30 เม.ย. 2020 เวลา 01:38 • ปรัชญา
ทำทุกวันให้ดีที่สุด...
บทเรียนความรักความผูกพันของลูกสาวที่มีกับพ่อแม่ชนิดที่เรียกว่า "ยึดติด"
เรามีพ่อเป็นที่ปรึกษาของลูกสาวทุกเรื่อง ทุกเรื่องจริงๆ แม้แต่เรื่องรักๆ เรากับพ่อสนิทกันมากจนเรียกได้ว่า เป็นลูกที่ติดพ่อแม่สุดๆ ตั้งแต่เติบโตมาเราไม่เคยคิดจะมีคนรัก หรือแฟน แต่อย่างใด เพราะได้รับความรักจากที่บ้านเต็มปรี่จนล้นสุดๆ เราไม่เคยคบหาใครจริงจัง เพราะคิดว่าไม่มีใครรักเราได้ดีเท่าพ่อแม่ ความสุขที่อยู่กับพ่อแม่มันมากกว่าที่จะไปแบ่งเวลาให้คนอื่น
ความรักของเราทุ่มเทให้พ่อกับแม่จนหมดสิ้น และพ่อเองก็เคยมีความคิดไม่อยากให้ลูกสาวออกเรือนเช่นกัน พ่อจะสอนให้ลูกเข้มแข็ง แข็งแกร่ง และต้องอยู่ด้วยตัวเองคนเดียวให้ได้ ถูกฝังหัวมาแบบนี้แต่เด็ก จึงไม่คิดมีใคร
และเราก็ไม่เคยมีความคิดในสมองเลยว่า พ่อกับแม่จะจากไป ไม่เคยระลึกถึงความตาย ใครพูดเรื่องนี้ทีไรจะปฏิเสธทันที เพราะคิดเสมอว่าพ่อแม่ชั้นเป็นอมตะ หากต้องมีการจากกัน ขอให้ตัวเราจากไปก่อนเถิด
แต่...จนวันหนึ่งเมื่อแม่ต้องมาตายจากไปจริงๆ ความจริงแม่ไม่ได้จากไปอย่างกะทันหัน แม่ให้เวลาเราทำใจมาหลายเดือน ระหว่างนั้นพยายามทำใจตลอด เพราะคุณหมอมาคุยตลอดให้กำลังใจตลอด เพราะหมอเข้าใจว่าสภาพจิตใจเราย่ำแย่เต็มที คนใกล้ชิดทุกคน รวมทั้งพ่อต่างเป็นห่วงเราสุดๆ
....เมื่อวันนั้นมาถึง เมื่อแม่จากไปแบบไร้ร่าง ไร้วิญญาน ความรู้สึกของลูกมันพังครืนแบบสิ้นสติสัมปชัญญะ ร่างกายช้อค กลับบ้าน เห็นเตียงนอน เห็นอะไรที่เกี่ยวกับแม่ ได้แต่ร้องไห้คร่ำครวญเป็นบ้าเป็นหลัง เราปฏิเสธการรับรู้ สิ่งภายนอกหมดสิ้น ในหัวคิดแต่อยากไปหาแม่ในอีกภพภูมิ ให้ได้ คิดหาวิธีการฆ่าตัวตายหลากหลายวิธีในตอนนั้น พ่อให้เพื่อนสนิทเรามานอนเฝ้าทุกคืนเพื่อคอยดูแลเพราะห่วงลูก แต่เราไม่รับรู้ถึงความห่วงใย ทุกข์ใจของพ่อหรือใครๆในตอนนั้นเลยสักนิด คิดแต่อยากตายเพื่อไปเจอแม่อย่างเดียว
จนเวลาผ่านไปล่วงเลยมา 1 ปี กว่า เรายังไม่หายจากอาการซึมเศร้า เพื่อนๆจึงหาวิธีต้องช่วยกันพาไปเยียวยาจิตใจแล้ว เพราะสภาพเรามันแย่เต็มทีเราถูกจับเข้าคอร์สปฏิบัติธรรม 7 วัน ส่งไปอยู่ในที่ห่างไกลจากสิ่งแวดล้อมเดิม ไปอยู่ที่ป่า
ละอู จังหวัดเพชรบุรี เราได้รับการฟื้นฟูสภาพจิตใจให้ยอมรับทุกอย่างตามความเป็นจริงที่เป็นกฎของธรรมชาติที่นั่น ธรรมะเยียวยาทุกสิ่งจริงๆนะคะ จิตใจเริ่มยอมรับความเป็นจริงอย่างแท้จริงเป็นลำดับ และเริ่มหวนกลับมาคิดถึงพ่อขึ้นมาว่า เรายังมีพ่อนี่นา เราลืมพ่อไปได้ไง...
จากวันนั้นมาจนวันนี้ เราหันกลับมาใส่ใจดูแลพ่อและเริ่มกลับมายึดติดพ่ออีกครั้ง...
ตอนนี้พ่ออายุ 89 ปีแล้ว มันเป็นช่วงเวลาที่เราต้องเริ่มนับถอยหลังอีกครั้ง และต้องยอมรับความเป็นจริงของกฏกติกาธรรมชาติว่า การจากพรากกำลังจะมาถึง ร่างกายพ่อที่เราจับต้องได้ อ้อมกอดที่เราสัมผัสได้ เสียงพูดคุยที่เราได้ยินทุกๆวัน ธรรมชาติกำลังจะมาพรากไปจากเราในไม่ช้านี้แล้ว ไม่วันใดก็วันหนึ่ง เราต้องฝึกใจยอมรับอีกครั้ง
ทำให้เราตระหนักดีว่า ช่วงเวลานับจากนี้ เราจะต้องทำทุกๆวินาทีให้ดีที่สุด เพราะความรักของเราทั้งหมดที่มี คือลมหายใจของพ่อกับแม่จริงๆ
ทุกๆวันที่เราดำเนินชีวิตตอนนี้ เราต้องทำมันให้ดีที่สุดในทุกๆวัน
โฆษณา