยากให้ปัญหาคอรัปชั่น ปัญหา
ยาเสพติด ลดลง แต่เรายังยกมือไหว้คนใหญ่โตบางคน ที่เราก็รู้ว่าเขารวยมาเพราะอะไร
เรายังยืนกินลม ชมแดด โดยปล่อยให้คนมีบอล เลี้ยงบอลไปยิงประตูเอง แถมบางครั้ง คนมีบอลก็ดันไม่ทำหน้าที่ จับบอลไว้กับตัว ไม่ยอมเลี้ยงไปยิงประตูอีกเพราะกลัวโดนคู่แข่งเข้าสกัดจนขาหักได้
เมื่อไหร่ ทีมเรามันถึงจะชนะล่ะครับแบบนี้
วิ่งครับ วิ่งหาที่ว่าง ช่วยกันตะโกน บอกเพื่อน บอกคนอื่นๆ เราไม่มีบอลเราก็ช่วยเหลือทีมได้..
#ขอบคุณข้อมูลดีๆจาดคุณตุ้ม สรกล อดุลยานนท์ (เพจหนุ่มเมืองจันท์)
และแรงบันดาลใจจากดร.แรนดี้ เพาซ์
จากหนังสือ The last lecture
#ขอบคุณนักอ่านที่รักทุกท่าน
ติดตามบทความได้ที่
โฆษณา