แต่นั่นยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดของเรื่องราวของเราครับ เพราะเมื่อย้อนกลับไปที่โลกในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 แม้เราจะใช้บริการของแรงงานต่างด้าวสำหรับแรงงานไร้ฝีมือและแรงงานกึ่งฝีมือ แต่สำหรับแรงงานฝีมือ หุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์กำลังจะเข้ามาแทนที่พวกเขา
การลดคนงานเท่ากับการลดต้นทุนค่าจ้าง ต้นทุนที่มาจากการจัดระบบสวัสดิการต่างๆ และยังลดเรื่องปวดหัวอีกมากมายของผู้ประกอบการ เช่น เรื่องชู้สาว เรื่องชกต่อย เรื่องขโมยของ ประกอบการให้ความช่วยเหลือทั้งแหล่งเงินทุนและเครดิตภาษีจากการลงทุน หากมีการปรับโครงสร้างการผลิตให้เป็นระบบอัตโนมัติมากยิ่งขึ้น หอการค้าฯ และสภาอุตสาหกรรมฯ ก็พร้อมที่จะสนับสนุนทางด้านเทคนิค ทั้งหมดเอื้อให้การจ้างงานลดลง รากหญ้าได้รับผลกระทบอีกแล้ว
ลองนึกภาพถึงนิคมอุตสาหกรรมที่เมื่อก่อนทุกๆ วันในช่วงเย็น เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนกะ คนงานจำนวนมากจะเดินออกจากโรงงานและแวะตลาดนัดเพื่อซื้อกับข้าว ซื้อของใช้ส่วนตัว ซื้อเสื้อผ้า ซื้อของเล่นให้ลูก หรืออย่างน้อยก็เติมเงินค่าโทรศัพท์มือถือ แต่จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อโรงงานจ้างคนลดลงและใช้หุ่นยนต์มากยิ่งขึ้น อย่าลืมนะครับว่าหุ่นยนต์ไม่เคยพักและไม่เคยเดินออกมาซื้อของที่ตลาดนัด ที่หลายๆ คนบ่นว่าตลาดนัดมีแต่คนขาย ไม่มีคนซื้อ แม่ค้าพ่อค้านั่งตบยุง แมลงวันตอมขา มันคือความจริงครับ
มาดูตลาดกลางค่อนไปทางบนบ้าง แน่นอนว่าเศรษฐกิจที่ชะลอตัวล้วนทำให้เขารายได้ลดลงไม่มากก็น้อย แต่ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปทำให้เขามีทางเลือกใหม่ ทุกวันนี้ใครๆ ก็ซื้อของออนไลน์ เพราะได้ส่วนลดพิเศษ สินค้าส่งถึงบ้านภายในไม่กี่ชั่วโมง อย่างมากที่สุดก็ไม่เกิน 3 วัน จำได้ไหมครับว่าเมื่อวันคนโสด 11.11 และวันที่ 12.12 เราซื้อของออนไลน์กันไปเท่าไร แต่อย่าลืมนะครับ Lazada, Shopee, AliExpress, Amazon, Ebay ทั้งหมดชำระเงินแล้วเงินไหลออกนอกประเทศทันทีนะครับ และหลายๆ ครั้งเขาได้รายได้จากคนไทย และเขาก็ไม่ได้เสียภาษีให้รัฐบาลไทยด้วย เงินไหลออกจากระบบเศรษฐกิจไทยเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งช่องทางแล้วครับ