Check in และ Check out
ช่วงนี้มีความจำเป็นต้องไปทำธุระ หาซื้อเครื่องใช้ในบ้านที่ห้าง ก็จะพบกับปรากฎการณ์เช้คอินและเช้คเอาท์ เรียกได้ว่าทุกร้านจะต้องมี QR Code ให้สแกน
บางร้านก็ไม่ค่อยเข้มงวด เดินเข้าไปดุ่มๆได้เลย จริงๆเป็นความรับผิดชอบของผู้บริโภคมากกว่า ที่ต้องสแกน เพิ่อเป็นฐานข้อมูลให้หน่วยงานสาธารณสุขติดตามโรคได้อย่างรวดเร็ว
ผมเข้า IKEA, Homepro, ไทวัสดุ สังเกตุได้ว่าคนเยอะทุกที่ สาเหตุคงคล้ายๆกันคือหาซื้อเครื่องใช้ในบ้านที่จำเป็น และสอดคล้องกับชีวิตวิถีใหม่ หรือ New Normal
วันแรกที่ IKEA บางนาเปิดให้บริการ มีข่าวออกถึงการที่คนใช้บริการยืนรอเข้ากันอย่างหนาแน่น ไม่มีการเว้นระยะห่างเท่าที่ควร
ผมเลือกไปช่วงวันธรรมดา เพื่อหลีกเลี่ยงการเจอคนเยอะๆ แต่วันที่ไปคนก็เยอะเหมือนวันหยุดเลย คงเป็นเพราะ Work from home
IKEA ปรับรูปแบบทางเข้าและทางออกใหม่ โดยเข้าได้จากลานจอดรถทางเดียว เดินอ้อมใกล้เลยเพราะผมจอดรถอีกฝั่ง เดินมาทางเข้าด้านในเหมือนปกติ
@45
ทางเข้าในห้างก็ปิดเรียบร้อย เดินไปตามป้ายบอกทางครับ
@45
คนเยอะทุกโซน เดินนานเลย ขนาดตั้งใจไปซื้อแก้วกาแฟอย่างเดียว แต่อดไม่ได้ที่จะเดินดูข้าวของเครื่องใช้ในบ้านต่างๆ
อีกสองสามวันก็ไป Home pro ทางเข้า Mega ก็มีการให้เช้คอินก่อนเข้า มีระบบวัดอุณหภูมิที่ทันสมัย โดยไปยืนตรงจุดที่กำหนด มองหน้าจอให้หน้าเราตรงกับกรอบสี่เหลี่ยม ระบบก็จะวัดอุณหภูมิให้เรา
@45
เดินตากแดดมา แต่วัดแล้วก็ผ่านครับ ไม่ทราบว่ามีแบบนี้ทุกประตูหรือเปล่า
ใน Mega คนก็เยอะเหมือนกับช่วงก่อนโควิด แต่ถ้าไปวันหยุดคนน่าจะเยอะกว่านี้
@45
ไปถึงก็เจอสิ่งที่ต้องการ คือโต๊ะขนาดเล็กที่สามารถวางในห้องนอนได้ ราคาน่ารัก 1,390 บาท มาพร้อมเก้าอี้สองตัว ตัดสินใจไม่ยาก จัดไป
พนักงานขายกลับมาบอก "พี่ของหมด" เดือดร้อนต้องกลับมารับอีกรอบ จ่ายเงินสั่งรอของอีกประมาณหนึ่งสัปดาห์
ก่อนหน้านี้นั่งทำงานกับเตียง จนตอนนี้เป็น Office syndrome ละ ปวดต้นคอกับหัวไหล่มาก เพราะนั่งผิดท่าเป็นเวลานานๆ
ดูแล้วเราคงต้องปรับตัวให้เข้ากับชีวิตวิถีใหม่กันอีกหลายเริ่องเลยครับ
เพื่อนๆมีการปรับตัวรูปแบบไหนกันบ้างครับ
สวัสดีครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
