29 ม.ค. 2020 เวลา 09:58 • ข่าว
#เจาะประเด็นร้อนแผนสันติภาพของเสี่ยอ่าง
#100ปีโครงการรัฐยิวของZionist
Cr. Twitter @realdonaldtrump
ประเด็นร้อนแรงจนน่าขนลุก ที่จะขอแชร์ในวันนี้ เชื่อว่าคนที่คลั่งไคล้ทฤษฎีสมคบคิดต้องชอบแน่ๆ คือข่าวการประกาศแผนการสันติภาพตะวันออกกลาง หรือ Middle East Plan ของเสี่ยอ่าง โดนัลด์ ทรัมพ์ กลางทำเนียบขาวเมื่อวันอังคารที่ 28 มกราคม ที่ผ่านมา
1
โดยเสี่ยอ่าง จับมือกระหนุง กระหนิงมากับ บีบี้ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมตรีครึ่งเก้าอี้ของอิสราเอล ออกมาประกาศแผนการณ์ขั้นต่อไปของรัฐอิสราเอล ที่เสี่ยแกเคลมแรงว่ามันคือ "Deal of Century" หรือ อภิมหาข้อตกลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในรอบ 100 ปี!!!!
ตามสไตล์เจ้าพ่อนัก PR เสี่ยอ่างจะพูดอะไร ต้องระดับรัชดาลัยเธียร์เตอร์เสมอ แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็ต้องมาดูกันอีกที
แต่คราวนี้ขอบอกไว้เลยว่า คำเคลมของเสี่ยอ่างนั้น ไม่ได้ไกลเกินจริงแต่อย่างใดเลย แล้วจะอธิบายว่าทำไม
แผนข้อตกลงสันติภาพตะวันออกกลางของเสี่ยอ่างนี้คืออะไร?
Middle East Plan นี้ เป็นแผนการที่เสี่ยอ่างแกว่าจะมาคลี่คลายประเด็นขัดแย้งอันนองเลือด และยาวนานระหว่างอิสราเอล และปาเลสไตน์ โดยเฉพาะ เมืองมรดกโลกอย่างเยรูซาเล็ม
ข้อตกลงนี้ ช่วยกันร่างมาเกือบ 3 ปี โดย
- Jared Kushner (ลูกเขยยิวหัวแหวน)
- David Friedman (อดีตที่ปรึกษากฏหมายของทรัมพ์ ปัจจุบันคือฑูตสหรัฐประจำอิสราเอล-ยิว)
- Jason Greenblatt (หัวหน้าทีมกฏหมายของทรัมพ์ - ยิว)
ร่วมกับรัฐบาลอิสราเอล นำโดย บีบี้ เนทันยาฮู (ยิว 1000%)
โดยไม่มีตัวแทนจากฝ่ายปาเลสไตน์เลยแม้แต่คนเดียว
แผนการนี้ จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ แผนพัฒนาเศรษฐกิจ กับ แผนการปกครอง
ภาคเศรษฐกิจ เสี่ยอ่างแถลงว่า สหรัฐจะเข้าไปลงทุนในพื้นที่เขตปกครองปาเลสไตน์กว่าหมื่นล้าน ทั้งในเขต West Bank และ ฉนวนกาซ่า รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านที่มีชาวปาเลสไตน์อพยพอาศัยอยู่ เช่นอียิปต์ และจอร์แดน ซึ่งเสี่ยอ่างขายฝันว่าจะทำให้ชาวอาหรับกินดีอยู่ดี มีงานทำ ลืมตาอ้าปากได้
ส่วนภาคการปกครองนี่สิ ที่เป็นปัญหา
สหรัฐยังรับรองเขตปกครองปาเลสไตน์ แต่อนุญาตให้ตั้งเมืองหลวงได้ที่เขตรอบนอกของฝั่งเยรูซาเล็มตะวันออก
ฟังให้ดีๆ เมืองหลวงของปาเลสไตน์อยู่ได้แค่รอบนอกเยรูซาเล็มตะวันออกเท่านั้นนะ เพราะกรุงเยรูซาเล็ม ไม่อาจแบ่งแยกได้ และจะเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลอย่างเป็นทางการ ตามรัฐธรรมนูญอิสราเอล
พื้นที่ในส่วน West Bank จะเป็นเขตปกครองของปาเลสไตน์ 70% อีก 30% จะกลายเป็นเขตปกครองของอิสราเอล ที่จะรวมถึงดินแดนริมฝั่งแม่น้ำจอร์แดน ที่ราบสูงโกลานด้วย เพราะอิสราเอลชนะสงคราม 6 วันในปี 1967
เคลมทุกเม็ด ดอกเบี้ยทบต้น ทบดอก สมเป็นพ่อค้ายิวจริงๆน้า 😅
ส่วนพื้นที่ในฉนวนกาซ่า จะเป็นเขตของรัฐปาเลสไตน์ได้ต่อเมื่อฝ่ายปาเลสไตน์ยอมตามข้อตกลงนี้เท่านั้น😨
งานพีคยังไม่จบ!
สำหรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ ที่หนีภัยสงครามไปอยู่นอกประเทศนับล้าน จะไม่มีสิทธิ์กลับคืนถิ่นฐานเก่าตามเงื่อนไขข้อตกลงนี้😢
การกลับเข้ามาอยู่ในถิ่นฐานเดิมของชาวปาเลสไตน์ผู้ลี้ภัยทำได้ต่อเมื่อ ต้องเข้ามาอยู่ในเขตปกครองของปาเลสไตน์เท่านั้น ซึ่งจำกัดจำนวนมากๆ แค่ปีละ 5000 คน ถามว่าใครจะเป็นคนออกเอกสารสิทธิ์ให้ชาวปาเลสไตน์พลัดถิ่นกลับเข้ามาในปาเลสไตน์ได้ - ก็ต้องเป็นอิสราเอลอยู่แล้ว 😑
ไม่อย่างนั้น ก็ต้องไปอยู่ในประเทศที่ 3 ที่เขายอมให้ชาวปาเลสไตน์ลี้ภัยอยู่ได้ ที่ตอนนี้มีคร่าวๆ นับ 4 ล้านคน
เหตุผลที่อิสราเอลกีดกันไม่ยอมให้ชาวปาเลสไตน์พลัดถิ่นกลับเข้ามา เพราะตอนนี้ในเขตปาเลสไตน์ มีชาวอาหรับอยู่ราวๆ 4 ล้าน ถ้ารับชาวปาเลสไตน์พลัดถิ่นกลับเข้ามาเพิ่ม จะทำให้ชาวปาเลสไตน์กลายเป็น 8 ล้าน ที่พอๆกัน หรือเผลอๆมากกว่าชาวยิวในอิสราเอล ซึ่งอิสราเอลยอมไม่ได้ ชาวปาเลสไตน์จะได้สิทธิ์อยู่ในพื้นที่ในฐานะชนกลุ่มน้อยเท่านั้น
และที่สำคัญ เขตปกครองปาเลสไตน์จะมีกองทหารป้องกันประเทศไม่ได้ อิสราเอลมีได้ฝ่ายเดียว
พอประกาศจบ เสี่ยอ่าง กับ บีบี้ก็จับมือกัน ทีนี้ก็ยุติข้อพิพาทดินแดนอิสราเอล-ปาเลสไตน์ได้แล้ว
ตรงไหนฟร่ะ 😡😡😡
ข้อตกลงที่ฝ่ายอิสราเอลได้ ไม่มีตรงไหนที่ win-win สำหรับปาเลสไตน์เลยแม้แต่น้อย
และแน่นอนว่า ฝ่ายปาเลสไตน์ไม่ยอมรับ แล้วดินแดนปาเลสไตน์หรือแม้แต่กรุงเยรูซาเร็ม มันเป็นของสหรัฐตั้งแต่เมื่อไหร่ อยู่ดีๆอ้างสิทธิ์ไปยกให้ใครต่อใครเฉยๆ ไม่เคยถามเจ้าของดินแดนเลยน้า
1
ชาติอาหรับเพื่อนบ้านก็เครียด ต้องมารับภาระชาวปาเลสไตน์พลัดถิ่น ถ้านับจำนวนแล้ว นี่มันมากกว่าชาวโรฮิงญาถึง 4 เท่า แถมไล่กันง่ายๆ มีประเทศระดับสหรัฐออกมารับรองเสร็จสรรพ์ มันใช่หรือ??
นี่คือของตกลงระดับศตวรรษ Deal of Century ของเสี่ยอ่างหรือ?
ใช่! มันเป็นเช่นนั้น เพราะนี้คือการให้รับรองการตั้งรัฐยิวอย่างเป็นทางการที่สุด นับจากเอกสารประกาศแผนก่อตั้งรัฐยิวฉบับแรก ที่เรียกว่า Balfour Declaration ในปี 1917!!!
Balfour Declaration คือประกาศที่ออกจากรัฐบาลอังกฤษ โดยรัฐมนตรีต่างประเทศ Arthur Balfour เขียนถึง Lionel Rothschild ตระกูลยิวนายแบงค์ผู้มั่งคั่ง ที่เป็นผู้นำองค์กร Zionist เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 1917 ที่จะสนับสนุนการต่อตั้งรัฐยิว ที่สมัยนั้นเขาเรียกว่า Palestine of a national home เป็นการตอบแทนที่กลุ่มนายทุนชาวยิวที่ร่วมลงขันให้อังกฤษสู้รบกับจักรวรรดิออตโตมาน จนชนะในสงครามโลกครั้งที่ 1
1
Balfour Declaration 1917 Cr.Wikipedia
และนั่นอาจเรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นพิมพ์เขียวในการสร้างรัฐยิว และดำเนินต่อเนื่องตามแผนมาตลอดรุ่น ต่อรุ่น กว่า 100 ปี จนมาถึงการประกาศแผน Middle East Plan ของเสี่ยอ่างในครั้งนี้ ที่เห็นภาพกระจ่างชัดเจน
ปาเลสไตน์ เป็นดินแดนที่แปลกมาก ที่ผู้ได้สิทธิ์ในการจัดสรรปันส่วนดินแดน ไม่ได้เป็นสิทธิ์ของผู้อยู่อาศัยในท้องที่ อยู่ประเทศนี้มาตั้งแต่เกิด อยู่ดีๆก็กลายเป็นคนไร้สัญชาติซะงั้น😑
ถ้าประธานาธิบดีสหรัฐจะถือสิทธิ์ประกาศ รับรองเมืองหลวงให้ประเทศไหนก็ได้ แบ่งดินแดนให้ฝ่ายไหนก็ได้ รับรองผู้นำบ่าวตั้งให้ประเทศไหนก็ได้โดยไม่ต้องผ่านการเลือกตั้ง ก็ไม่รู้จะมี UN ไว้ทำไมนะคะ 😑
Cr. Aljazeera
โฆษณา