4 ก.พ. 2020 เวลา 02:27 • ความคิดเห็น
เราๆท่านๆ ผมเชื่อว่าต้องเคยรับประทานอาหารกระป๋อง ไม่มาก ก็น้อย และ น้อยคนนักที่จะรู้ว่า มันผลิตยังไง? จะปลอดภัยได้ระดับไหน?
เห็นข่าวพยาธิโผล่ในอาหารกระป๋องยี่ห้อหนึ่งที่ลูกค้าเปิดมาเจอ ทำให้หลายคนแคลงใจในอการกระป๋อง ไม่กล้ากิน ผมเคยได้ยินมาว่าผลิตภัณฑ์อาหารทุกประเภท มีสิ่งที่ทำให้มันปลอดภัยคือ"กฏการผลิตอาหารที่ปลอดภัย"
เดิมที มนุษย์รู้จักหาอาหารเพื่อยังชีพในยุคหินที่มนุษย์ยังไม่มีความรู้และความเป็นอารยะเท่าปัจจุบันการประกอบอาหารเป็นแบบหยาบๆ กินดิบไม่ปราณีตเท่าที่ควร
ต่อมาเมื่อรู้จักการเพาะปลูกจึงได้เริ่มสร้างที่อยู่อาศัยและการหาอาหารบางครั้งก็มากเกินความจำเป็น ทำให้ต้องถนอมอาหารเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นเผาไฟจนเกรียมและห่อไว้ รมควันรักษากลิ่น เป็นต้น
ในยุคนโปเลียน การสงครามทำให้จักรพรรดิต้องทรงระดมสรรพกำลังและให้หมดห่วงทางเสบียงจึงได้ประกาศให้คิดค้นวิธีถนอมอาหารที่เก็บได้ยาวนาน จนกระทั่ง นิโคลัส แอปเปิร์ต ได้นำอาหารบรรจุขวดจุกก๊อกซึ่งสามารถเก็บอาหารได้ระยะหนึ่ง
ต่อมาอีก 1 ศตวรรษ ปีเตอร์ ดูรัลได้นำภาชนะบรรจุที่ตกพื้นไม่แตกคือกระป๋องโลหะมาใช้ครั้งแรก และแพร่หลายในสหรัฐอเมริกา ต่อมา หลุย ปาสเตอร์ ได้ค้นพบเชื้อจุลินทรีย์ที่เติบโตภายในกระป๋อง และระบุว่าอาหารกระป๋องไม่ปลอดภัย ทำให้เสื่อมความนิยมลงทันที
จนเกือบอีกหลายสิบปีต่อมา ได้มีการพัฒนาระบบอบฆ่าเชื้อ(รีทอร์ท)ขึ้นมาแต่ยังไม่มีการพัฒนาความรู้ด้านจุลินทรีย์เท่าที่ควรทำให้เกิดเชื้อโรค คลอสติเดียม บอทูลินัม ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากการบริโภคหน่อไม้ปี๊บ ทำให้เกิดการตื่นตัวในวงการอาหารบรรจุภาชนะปิดสนิทขึ้น
โรงงานผลิตหอยกระป๋องได้ออกผลิตภัณฑ์หนึ่ง และนำไปให้อาจารย์มหาวิทยาลัยหนึ่งได้ชิมรสชาติ ปรากฏว่ารสชาติมีความเกรียม แบะไม่เกลือรสหอยเลย เพราะการใช้ระบบฆ่าเขื้ออย่างไม่ถูกวิธี ทำให้โรงงานดังกล่าวตั้งแผนก Research and Development (RD)เพื่อค้นคว้าหาการทำอาหารที่ปลอดภัย
ปัจจุบัน บริษัทอุตสาหกรรมอาหารในประเทศไทยได้รับเอามาตรฐาน CODEX มาใช้ ทำให้การผลิตเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ และอาหารที่ผลิตมีคุณภาพ
ระบบฆ่าเชื้อบรรจุภัณฑ์ปิดสนิทแบบเสตอริไลซ์(รีทอร์ท)
แต่ ไม่ว่าอาหารกระป๋องจะปลอดภัยแค่ไหน อย่าลืมว่าต้นกำเนิดมาจากการถนอมอาหารที่เกินความจำเป็น นักโภชนาการไม่เคยแนะนำอาหารกระป๋องไว้ในตารางโภชนาการ หรือนักจัดอาหารก็ไม่จัดอาหารกระป๋องให้ผู้ป่วยแน่นอน ดังนั้น หากจะรับประทาน ไม่ควรเกินอาทิตย์ละ 2 กระป๋อง และรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงจะดีที่สุดครับ
โฆษณา