22 มิ.ย. 2020 เวลา 00:12 • ปรัชญา
## บางครั้งเรารู้ดีว่า สิ่งที่เลือกนั้น “อาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดของชีวิต” แต่เราก็ยังยึดติดเพราะ… “กับดักสมอง” ของเรานั่นเอง ##
บทความที่ปองนำมาให้อ่านนี้
อาจไม่ใหม่สำหรับใครบางคน แต่มันซ่อน “กุญแจ” บางอย่างที่ปองอยากเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังค่ะ
1.
นานมาแล้วมีตาแก่ผู้น่าสงสารอยู่คนนึง
เมียและลูกแกเสียชีวิตไปนานแล้ว แต่แกก็ยังต้องมีภาระเลี้ยงหลาน ๆ อีก 4 คน ที่ชอบเอาแต่ใจตัวเอง วัน ๆ ไม่ทำไม่ช่วยอะไรเลย ดีแต่ทะเลาะกันทุกวันว่า คนนั้นผิด คนนี้ผิดที่ไม่ทำอย่างนั้น ไม่ทำอย่างงี้
2.
จนมาวันนึงตาแก่ป่วยหนักกำลังจะตาย
ก็ยังอดห่วงหลานไม่ได้ เพราะแกกลัวว่า หลานที่เอาแต่ใจตัวเอง จะอยู่ในสังคมที่มีแต่คำว่า "กูเก่ง" ไม่ได้
3.
ก่อนตายแกจึงเรียกหลานทั้ง 4 คน
มานั่งล้อมวงที่โต๊ะสี่เหลี่ยม แล้วให้หลานเอาผ้าผูกปิดตาไว้ทั้งหมด หลังจากนั้นคุณตาก็ไปหยิบตะเกียงทรงสี่เหลี่ยมมาหนึ่งอัน ซึ่งแต่ละด้านมีสีต่างกัน มาตั้งไว้กลางโต๊ะที่เด็กทั้ง 4 คนนั่งล้อมวงอยู่ แล้วให้หลานทุกคนเปิดผ้าผูกตาออกพร้อมกัน จากนั้นตาแก่ก็ถามหลานทั้ง 4 คนว่า "เห็นตะเกียงสีอะไร"
4.
หลานคนแรกบอกเห็น "สีแดง" คนที่สองบอกเห็น "สีเหลือง" คนที่สามบอกเห็น "สีเขียว" คนที่สี่บอกเห็น "สีน้ำเงิน" แล้วทั้ง 4 คนก็เริ่มทะเลาะกันว่า สีที่ตัวเองเห็นนั้นถูกต้อง
5.
จนตาแก่พูดขึ้นว่า…
"ไม่มีใครผิด ใครถูกหรอกหลานเอ๋ย เพราะตะเกียงมันมีสี่ด้าน ถ้าใครอยากรู้ว่า ทำไมคนอื่นถึงเห็นสีไม่เหมือนเรา เราก็ต้องเดินไปดูในมุมของเค้าบ้าง เราก็จะเข้าใจว่า ทำไมเค้าถึงบอกว่าเค้าเห็นสีนั้น อย่ามองมุมของเรามุมเดียวแล้วตัดสิน เพราะคนเรามันต่างความคิด ต่างมุมมอง"
2
============
ถ้าเป็นเพื่อน ๆ ละคะ
จะหยุดเถียง...แล้วเดินอ้อมไปดูตะเกียงอีกด้านมั้ย หรือ จะยืนยันสิ่งที่ตาตัวเองเห็น แล้วเลือกเชื่อว่า “มันใช่สีนี้และ ไม่ต้องไปพิสูจน์หรอก” ลองตอบตัวเองในใจว่า คุณเป็นคนแบบไหนคะ?
ถ้าเป็นอย่างหลังแล้วหละก็...ไม่ต้องตกใจไปค่ะ !
เพราะนั่นคือ คำตอบของคนมากกว่า 50 % ในโลกนี้ และปองก็เคยเป็นหนึ่งในนั้น จนกระทั่งมารู้จักสิ่งที่เรียกว่า “กับดักความคิด” หรือ ศัพท์ฝรั่งเค้าจะเรียกกันว่า “ Fixed Mindset”
1
Fixed Mindset คือ กรอบความคิด หรือ ความเชื่อที่ว่า สิ่งนี้ดีแล้ว ถูกแล้ว ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรอีกแล้ว
ปองขอเล่าประสบการณ์ตัวเองให้เพื่อน ๆ ฟังซักเรื่องนะคะ
แล้วถ้าใครเป็นคล้าย ๆ ปอง (คือ ฟังแล้วร้อง...อืมมม ใช่แฮะ) เรามาฟังวิธีแก้ไปด้วยกันค่ะ
3 ปีก่อน เป็นครั้งแรกที่ปองได้ลองจับกล้อง DSLR ค่ะ
ด้วยความที่ชอบเดินทาง และอยากมีภาพถ่ายสวย ๆ เก็บไว้เป็นความทรงจำของชีวิต เลยตัดสินใจซื้อกล้องซักตัวลองใช้ และได้นำมันออกไปถ่ายให้กับเพื่อน ๆ ในทริปค่ะ ภาพที่ได้ ปองไม่รู้หรอกนะ ว่ามันแย่แค่ไหน แต่เสียงตามสายนี่สิคะ ที่ทำให้รู้สึกแย่
“ภาพไม่สวย” “ถ่ายไม่ได้เรื่อง” “แกไม่มีหัวศิลปะ”
อีกหลายเสียงเลยหละค่ะ เรียกว่า พอเรารับคำพูดเหล่านี้มา สมองก็ตีกรอบความคิดให้เราทันทีว่า...แกมันไม่มีพรสวรค์ แกเป็นนักวิทยาศาสตร์ ไม่มีหัวด้านศิลปะหรอก แกควรเลิกเหอะ แกทำไม่ได้หรอก นี่คือ “กับดักความคิด หรือ Fixed Mindset” ที่ปองพูดถึงค่ะ
# เพราะสมองหลอกเราง่ายเราจึงจำเป็นต้องรู้ทัน
เคยได้ยินเรื่อง “สมองกิ้งก่า” มั้ยคะ
มันเป็นกลไลอย่างนึงที่เกิดมาพร้อมกับเรา พระเจ้าสร้างสมองส่วนนี้มา เพื่อใช้เป็นสัญชาติญาณในการเอาตัวรอด เช่น เด็กทารกจะร้องงอแงเวลาหิว หรือ เราจะสะบัดมือออกทันทีถ้าจับของร้อน
1
“การหนีจากอันตราย” คือ คุณสมบัติสำคัญของมัน
เพราะงั้น อะไรที่มันรู้สึกว่าเสี่ยง มันจะออกทำงานทันที เหมือนกับที่เราวิ่งหนีอัตโนมัติ ทันทีที่เห็นคนเดินดุ่ม ๆ ทำท่าจะเข้ามาชกเรา
การเดินออกจากความเชื่อเดิม ๆ
หรือ การเริ่มต้นทำอะไรใหม่ ๆ ทั้ง 2 อย่างนี้ สมองกิ้งก่าจัดว่าเป็นอันตรายเช่นกันค่ะ เพราะมันคือ การก้าวออกจาก “Comfort Zone หรือ โซนปลอดภัย” ซึ่งต้องใช้พลังงานในร่างกายพอสมควร (สังเกตง่าย ๆ ว่า เวลาเราคิดงานเยอะ ๆ เราจะหิวบ่อย เพราะสมองดึงเอาพลังงานในร่างกายไปใช้เยอะขึ้น)
1
ดังนั้นเพื่อไม่ให้เสียพลังงานดังกล่าว
วิธีที่สมองกิ้งก่าจะขัดขวาง คือ การสร้างความเชื่อบางอย่างเพื่อหลอกให้เราหยุดอยู่ทำสิ่งนั้นซะ เช่น จินตนาการ “หน้าตาของผี” ให้เรากลัว จนไม่กล้าออกไปที่มืด ๆ คนเดียว
# แค่เปลี่ยนวิธีพูดตัวเราจะพองโตขึ้น
ปองพูดเรื่องสมองก่อน
เพื่อให้เข้าใจถึงว่า อะไรคือตัวฉุดรั้งทางความคิดของเรา มันอาจจะเริ่มต้นจากใครซักคนพูดให้เราเชื่อ แต่ที่เราเลือกเชื่อจนไม่กล้าลงมือทำ เป็นเพราะ “ความกลัว” ที่เกิดจากสมองของเราต่างหาก ที่ครอบงำ “ความกล้า” ของเราเอาไว้
ตอนที่ปองโดนสมองกิ้งก่าสะกดจิตเมื่อ 3 ปีก่อน
ปองก็เกือบจะเชื่อมันและหยุดถ่ายภาพอยู่แล้วเชียว ถ้าไม่ใช่เพราะ “รู้ทันกลไกสมอง” และหยุดมันด้วยสิ่งนี้ค่ะ
1
“แค่พลิกวิธีการพูด..กุญแจสำคัญ ที่ปลดล็อคทางความคิดได้”
วันนั้นปองหลุดจากกรงขังทางความคิด ด้วยวิธีนี้ค่ะ
เติมคำว่า “ยัง...ตอนนี้” เข้าไปทุกครั้ง ที่เราได้ยินเสียงในหัวเรากำลังกล่อมเราให้หยุดทำสิ่งที่ตั้งใจไว้
ยกตัวอย่างเช่น
ตอนนั้นปองจะมีเสียงหลอน ๆ โผล่มากล่อมว่า โหยย มันยากส์ ! ถ่ายไม่ได้หรอก
.
แต่ถ้าเรารู้ทันเสียงพวกนี้แล้ว
ให้เราพูดสวนกลับไปว่า “เราแค่...ยังถ่ายไม่ได้ตอนนี้” แล้วย้ำกับตัวเองลงไปอีกว่า “แต่เรามั่นใจว่า...ในอนาคตถ้าเราตั้งใจ เราทำได้แน่ !”
บางคนอาจจะหาว่า บ้ารึเปล่า พูดกับตัวเอง
แต่เชื่อมั้ยคะ การตอกย้ำความต้องการของตัวเอง หรือ Self - Affirmation เป็นหลักการสั่งจิตใต้สำนึกที่ทรงพลังที่สุด แม้กระทั่งดาราฮอลลีวู๊ดอย่าง จิม แครี่ ยังเคยให้สัมภาษณ์ว่า “เขาเชื่อว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้มาจากความคิด หรือ ความตั้งใจให้มันเกิดขึ้น ก่อนที่เขาจะดังเปรี้ยงปร้าง เขาได้ตอกย้ำภาพการเป็นดาราดังให้กับตัวเองทุกวัน และ เชื่อเสมอว่าตัวเองจะไปถึงจุดนั้นในวันนึง”
CR. Brainchef Blog
พี่น้องตระกูลไรต์ที่สร้างเครื่องบินสำเร็จเป็นคนแรก
ก็ยังใช้วิธีการอันทรงพลังนี้ เค้าจินตนาการเห็น “คนบินได้” และตอกย้ำความคิดตัวเอง ด้วยการพูดว่า “ซักวันมนุษย์จะสามารถบินขึ้นไปบนฟ้าได้ด้วยเครื่องบิน”
ความลับเรื่องการหนีจากกับดักสมอง
ปองรู้จักมันเมื่อ 3 ปีก่อนค่ะ จากการฟัง หนังสือพูดได้ของ คุณบัณฑิต อึ้งรังษี นักพูดและวาทยกรชื่อดังของประเทศไทยค่ะ จนถึงวันนี้ มันก็ยังใช้ได้ดีกับปองจนน่าตกใจ
## บางครั้งเรารู้ดีว่า สิ่งที่เลือกนั้น “อาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดของชีวิต” แต่เราก็ยังยึดติดเพราะ… “กับดักสมอง” ของเรานั้นเอง ##
และ ถ้าเราไม่อยากโดนมันหลอกอีกต่อไป
เราต้องกล้าเปิดใจยอมรับมุมมองใหม่ ๆ ก่อน และเมื่อพร้อมจะเดินออกจากความเชื่อเดิมแล้ว ต้องท้าทายสมองด้วยการบอก “ความต้องการของตัวเองทุกวัน ต้องเชื่อในผลสำเร็จของมัน และ สำคัญที่สุด คือ การลงมือทำมันด้วยความตั้งใจด้วยค่ะ”
เป็นกำลังใจให้กับเพื่อน ๆ ที่ต้องการออกจาก Fixed Mindset ทุกคนนะค้า
สำหรับสาระแบบสั้นๆ และคลิปสั้นทันข่าว ติดตามได้ที่
ด้วยความปรารถนาดี
The Wisdom Diary
#Fixedmindset
#สมองกิ้งก่า
#ตะเกียงสี่ด้าน
#DWisdomDiary
โฆษณา