26 พ.ค. 2020 เวลา 08:34 • ธุรกิจ
Parkinson’s Law กับมนุษย์ออฟฟิส
กฎของพาร์กินสัน: งานจะขยายตัวจนเท่ากับเวลาที่เรามี
Parkinson’s Law: Work expands to fill the time available for its completion
กฎของพาร์กินสัน เป็นกฎที่หลายๆคนคงเคยได้ยินกันมาพอสมควร ใจความก็คือ ยิ่งเรามีเวลามากเท่าไร งานก็จะขยายตัวใหญ่ขึ้นมากเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่นงานด่วนที่หัวหน้าสั่ง 5 โมงวันนี้ แต่ต้องใช้เช้าตรู่วันพรุ่งนี้ เป็นใครใครก็บ่น แต่บ่นแล้วก็ทำเสร็จกันทุกคน ด้วยความที่เรารู้ว่ายังไงก็ต้องทำให้เสร็จก่อนพรุ่งนี้เช้า เพราะฉะนั้นมันจึงเสร็จ
จากประสบการณ์ของพักเอง เมื่อตอนม.6 สอบเอ็นทรานส์ อยู่ๆเกิดจะอยากจะเข้าคณะดนตรีขึ้นมา (แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เข้านะคะ) ตอนนั้นรู้ตัวล่วงหน้าก่อนประมาณ 3 วัน คุณแม่ช่วยเสิร์ชหาครูติวเตอร์ทฤษฎีดนตรี นัดอาจารย์และไปติวก่อนสอบล่วงหน้า 1 วัน คืนนั้นกลับมาอ่านและท่องเนื้อหาที่อาจารย์ให้มาถึงประมาณตี 2 นอน 2 ชม. ตื่นมาอ่านต่อตอนตี 4 อ่านตั้งแต่บ้านยันถึงสนามสอบ จนถึงเวลาสอบ 9 โมงเช้า ปรากฎว่าสอบผ่านซะงั้น ไม่แน่หากรู้ตัวล่วงหน้านานกว่านี้อาจจะสอบไม่ติดก็ได้นะคะ
กฎนี้บอกว่าหากเรากำหนดเวลาของงานให้เสร็จในเวลาใดเวลาหนึ่ง เราก็จะทำมันเสร็จ แต่หากเราปล่อยไปเรื่อยๆ มันก้จะไม่มีวันเสร็จ แล้วสำหรับมนุษย์ออฟฟิส เราสามารถนำมาปรับใช้อะไรได้บ้าง? จากประสบการณืส่วนตัว ขอแนะนำเป็น 3 ข้อหลักๆ ดังนี้
1. Block schedule หรือการจัดงานให้อยู่ในกล่องเวลาของแต่ละช่วง แต่ละวัน
พักขอแนะนำวิธีนี้เนื่องจากใช้ด้วยตัวเองมาสักพักแล้ว และรู้สึกว่าเราทำงานได้มีประสิทธิภาพดีมาก ตัวช่วยที่ดีที่สุดคือ Google Calendar วิธีก็คือเราประเมินงานที่เราจะทำในแต่ละวันและกำหนดช่วงเวลาไว้สำหรับงานนั้นๆ อย่างเช่น ตอบอีเมล 9.00 - 10.00 น. งานเอกสาร 10.00 - 11.00 น. เป็นต้น
การทำแบบนี้จะทำให้เราติดตามได้เสมอว่าเราใช้เวลาในการทำงานกับอะไรบ้างในแต่ละวัน เราใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพแค่ไหน และจะทำให้เรารู้ว่าจริงๆแล้ววันหนึ่งมีเวลาเหลือให้ทำอะไรได้เยอะมากเลยทีเดียว
2. สรรหาอะไรใหม่ๆที่อยากทำอยู่เสมอ
การที่เราทำ Block Schedule จะทำให้เราเห็นว่าจริงๆแล้ววันวันหนึ่งมีเวลาเหลือเยอะมาก แล้วเราจะเอาเวลาเหล่านั้นมาทำอะไรดี? พักคิดว่าเราควรหาแรงบันดาลใจ หางานอดิเรก หรือหาช่องทางเพื่อหารายได้เสริมอยู่ตลอดเวลา เพื่อเพิ่มกำลังในการใช้ชีวิต แน่นอนว่ากำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ สิ่งที่เราอยากทำอาจจะเป็น การเรียนภาษาใหม่ การหารายได้เสริมเพื่อเก็บเงินไปเที่ยวที่ๆอยากไป การขายของออนไลน์ การเล่นดนตรี การวางแผนเที่ยว สร้างงานศิลปะ เล่นดนตรี เย็บปักถักร้อย หัดทำอาหาร อ่านหนังสือดีๆสักเล่ม จัดห้องนอนใหม่ จัดโต๊ะทำงาน ซื้อปลามาเลี้ยง หรือแม้แต่การแวะไปพบปะเพื่อนๆที่ไม่ได้เจอกันนาน สิ่งที่เราอยากทำจะเป็นแรงบันดาลใจและเป็นแรงผลักดันให้เราทำทุกอย่างได้เร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้เราได้ใช้เวลาที่เหลือมาทำในสิ่งที่ชอบนั่นเอง
3. หาทางลัด
ความอดทนเป็นสิ่งที่ดี แต่เทคโนโลยีในปัจจุบันได้มอบพลังในการทำงานอย่างรวดเร็วให้เราอย่างไม่น่าเชื่อ ตัวอย่างที่ใกล้ตัวที่สุด คือ โปรแกรมต่างๆจาก Microsoft ไม่ว่าจะเป็น MS Excel, MS Words, MS PPT ทราบหรือไม่ว่าโปรแกรมเหล่านี้มีทางลัดมากมายที่จะประหยัดเวลาการทำงานของเราอย่างไม่น่าเชื่อ การเสิร์ชหาข้อมูลอยู่เสมอและความขยันในการเรียนรู้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้เราประหยัดเวลาจากงานเดิมๆที่น่าเบื่อได้ ทุกท่านอาจติดตามเพจ ‘กี้ขยัน’ ไว้ เพื่ออ่านบทความใหม่ๆเกี่ยวกับเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในโปรแกรมเหล่านี้โดยเฉพาะ Microsoft Excel ที่จะช่วยประหยัดเวลาการทำงานของคุณได้อย่างมากโข ;)
รายละเอียดมีเยอะกว่านี้มาก หากอย่างทราบรายละเอียดเกี่ยวกับส่วนใดในบทความนี้ ทิ้งคอมเมนต์ไว้ได้นะคะ ❤️
โฆษณา