23 ก.พ. 2020 เวลา 16:55 • ไลฟ์สไตล์
เหตุเกิดเพราะนิสัยชอบซ่อนเงิน
มีใครเคยซ่อนเงินไม่ให้ภรรยาเจอไม๊คะ ทำแบบไหนกันบ้างน๊าาา??
ตั้งแต่จำความได้ ก็ชอบซุกซ่อนเงิน เชื่อว่าหลายๆ คนก็เคยทำ เหลือจากค่าขนมก็เหน็บไว้ตามหนังสือ
แต่ซินเอง นอกจากซุกตามหนังสือแล้ว ก็เสียบไว้ตามผนังห้อง ซึ่งบ้านเดิมจะเป็นบ้านไม้ ผนังจะเป็นไม้แผ่นแคบๆ เรียงซ้อนกัน เอาเหรียญเสียบเข้าไปก็ซุกเนียนอยู่นะ
ซุกใต้ฐานพระพุทธบนหิ้งพระ ซุกในพับผ้าไหมของแม่ ซุกหลังรูปที่แขวนผนัง ซุกในกล่องหม้อชุดที่แม่ชอบซื้อสะสมแต่ไม่เอามาใช้ซะที
พอซ่อนแล้ว ก็หลอกให้ตัวเองเชื่อว่า ตัวเองไม่มีเงิน
ใช่ค่ะ....หลอกตัวเอง ให้เชื่อแบบนั้นจริงๆ ไม่ใช่แค่โกหกตัวเองแล้วยิ้มพริมใจว่าตัวเองยังมีเงินอยู่
แล้วจำได้ไม๊ว่า ซุกเงินไว้ที่ไหน?
เอาจริงๆ นะ จำได้แค่บางที่ 555 ก็ยังเด็กอยู่อ่ะ
แม่เคยถามว่า "จะซุกไว้ตามที่โน่นที่นี่ทำไม เดี๋ยวตุ๊กแกมาเอาไปนะ"
ตอบแม่ทันควัน "ตุ๊กแกไม่เห็นก็ไม่รู้หรอกแม่"
พ่อทำกระปุกออมสินอันแรกให้ โดยทำมาจากกระป๋องนมผง เจาะรูให้ แต่ฝามันเปิดปิดได้ เลยไม่ยอมใส่อีก....เอาแต่ใจจริงๆ
พ่อเลยเอาดินน้ำมันมาแปะขอบที่เปิดปิดให้ นี่ไงเปิดไม่ได้แล้ว ก็เลยยอม ....เชื่อง่ายอีก
จำได้ว่า แม่กับพี่ชาย ช่วยกันเก็บเงินที่ซุกไว้ตามที่ต่างๆ (เท่าที่หาเจอ) มาใส่กระป๋องให้
โอโฮ...ก็เยอะอยู่นะ
หยอดไปไม่เท่าไร ก็เต็ม แม่ก็พาไปเปิดบัญชีเงินฝากที่ธนาคารออมสิน ที่อยู่ถนนสิบสามห้าง บางลำภู ในสมัยนั้น
แม่เห็นว่าลูกสาวคงเก่งด้านซุกเงิน เลยซื้อกระปุกออมสินรูปช้างตัวใหญ่ให้ ส่วนพี่ชายได้กระปุกกระต่ายใบนิดเดียว ....พี่แพ้เรา เพราะกระปุกเราใหญ่กว่า คิดไปอีก 555
พอโตขึ้น ... นิสัยซุกเงิน หลอกตัวเอง ก็ยังไม่หาย
ตอนทำงานใหม่ๆ พอเงินเดือน (อันน้อยนิด) ออก ก็แบ่งเอาซุกไว้ในกล่องคุ้กกี้มั่ง ซุกในเสื้อแจ็คเก็ตบางตัวที่ไม่ค่อยใส่ เงินที่เหลือจากการซุกนี้ก็หารจำนวนวัน ใช้ไม่เกินนี้นะ ...สั่งตัวเอง
ถ้าวันไหนมีเงินเหลือจากการใช้ ก็มาหยอดกระปุก ไม่เอาไปปนกับที่ซุกไว้ตอนแรก ในกระปุกนี่เอาไปใช้ซื้อของที่อยากได้ ไม่ต้องขอเงินแม่
ครบ 3 เดือน ก็ค่อยเอาไปฝากธนาคาร ด้วยการไปธนาคารในสมัยนั้น รอคิวนานมากๆๆๆ การโอนทางแอพพลิเคชั่นยังไม่มี
เดี๋ยวนี้ พอเงินเดือนออกก็โอนด้วยแอพ ให้แม่ก่อน แล้วค่อยโอนไปไว้บัญชีตัวเองอีก 2 บัญชีไว้ เพื่อหลอกตัวเองว่ามีเงินเดือนเหลือในบัญชีเท่านี้นะ ...ขี้หลอกอ่ะ
นิสัยซุกก็ยังไม่หาย (สงสัยต้องไปถ้ำกระบอก) ก็จะแลกเงินใบละร้อยไว้เดือนละ 5000 เอามาใส่กระเป๋าครั้งละ 1000 พยายามใช้ ซื้อของกิน ค่าของใช้กระจุกกระจิกให้พอใน 1 สัปดาห ์
แต่ถ้า week ไหนมีรายจ่ายจรมา ใส่ซองงานบุญมั่งไรมั่งก็ไม่พอ ก็เอามาใส่เพิ่มได้ แต่ก็จะเกลี่ยให้พอใน 1 เดือน
ส่วนในกระเป๋าที่พก ก็จะมีใบละพันอยู่อีก 3 ใบ เอาไว้เป็นเคล็ด ที่จะพยายามไม่ใช้ (ถ้าไม่จวนตัวจริงๆ) เปิดมาเมื่อไรก็เห็น 3 พันนี้ ยิ้มอุ่นใจ (อาการหนัก)
เครียดไปไม๊ ?? พอใช้หรือ???
ไม่ซื้อเสื้อผ้า กระเป๋า อะไรเลยหรอ
เอาจริงๆ นะ สำหรับคนโสด พอใช้ค่ะ เหลือหยอดกระปุกเพิ่มอีก กินอาหารครบ 3 มื้อ + ขนมด้วย ส่วนเรื่องช้อปปิ้งกระเป๋า รองเท้า สวยๆ ตั้งงบไว้ทุกเดือน ต่างหาก เพื่อคุมบัญชีได้ง่าย ซื้อไม่ให้เกินงบ เดือนไหนใช้ส่วนนี้ไม่หมดก็เก็บยอดสะสมไว้ได้ ยังไงก็ไม่ใช้จ่ายเกินตัว
แล้วมีไม๊ที่เดือนไหนไม่พอใช้ ??
ก็เคยมีนะ เป็นเรื่องนอกแพลน แต่จำเป็น ก็ไปยืมพี่กระป๋องมา (เงินตัวเองที่ซุกในกระป๋อง) ก็หลอกตัวเองอีก ว่าเป็นเงินพี่กระป๋อง ต้องผ่อนชำระคืน เหมือนเวลาผ่อนซื้อของ ดอกเบี้ยไม่ต้อง คนกันเอง
อยากผ่อนชำระพี่กระป๋องให้หมดไวๆ ไม่ต้องอดข้าวค่ะ ก็แค่หาเงินเพิ่ม ไปสอนพิเศษมั่ง หาของมาขายเพื่อนมั่ง รับจ๊อบแปลเอกสารมั่ง เอาแค่พอจ่ายพี่กระป๋อง เหลือค่าขนมนิดหน่อย ไว้หาของอร่อยกิน
เงินในธนาคารก็จะไม่ยุบเลย มีแต่เพิ่มขึ้น
ไม่เครียด ไม่ใช้จ่ายเกินตัว มีของแบรนด์สวยๆ ใช้บ้างได้ แค่พอประมาณ ไม่ฝืนตัวเองให้ทุกข์
ที่สำคัญ พยายามไม่สร้างหนี้ และไม่ให้ใครยืมเงิน โอกาสได้คืนในสมัยนี้ ยากมากๆๆ
ยังไงก็ตาม วิธีของซินก็จะใช้ได้สำหรับคนโสด ส่วนคนมีครอบครัวคงมีภาระเยอะกว่านี้ ซินยังไม่มีประสบการณ์ค่ะ ≧∇≦
หวังว่าอาจจะเป็นแนวทางไปปรับตามความเหมาะสมของแต่ละคนค่ะ
ยังไงใครมีวิธีเก็บเงิน ซ่อนเงิน ก็มาแชร์กันได้นะคะ
.
.
.
#ไดอารี่ไร้ขอบ
โฆษณา