10 มิ.ย. 2020 เวลา 05:25 • ธุรกิจ
บิทคอยน์ ใช้ทำอะไรได้บ้าง?
แม้ว่าบิทคอยน์จะยังไม่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในวงกว้าง เมื่อเทียบกับสกุลเงินทั่วไปอย่างเงินบาท หรือการใช้บัตรเครดิต แต่ก็มีหลายองค์กร ธนาคาร หรือว่าร้านค้าที่เริ่มรับชำระเงินด้วยบิทคอยน์บ้างแล้ว ที่สำคัญ บิทคอยน์ยังมีประโยชน์มากมายเมื่อเทียบกับสกุลเงินทั่วไป หรือว่าระบบการเงินแบบเดิม ๆ ไม่ว่าจะเป็น
1
ธุรกรรมระหว่างประเทศ
คุณสามารถใช้บิทคอยน์โอนเงินไปต่างประเทศได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยปลายทางจะได้รับเงินในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง พร้อมด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำมาก ๆ แค่ 0.4% ของจำนวนเงินที่ทำธุรกรรม แม้ว่าค่าธรรมเนียมอาจจะสูงหรือต่ำกว่านี้ได้ แตกต่างกันไปตามผู้ให้บริการ แต่เมื่อเทียบกับวิธีเดิม ๆ ในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ ที่คุณอาจจะต้องรอหลายวันกว่าจะได้รับเงิน ต้องเดินทางไปโอนเงินที่เคาน์เตอร์ด้วยตัวเอง อีกทั้งยังต้องเสียค่าธรรมเนียมหลายร้อยบาท บิทคอยน์ก็ถือได้ว่าเป็นทางเลือกที่ดีเลยทีเดียว
1
ซื้อสินค้าและบริการ
อย่างที่เราได้เกริ่นกันเอาไว้  ว่าในปัจจุบันอาจจะยังมีร้านค้าจำนวนไม่มากที่รับการชำระเงินด้วยบิทคอยน์ แต่คุณก็สามารถใช้บิทคอยน์แทนเงินสดในการซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ ทั้งทางออนไลน์และร้านค้าทั่วไปได้เรียบร้อยแล้ว บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft ก็ได้เริ่มรับบิทคอยน์มาเป็นเวลาหลายปี โดยคุณสามารถตรวจสอบร้านค้าที่รับ Bitcoin ได้ที่ Use The Bitcoin
สะสมทรัพย์
ราคาของบิทคอยน์อาจจะยังมีความผันผวนอยู่มาก เช่นเมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา บิทคอยน์ราคาตกลงไป 30-40% ในคืนเดียว ในช่วงสถานการณ์ COVID-19 ที่ตลาดหุ้น ราคาน้ำมัน และราคาทองก็มีความผันผวนเช่นกัน แต่ในบางประเทศที่ค่าเงินของตัวเองไม่ค่อยมั่นคง เช่น เวเนซูเอล่า ที่มีภาวะเงินเฟ้อขั้นรุนแรง ทำให้เงินล้านอาจจะเหลือมูลค่าเป็นศูนย์ได้ในข้ามคืน จนคนต้องหอบเงินเป็นกระสอบ ๆ เพื่อไปซื้อข้าวแค่จานเดียว บิทคอยน์ก็ยังคงเป็นทางเลือกที่ดีในการเก็บสะสมเงิน
เทรดค่าเงิน
อย่างที่เราทราบกันดีว่าราคาของบิทคอยน์มีความผันผวนตลอดเวลา ทำให้การเทรดบิทคอยน์นั้น เป็นอีกหนึ่งในทางเลือกที่ดีเพื่อการทำกำไรของนักลงทุน การเทรดบิทคอยน์นั้นก็ไม่ต่างอะไรจากการเทรดหุ้น คุณซื้อในราคาต่ำและขายในเวลาต่อมาเมื่อราคาบิทคอยน์สูงขึ้น แต่เมื่อเทียบกับหุ้นแล้ว บิทคอยน์มีการเปลี่ยนแปลงของราคาบ่อยครั้งมากกว่า และอาจจะมีความผันผวนในระยะสั้นมากกว่า ซึ่งทำให้นักลงทุนมีโอกาสในการทำกำไรมากกว่าเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนที่เราเรียกกันแบบไม่เป็นทางการว่า Hodlers ที่มาจากคำว่า Holder แบบที่สะกดผิดนั่นเอง คำนี้มีที่มาจาก เมื่อหลายปีก่อนตอนที่บิทคอยน์ราคาตกลงอย่างรุนแรง มีชายคนหนึ่งในอินเทอร์เน็ตโพสว่าตัวเองจะ HODL ก็คือ Hold (ถือครอง) แบบสะกดผิด เขาบอกว่าจะไม่ขายอย่างแน่นอน แต่อินเทอร์เน็ตดันชอบความสะกดผิดนี้ จนกลายเป็นมีม (Meme) ดังในชั่วข้ามคืนและเป็นศัพท์เฉพาะวงการในที่สุด กลุ่ม Hodlers นี้เชื่อว่า บิทคอยน์จะเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งหมายความว่าราคาของบิทคอยน์ก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน ทำให้ Hodlers ซื้อบิทคอยน์เก็บไว้ในระยะยาวเป็นการออมเงินอีกทางนั่นเอง
1
โฆษณา