25 พ.ย. 2019 เวลา 04:41 • ปรัชญา
อิสรภาพทางการเงิน กับ อิสรภาพทางใจ
ตอนที่ผมเริ่มต้นลงทุนช่วงแรกๆ ผมตามหาแนวทางการลงทุนที่ใช่ ที่เหมาะกับเป้าหมายทางการลงทุนส่วนตัว
แนวทางการลงทุนสายหลักที่ที่ผมเจอก็มีอยู่ 2 สาย คือ แนวเทคนิค และแนวพื้นฐาน
ผมมองหาคนที่ประสบความสำเร็จของแต่ละแนวทางก็พบว่า ผมเจอคนที่ประสบความสำเร็จในแนวพื้นฐานได้ง่ายกว่ามาก ไม่ว่าจะเป็น Warren Buffett, Ben Graham, Joel GreenBlatt ในไทยก็มี ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร, ประชาดำรงสุทธิพงศ์ รวมทั้งเจอนักลงทุนทั่วไปหลายคนที่มีอิสระทางการเงินกันได้ แต่ละท่านดูมีแบบอย่างการดำเนินชีวิตในแบบที่ผมชอบ
ส่วนนักลงทุนแนวเทคนิคที่ประสบความสำเร็จมากๆ นั้นผมหาไม่ค่อยเจอเท่าไหร่นัก ส่วนคนที่เจอ ผมก็ศึกษาชีวิตการลงทุนของเค้าและพบว่า ผมไม่อยากมีชีวิตแบบนั้น
ผมจึงเลือกเป็นนักลงทุนแนวพื้นฐานมาตั้งแต่ช่วงแรกๆ
มีเรื่องน่าสังเกตุอย่างหนึ่งที่ผมค้นพบก็คือว่า ผมไม่เคยเจอ หรืออ่านเจอ คนรวยที่บอกว่า มารวยกันเถอะ เพราะรวยแล้วคุณจะมีความสุขนะ
แต่กลับเจอที่คนรวยบอกคล้ายๆ กันหลายคนว่า ความสุขมันไม่ได้แปลผันตามความรวย ถ้าคุณจนคุณอาจจะทุกข์มากหน่อย แต่พอคุณมีเงินมากถึงระดับหนึ่งแล้ว เงินที่มากไปกว่านั้น มันไม่ได้เพิ่มความสุขของคุณหรอก
ผมสังเกตุคนที่ปฏิบัติธรรมหลายคน รวมถึงนักลงทุนที่ปฏิบัติธรรม พูดเหมือนๆกันว่า มาปฏิบัติธรรมกันเถอะ มันทำให้เรามีความสุข มันทำให้เราดับทุกข์ได้ หรืออย่างน้อยทำให้มันทุกข์น้อยลง หรือทุกข์สั้นลงได้นะ
ในอดีต ผมเลือกที่จะเชื่อนักลงทุนชื่อดัง เพื่อพาผมไปสู่อิสรภาพทางการเงิน
วันนี้ผมเลือกที่จะเชื่อคนที่ปฏิบัติธรรม เพื่อที่จะพาผมไปสู่อิสรภาพทางใจ
ฝากคลิปที่พี่ชาย มโนภาส นักลงทุนที่ผมเคารพท่านหนึ่ง เคยพูดไว้เรื่องธรรมะกับการลงทุน มันไปด้วยกันได้ครับ
ในคลิปพี่ชายยกตัวอย่าง Ray Dalio นักลงทุนตัว top คนนึงของโลก เค้าบอกว่าเค้าทำสมาธิมานานแล้ว และการทำสมาธิ ทำให้เค้าเป็นนักลงทุนที่ดีได้
โฆษณา