21 ต.ค. 2019 เวลา 02:40 • ธุรกิจ
เราเปลี่ยนใจใครไม่ได้หรอก ที่เปลี่ยนได้คือใจตัวเอง
.
เวลาที่คุณได้ยินเรื่องเล่าผ่านเรื่องราวของคนหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็นของเพื่อน คนที่ทำงาน หรือคนรู้จัก แล้วเราเคยเผลอคิดเหมือนกันไหมว่าทำไมเขาถึงเป็นคนแบบนั้น ทำไมเขาทำไม่ทำแบบนั้นแบบนี้ พอให้เวลากับตัวเองในการทบทวน ครุ่นคิด ก็ทำให้นึกได้ว่า แท้จริงแล้วเราไม่สามารถเปลี่ยนใจใครได้ แต่สิ่งที่เปลี่ยนง่ายที่สุดคือ เปลี่ยนใจตัวเอง วันนี้จึงขอหยิบเรื่องนี้มาเขียนเพราะตั้งใจจะเตือนสติตัวเอง และพยายามไม่ปล่อยให้ตัวเองไปตามหาคำตอบของคำถามที่ไร้คำตอบนั้น
cr. pinterest
ยกตัวอย่างเช่น คุณได้ฟังเรื่องเล่าจากเพื่อนพูดถึงแฟนของเขา เป็นต้นว่าแฟนของเขาไม่ใส่ใจเท่าที่ควร ไม่มาดูแลเทคแคร์เหมือนแฟนทั่วๆไป หรือแอบคุยกับคนอื่น เวลาเรารับรู้เรื่องราวของเพื่อนที่เราสนิท เราเองมักจะเข้าข้างเพื่อนของเราอยู่แล้ว บางครั้งก็อดสงสัยไม่ได้ว่า แล้วเหตุใดเพื่อนถึงยังคบกันแฟนเขาอยู่ต่อได้ ทั้งๆ ที่ตัวเองรู้ว่าเขาจะทำให้เสียใจ การแนะนำให้เพื่อนไปจบความสัมพันธ์กับแฟนของเขา มันพูดง่าย แต่เชื่อไหมถ้าเป็นเรา เราก็ทำมันยาก
.
อีกตัวอย่างหนึ่ง เป็นเรื่องของความสัมพันธ์แบบครอบครัว สมมติว่าอาแท้ๆ ของเรามีภรรยา(อาสะใภ้) เป็นคนมีทัศนคติต่างๆ ในแง่ลบ ไม่ช่วยเหลือเวลาครอบครัวมีปัญหา ไม่สนับสนุนการงานของสามี หรือไม่คิดพยายามจะหาเงินเพื่อช่วยจุนเจือครอบครัวในภาวะที่ครอบครัวเริ่มขัดสน ในมุมมองของคนภายนอก แน่นอนว่าเราก็จะรักและปกป้องคนในครอบครัวของเรา จนเราก็อดไม่พอใจในการกระทำของอาสะใภ้ไม่ได้ว่าทำไมเขาถึงเป็นคนแบบนั้น
.
หรืออีกสถานการณ์หนึ่ง เป็นการทำธุรกิจครอบครัว เมื่อทายาทรุ่นลูกต้องมาสานต่อกิจการที่บ้าน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ปัญหายอดฮิตของธุรกิจในครอบครัวคือ ความคิดไม่ตรงกันระหว่างรุ่นพ่อกับรุ่นลูก เช่น รุ่นพ่อเขาทำธุรกิจอย่างผู้มีประสบการณ์ จนธุรกิจที่ท่านสร้างมาประสบความสำเร็จ เมื่อครั้นจะต้องส่งต่อให้กับลูก อาจจะไม่ได้ให้อำนาจลูกตัดสินใจ เพราะมองว่าลูกยังเด็ก อ่อนประสบการณ์ ซึ่งอาจจะทำให้ลูกของคุณไม่กล้าตัดสินใจอะไรไปเลย หรือไม่ก็เลือกที่จะตัดสินใจในสิ่งที่ขัดกับความรู้สึก หรือวิธีปฏิบัติของพ่อจนทะเลาะกันในที่สุด มุมมองต่อเหตุการณ์นี้ ฝ่ายพ่อแม่ก็คิดว่า ทำไมลูกคิดจะทำอะไรก็ปุปปัป นึกอยากทำ ก็ทำเลย ไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดี รุ่นลูกก็รู้สึกเหมือนกับว่าคุยกับพ่อแม่ไม่เข้าใจ อธิบายอะไรไปก็ไม่ฟัง ยิ่งคุยด้วยยิ่งเหมือนจะทะเลาะกันตลอดเวลา
.
ทั้งๆ ที่รุ่นพ่อและรุ่นลูก ต่างก็อยากให้มีผลลัพธ์ออกมาเหมือนกัน เพียงแต่ต่างวิธีการกันเท่านั้นเองเพราะฉะนั้น การปะทะ เถียงกันตรงๆ หรือบอกทุกสิ่งที่เราคิด ถึงแม้ว่ามันจะเป็นความปรารถนาดีของเรา มันไม่ได้ส่งผลดีเสมอไป แถมมันอาจจะยังทำให้ความสัมพันธ์ทุกอย่างมันพันลงได้ เช่น เหตุการณ์ที่ยกตัวอย่างให้เพื่อนไปจบความสัมพันธ์กับคนที่คบหา อาจจะแก้ได้โดยคุณแค่เป็นเพื่อนที่เข้าใจเขา และเป็นผู้ฟังที่ดีเวลาเขามีเรื่องไม่สบายใจ เหตุการณ์ที่อยากให้อาสะใภ้ที่ไม่ช่วยเหลือไปจากครอบครัว คุณอาจจะแก้ได้โดยการเลือกที่จะไปช่วยเหลืออาของคุณเอง อาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยที่คุณพอช่วยเขาได้ ซึ่งมันก็ยังดีกว่า การที่คุณพยายามคิดว่าทำไมคนนั้นคนนี้เขาไม่ทำ หรือเหตุการณ์ที่อยากจะให้พ่อรับฟังลูกบ้าง เราอาจจะแก้ได้โดย สมมติว่าตัวเราว่าถ้าเป็นลูก เราก็ควรจะฟังเขา เพื่อช่วยเสริมมุมมองที่เขามองข้ามไป ในมุมของพ่อแม่ เราอาจจะต้องเชื่อใจในตัวลูก ปล่อยให้เขากล้าคิดกล้าตัดสินใจ เพราะอย่างน้อยที่สุดสิ่งที่ลูกของคุณจะได้รับแน่ๆ ก็คือประสบการณ์ หากคุณไม่สร้างประสบการณ์ให้เขาได้ลองผิดลองถูก เขาก็จะไม่ได้เรียนรู้ และถ้าวันหนึ่งพ่อแม่ไม่อยู่ทอาจจะเป็นการทำร้ายลูกตัวเองทางอ้อมก็ได้
.
มาถึงตรงนี้ อยากให้ลองมาทบทวนดูให้ดี จงอย่าลืมว่าเวลาที่ใครก็ตามเล่าเรื่องอะไรให้คุณฟัง เขาไม่ได้เล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมด เขาเพียงแค่เล่าจากมุม มุมหนึ่งที่เขาไม่สบายใจเท่านั้น อย่าด่วนที่จะตัดสินใครว่าเขาเป็นคนดีไม่ดี เพราะในอีกมุมหนึ่ง ก็อาจจะมีเหตุการณ์ด้านดีที่เราไม่รู้ก็ได้ ทุกคนล้วนมีเหตุผลในการเลือกและตัดสินใจในการกระทำของเขา เราไม่ได้เป็นเขา เราไม่มีทางรู้หรอก อย่าพยายามตั้งคำถามว่าทำไมเขาเป็นแบบนั้น เพราะถึงคุณจะตั้งคำถามไปสักกี่ครั้ง คุณก็ไม่มีทางได้คำตอบ แต่สิ่งที่คุณจะทำได้คือ ความพยายามเข้าใจ คุณต้องคิดว่า ทุกคนมีเหตุผลอะไรบางอย่างที่ต้องเลือกสิ่งนั้น และเหตุผลนั้นมันอาจจะเป็นเรื่องส่วนตัวมากๆ ที่เราอาจจะไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้
.
สุดท้ายนี้ ไม่ว่าคุณจะพบเจอเหตุการณ์ใดที่ทำให้เราโมโห อารมณ์เสีย หรือเหตุการณ์ที่เรารู้สึกว่า ถ้าเป็นฉัน ฉันจะ…. เมื่อเราเลิกเอาความรู้สึกของตัวเองไปผูกกับใคร เมื่อนั้นเราก็จะมีความสุขมากขึ้น เพราะว่าคนแต่ละคนเขามีเหตุผลของเขา เหมือนกับที่เรายังมีเหตุผลของเราเลย พอมองเรื่องเดิมจากจุดใหม่ จะทำให้เรารู้ว่า ความจริงแล้วเราไม่สามารถเปลี่ยนใจใครได้หรอก แต่สิ่งที่จะเปลี่ยนได้ก็คือใจตัวเอง
โฆษณา