15 มี.ค. 2020 เวลา 13:49 • กีฬา
ไปๆ มาๆ ข่าวที่ว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เปลี่ยนโรงแรมที่เป็นแบรนด์ของตัวเองที่ประเทศบ้านเกิด ให้กลายเป็นโรงพยาบาลชั่วคราวเพื่อช่วยเหลือผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า แถมเจ้าตัวยังออกค่ารักษาพยาบาลให้เองทั้งหมด คือ Fake News นะครับ
 
ซูเปอร์สตาร์ของยูเวนตุส เป็นเจ้าของโรงแรม 4 ดาว ค่าห้องพักคืนละ 165 ปอนด์ (ราวๆ 6,432 บาท) ที่เมืองฟุงชาล บนหมู่เกาะมาเดรา ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของเขา และอีกที่คืนละ 195 ปอนด์ (ราวๆ 7,601 บาท) ในกรุงลิสบอนของโปรตุเกส
 
ผมเองก็โดนข่าวที่ว่า ต้มซะเปื่อยเหมือนกันในตอนแรก แต่มาคิดดีๆ มันก็ดูเป็นเรื่องปรุงแต่งเกินไปหน่อยจริงๆ นั่นแหละ
 
เหตุผลแรก ผู้รับผิดชอบโดยตรงควรจะเป็นรัฐบาลของโปรตุเกส ซึ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าล่าสุดที่นั่น ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
 
แม้จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อแล้ว 169 คน (ตัวเลขนับสิ้นสุดถึงวันที่ 14 มีนาคม) แต่ถือว่ายังอยู่ในระดับที่ทางรัฐบาลยังน่าจะพอรับภาระได้
 
และสถานการณ์ในแดนฝอยทอง ก็ยังไม่หนักหนาเท่าชาติมหาอำนาจในเอเชียอย่าง จีน, อิหร่าน, เกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น รวมถึงประเทศใหญ่ๆ ในยุโรปอย่าง อิตาลี, สเปน, เยอรมนี, ฝรั่งเศส, สวิตเซอร์แลนด์ และ สหราชอาณาจักร
 
อย่างไรก็ตาม แม้ Fake News ที่ออกมาจะเล่นใหญ่เกินเบอร์ไปมาก และทำให้ภาพลักษณ์ของ โรนัลโด้ ยิ่งได้ใจแฟนบอลทั้งโลก แต่เจตนารมณ์ของเขาที่ห่วงใยต่อเพื่อนมนุษย์ มันยังเป็นของจริง
เมื่อวันเสาร์ที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา เขาโพสต์ข้อความลงอินสตาแกรมของตัวเองจริงๆ โดยที่ตัวเองพร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 อย่างเต็มที่
 
“โลกกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาที่ยากลำบาก และเรียกร้องการดูแลและความเอาใจใส่อย่างเต็มที่จากทุกๆ คน”
 
“วันนี้ผมไม่ได้พูดกับคุณในฐานะนักฟุตบอล แต่เป็นในฐานะลูกชาย, ในฐานะพ่อ ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งที่ตระหนักถึงเหตุการณ์ล่าสุดที่ส่งผลกระทบกับโลก”
“มันเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของ WHO (องค์การอนามัยโลก) และจากทางรัฐบาลถึงวิธีการจัดการสถานการณ์เช่นนี้”
“การปกป้องชีวิตของมนุษย์มันอยู่เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด ผมต้องการมอบการสนับสนุนให้กับทุกคนที่สูญเสียคนที่ตัวเองรัก"
“ความสมัครสมานของผมสำหรับผู้คนเหล่านั้นที่กำลังต่อสู้กับไวรัส อย่างเช่นเพื่อนของผมอย่าง ดานิเอเล่ รูกานี่ และการสนับสนุนทั้งหมดจากผม ให้กับการทำงานที่เหลือเชื่อซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกำลังทำอยู่ โดยเสี่ยงชีวิตของเขาเพื่อรักษาคนอื่น”
ข้อความนี้ได้รับการกดหัวใจจากผู้ใช้ไอจีทั่วโลกกว่า 4.7 ล้านคน
โดย ณ เวลานี้ เจ้าตัวยังอยู่ระหว่างกักตัวที่บ้านเกิด สาเหตุไม่ใช่แค่ปราการหลังเพื่อนร่วมทีมม้าลายอย่าง รูกานี่ เป็นผู้ติดเชื้อ แต่หลักๆ ก็คือเขาเดินทางจากประเทศที่เชื้อโรคแพร่ระบาดหนักที่สุดในตอนนี้อย่าง อิตาลี ต่างหาก
รายงานล่าสุด อิตาลี มีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโคโรน่าไปแล้ว 1,441 คน และจำนวนผู้ติดเชื้อทะลุ 20,000 คนไปแล้ว
นั่นทำให้ CR7 ยังไม่สามารถกลับไปแดนมะกะโรนีได้ในตอนนี้ และต้องเข้ายิมส่วนตัวรักษาระดับความฟิตเอาไว้ตลอด โดยไม่ขาดการติดต่อกับต้นสังกัด
อย่างไรก็ตาม จากการยืนยันโดย มิเกล อัลบูเกอร์เก้ ผู้ว่าการหมู่เกาะมาเดรา ถือว่าเรามั่นใจได้แล้วว่าซูเปอร์สตาร์ทีมชาติโปรตุเกสไม่ใช่ผู้ติดเชื้อ
ที่ผมบอกว่าถึงข่าวที่ว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เปลี่ยนโรงแรมของตัวเองให้กลายเป็นโรงพยาบาลจะเป็น Fake News แต่การที่เขาเป็นคนใจบุญคือของจริง มันมีเหตุผลรับรองนับไม่ถ้วน
 
นี่คือนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์ของโลกเพียงไม่กี่คน ที่ไม่มีรอยสักบนส่วนใดของร่างกายแม้แต่จุดเดียว
 
สาเหตุที่เป็นแบบนั้น เพราะเขาให้เหตุผลว่า ตัวเองจะได้บริจาคเลือดให้คนอื่นง่ายขึ้น
 
คือจริงๆ คนที่มีรอยสักก็สามารถบริจาคเลือดได้เหมือนกัน แต่สิ่งที่แตกต่างก็คือพวกเขาจะไม่สามารถทำได้โดยทันที แต่จะต้องทิ้งช่วงนาน 4 เดือน หลังจากการสักครั้งล่าสุด เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ
 
นั่นหมายความว่าถ้าใครยิ่งมีรอยสักเยอะ ก็ยิ่งต้องทิ้งช่วงรอคอยบ่อยขึ้น กว่าจะบริจาคเลือดให้คนอื่นได้แต่ละที
 
การบริจาคเลือดครั้งแรกในชีวิตของ โรนัลโด้ คือการทำเพื่อลูกชายของ คาร์ลอส มาร์ตินส์ อดีตเพื่อนร่วมทีมที่ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ซึ่งป่วยเป็นโรคลูคีเมียในปี 2011 และอดีตดาวดัง เรอัล มาดริด ก็ให้ความช่วยเหลือบริจาคไขกระดูกให้เด็กด้วยเช่นกัน
 
เขาเคยให้สัมภาษณ์เมื่อปี 2013 ว่าการบริจาคไขกระดูกคือสิ่งที่ใครก็ทำได้ ขอเพียงมีร่างกายที่แข็งแรงเท่านั้น
 
“การบริจาคไขกระดูกคือสิ่งที่หลายคนคิดว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะทำได้ แต่มันไม่มีอะไรมากไปกว่าการเจาะเลือด และมันก็ไม่ได้เจ็บปวดอะไรหรอก”
 
“ผมทำมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน และถ้าหากผมต้องทำอีกครั้งผมก็จะทำ เพราะโรคลูคีเมียคือโรคที่ร้ายแรงมากสำหรับเด็กหลายคน และเราจำเป็นต้องช่วยพวกเขา”
 
“มันไม่มีการจำกัดอายุเลยสำหรับปัญหานี้ ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นเวลาที่ดีที่จะบอกผู้คนว่าพวกเขาก็ทำได้ มันไม่มีค่าใช้จ่าย มันเป็นกระบวนการง่ายๆ และคุณจะมีความสุขเพราะคุณได้รู้ว่าคุณกำลังช่วยคนอื่นอยู่”
 
นอกจากเป็นนักเตะที่ไม่สักแล้ว พวกเราคงรู้กันดีว่านี่คือนักเตะที่รักษาความฟิตได้อย่างน่าทึ่ง เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ และใช้เวลากับยิมอยู่ตลอด
 
ในโลกนี้มีนักเตะเพียงไม่กี่คนที่จะยังยืนระยะเล่นฟุตบอลอาชีพในระดับสูงสุดได้ในวัย 35 ปี
ถึงบุคลิกของเขาในเวทีลูกหนังอาจจะดูหลงตัวเองและหยิ่งผยอง ถึงแม้จะชื่นชอบการใช้ชีวิตให้ดูหรูหรา และถึงแม้ลีลาในสนามอาจถูกครหาว่าเป็นนักเตะเห็นแก่ตัว
 
แต่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คือนักฟุตบอลที่ทำอะไรที่ยิ่งใหญ่เพื่อคนอื่นมาโดยตลอด
 
เขาคือลูกคนสุดท้องของมารดาที่ชื่อว่า มาเรีย โดโลเรส อเวยโร่ ซึ่งเคยมีความคิดอยากแท้งเขาก่อนจะคลอดออกมาลืมตาดูโลกด้วยซ้ำ แต่กลายเป็นว่า คริสเตียโน่ คือกำลังหลักในการหาเลี้ยงครอบครัวให้สุขสบายไปทั้งชาติ
 
เขาคว้ารางวัลรองเท้าทองคำยุโรปในฤดูกาล 2010-11 จากผลงานซัดใน ลา ลีกา ไปถึง 40 ประตูให้ เรอัล มาดริด ยุคที่มี โชเซ่ มูรินโญ่ เป็นกุนซือ
 
แต่แทนที่จะเก็บรางวัลอันทรงเกียรตินั้นไว้เอง เขากลับขายเพื่อนำรายได้มูลค่า 1.5 ล้านยูโร ไปสร้างโรงเรียนให้กับเด็กชาวปาเลสไตน์ ในดินแดนฉนวนกาซ่า
 
ในปี 2015 เขาบริจาคเงิน 5 ล้านปอนด์ ช่วยเหลือประเทศเนปาลที่ประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหว
 
ว่ากันว่าเราจะเห็นสันดานมนุษย์ที่แท้จริง ในตอนที่เขาอยู่ในช่วงลำบากที่สุด แต่ในทางกลับกัน ถ้าเราอยากรู้ว่าคนคนหนึ่งมีจิตใจสูงส่งแค่ไหน ให้ดูตอนที่เขามีทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการหมดแล้ว
แน่นอนว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไม่ใช่นักเตะคนเดียวในโลกที่ทำเพื่อสังคม ยังมีแข้งดังอีกหลายคนที่บริจาคเงินเพื่อการกุศลเป็นกิจวัตร
 
หลายคนลงทุนสร้างโรงเรียน หรือโรงพยาบาลในบ้านเกิด อย่างเช่น ซาดิโอ มาเน่ ของลิเวอร์พูล
ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา อดีตกองหน้าตำนานเชลซี อุทิศทั้งชีวิตเพื่อให้ ไอวอรี่โคสต์ เป็นประเทศที่ดีขึ้น เขาคือฮีโร่ที่มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้สงครามกลางเมืองยุติลงในปี 2007
ฆวน มาต้า สตาร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือโต้โผโครงการ Common Goal ที่บริจาคค่าเหนื่อย 1 เปอร์เซ็นต์ให้การกุศล เพื่อเป็นรายได้นำไปช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทั่วโลก
 
แต่ประเด็นไม่ใช่การมาเปรียบเทียบว่าใครใจใหญ่กว่าใคร มันอยู่ที่ว่าแค่ใครสักคนคิดทำอะไรเพื่อคนอื่นบ้าง มันก็เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ได้แล้ว
 
และแน่นอนว่าก่อนดูแลคนอื่น คุณต้องไม่ลืมดูแลตัวเองให้ดีที่สุดด้วยเช่นกัน
#เสียบสามเหลี่ยม #CR7 #CristianoRonaldo #Madeira #Portugal #Juventus #Football #Coronavirus #COVID19 #FAKENEWS #SaveTheWorld
 
ชอบกดไลค์ ถูกใจกดแชร์ และเพื่อไม่พลาดบทความคุณภาพจากเรา อย่าลืมกดไลค์เพจ และติดตามเพจแบบ See First ไว้เลยนะครับ
 
..สนใจติดต่อลงโฆษณา, สนับสนุนเพจ ติดต่อจ้างงานเขียนบทความฟุตบอล งานแปลข่าว เขียนสคริปต์สำหรับ Content ฟุตบอล หรือแปลหนังสือฟุตบอล ทักอินบ็อกซ์ สอบถามได้ตลอดเวลาครับ
โฆษณา