9 ก.พ. 2020 เวลา 06:59 • ความคิดเห็น
"fool speech"เป็นคำที่ อุมแบร์โต เอโค เรียก การคุกคามทาวสื่อของชาวเน็ตไว้อย่างน่าสนใจ
เค้าเขียนไว้ประมาณว่า"เมื่อก่อนคนพวกนี้มักพูดกันในวงเหล้าและไม่ได้มีความหมายนัยยะสำคัญใดๆ แต่เพราะสิ่งที่เรียกว่า"โซเชียลมีเดีย"นี่เองที่ทำให้คนพวกนี้มีเสียงในสังคมที่เทียบเท่ากับนักปรัชญา ศิลปิน นักปราชญ์ หรือผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบล
2
ปัจจุบันเราสามารถแสดงออกทางสื่อสังคมออนไลน์ได้แล้วและสื่อหลักมักหยิบยกเอาคำพูดเหล่านี้ไปประกอบ และอิงน้ำหนักของข่าวด้วย
ส่วนใหญ่ ยูเซอร์อายุไม่ถึง 18 หรือ เกิน 18 แต่มีการศึกษาไม่ถึงมัธยมต้น หรือมีการศึกษาแต่ขาดวิจารณญาณ มักจะเอาความคิดตนเองเป็นหลักและตัดสินเหตุการณ์ผ่านสื่อนั้นของตนเอง
ผลที่ตามมาคือ ค่าความเสียหายอันประเมินมิได้หากเป็นการใส่ร้ายและทำผิดรุนแรง อาจทำให้ผู้รับสารคนอื่นๆ เข้าใจข่าวสารนั้นอย่างคลาดเคลื่อน หรือการด่าเร้าอารมณ์ให้ผู้อื่นรู้สึกไปด้วยนั้นก็เช่นกัน ล้วนเป็นผลเสียทั้งสิ้น
ขอยกเหตุการณ์ในอดีตที่มีนักเรียนช่างเรียนจนรองเท้าขาดเนื่องจากทำโครงงานของเขา เมื่อขึ้นรถไฟฟ้ามีผู้ถ่ายภาพของเขาและนำไปโพสต์ลงโซเชียล ว่า"เค้าซ่อนกล้องถ่ายใต้กระโปรง ระวังด้วย"
เค้าถูกสังคมประณาม และเพื่อนฝูงที่เคยคบได้ห่างออกไปรวมถึงการถูกบูลลี่จากคนรอบข้าง เึ้าถึงขั้นคิดฆ่าตัวตาย โชคดีที่มีผู้รู้ความจริงพยายามแก้ต่างให้เขาจึงยังพอทำให้คนอื่นเข้าใจ แต่ คนที่ทำเขากลับไม่ได้รับโทษใดๆ
นี่คือความน่ากลัวของ"fool speech"
โฆษณา