23 ธ.ค. 2019 เวลา 08:35 • ไลฟ์สไตล์
📚 สมุดเล่าเรื่องที่ 20
📍” คุณกำลัง “หมดไฟ หรือ ขี้เกียจ “
🔅 อยากอยู่นิ่ง ๆ ไม่อยากทำอะไร หมดเรี่ยวแรง กับงานที่อยู่ตรงหน้า อาการแบบนี้ หรือเปล่าที่เขาเรียกกันว่า หมดไฟ ( Burnout )
อาจจะไม่ใช่เสมอไป เพราะอันที่จริงแล้วมันมีเส้นบาง ๆ ระหว่าง “ขี้เกียจ” (Lazy) กับ “หมดไฟ” (Burnout)
^^ อาการหมดไฟ หมายถึงการทำงานที่ครั้งหนึ่งคุณเคยรัก กลายเป็นความรู้สึกทรมาน ทรกรรม และหมดอารมณ์ หมดแรงที่จะทำมันต่อไปแล้ว ...
Credit photo line today
>> พูดง่าย ๆ อาการหมดไฟ หมายถึงการทำงานบางอย่างมากเกินไป ในเวลาต่อเนื่องกันนานเกินไป ไม่อยากทำต่อไปอีกแล้ว ...
^^ ส่วนความขี้เกียจ มันมาจากความว่างเปล่า หมายความว่าคุณไม่เคยทำอะไรเลย และยังอยากอยู่ในภาวะไม่ทำอะไรอีกต่อไปเรื่อย ๆ
📌 มาลองเช็คสัญญาณอาการหมดไฟจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านร่างกาย , อารมณ์ จิตใจ ไปจนถึงพฤติกรรม ทั่วไปจะมีอาการ ดังนี้ ...
📌1.อาการทางด้านร่างกาย
🔺รู้สึกเหนื่อย และหมดแรงตลอดเวลา
เจ็บป่วยบ่อย
🔺มีอาการปวดหัว และปวดเมื่อยตามร่างกาย พฤติกรรมการกินและการนอนเปลี่ยนไป
📌2.อาการทางด้านอารมณ์ และจิตใจ
🔺รู้สึกล้มเหลว และไม่เชื่อมั่นในตัวเอง
🔺รู้สึกติดกับ พ่ายแพ้ และไม่สามารถกอบกู้ตัวเองขึ้นมาได้
🔺รู้สึกโดดเดี่ยวในโลกกว้าง ขาดแรงบันดาลใจ มีมุมมองต่อสิ่งต่าง ๆ ในแง่ลบ ไม่พึงพอใจ และรู้สึกล้มเหลวกลางทางอยู่เสมอ
📌3. อาการทางด้านพฤติกรรม
🔺ถอนตัวออกจากความรับผิดชอบ
🔺แยกตัวเองออกจากคนอื่น ๆ
🔺ผัดวันประกันพรุ่ง หรือใช้เวลานานกว่าปกติกว่าจะทำงานให้เสร็จ
🔺ใช้อาหาร ยา หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อรับมือกับความรู้สึกที่เกิดขึ้น
🔺เอาความรู้สึกแย่ ๆ ของตัวเองไปลงที่บุคคลอื่น
🔺เบื่อการทำงาน มาสาย และออกจากออฟฟิศเร็วกว่าปกติ (สำหรับคนที่ไม่ได้มีพฤติกรรมแบบนี้เป็นประจำ)
🎏 ดูเหมือนว่าอาการหมดไฟแบบนี้จะคล้าย ๆ กับความเครียดอยู่เหมือนกัน แต่บทความชิ้นเดียวกันนี้ก็บอกว่า สองอาการนี้มันมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดนะ ซึ่งถ้าจะให้พูดแบบกว้าง ๆ ก็คือ ถ้าคุณเครียด คุณจะเข้าไปยุ่งกับสิ่งนั้นมาก ในระดับที่มากเกินไป (Overactive) และรู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันเร่งเร้าไปหมด ในทางตรงกันข้าม ถ้าคุณรู้สึกหมดไฟ คุณจะเอาตัวเองออกมาจากสิ่งนั้นทันทีราวกับปิดสวิตช์ชัตดาวน์ ไม่อยากรับรู้อะไรอีกต่อไป
📌ทีนี้เราก็รู้กันแล้วว่าอาการ Burnout หรืออาการหมดไฟมันมีหน้าตาอย่างไร และถ้าหากว่าคุณมีอาการแบบนี้ จะแก้ไขอย่างไร เราก็ไปหาคำตอบมาให้แล้วเช่นกัน
🔅โดยทั่วไปแล้วมนุษย์แต่ละคนจะมีวิธีการพาตัวเองกลับมาไม่เหมือนกัน แต่จะมีบางอย่างที่ทุกคนทำได้เหมือน ๆ กัน ได้แก่ ความเงียบ อาจจะเป็นการหาที่เงียบสงบแล้วนั่งพักโดยไม่ต้องมี ....
ปฏิสัมพันธ์กับสิ่งเร้าใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ต้องทำอะไรเลย ...
🔅ถ้าเป็นภาษาคนกันเอง เราอาจจะเรียกว่าการนั่งโง่ ๆ นั่งดูก้อนเมฆลอยผ่านไปมา ไม่ต้องเล่นมือถือรับรู้เรื่องราวของคนอื่นสักพัก
🔅สำหรับบางคน การจดบันทึกจะช่วยได้มากในกรณีนี้ ออกไปพบเจอผู้คนแน่นอนว่าการไปคุยกับเพื่อนจะช่วยได้มาก เพราะมันทำให้คุณได้หัวเราะ เบี่ยงเบนความสนใจไปจากสิ่งที่ชวนให้หมดไฟ ทำกิจกรรมเพื่อเติมเต็มความหมายของชีวิต เช่น การออกไปเป็นอาสาสมัคร ทำอะไรเพื่อคนอื่นบ้างต้องดีแน่ ๆ ...
🙏 หากบทความนี้มีประโยชน์ ขอให้ส่งไปถึงใครสักคน...ที่กำลังมีอาการแบบนี้ มาช่วยกันแชร์ไปให้ถึงพวกเขาเลยดีกว่า
# คุณกำลัง “ หมดไฟ “ ใช่ไหม ?
By : PRAIMPAT TRAKULCHOKESATIEAN
ชอบโพสต์ : ช่วย กดถูกใจ ♥️
ชอบใจ : ข่วยกดติดตามครับ
โปรดติดตาม 📚 สมุดเล่าเรื่องที่ 21

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา