16 ก.ค. 2020 เวลา 08:46 • การตลาด
มันฝรั่งเลย์ กับ Mindset เบอร์ 1 ของ ตลาดมันฝรั่ง
ขอบคุณ รูปภาพจาก marketeer
การเติบโตของตลาดขนมขบเคี้ยวในตลอดหลายปีที่ผ่านมา เติบโตจากอะไร
1. คนไทยมองขนมขบเคี้ยวเป็นขนมที่สามารถรับประทานได้ตลอดเวลา สามารถสร้างความเพลิดเพลินในการรับประทาน และเป็นหนึ่งในของรับประทานเล่นในงานปาร์ตี้ต่างๆ จากความง่ายในการซื้อหาและสามารถเก็บไว้ได้นาน
2. ตลาดขนมขบเคี้ยวเป็นตลาดที่ผู้บริโภคสามารถเปลี่ยนแบรนด์และเปลี่ยนเซกเมนต์ได้ง่าย ถ้าไม่สามารถหาซื้อแบรนด์หรือไซส์ที่ต้องการได้ ทำให้ตลาดขนมขบเคี้ยวจะแข่งขันในเรื่องของช่องทางจัดจำหน่าย และขนาดของหีบห่ออีกด้วย
3. ผู้บริโภคนิยมซื้อขนมขบเคี้ยวจากขนาดซองและราคามากกว่าปริมาณของขนมขบเคี้ยวที่บรรจุอยู่ในซอง และนิยมซื้อซองใหญ่เนื่องจากมองว่าคุ้มค่ากว่า แต่ความจริงแล้วขนมขบเคี้ยวบางแบรนด์มีการบรรจุขนมในห่อใหญ่จำนวนที่คุ้มค่าน้อยกว่าขนมไซส์เล็ก เช่น ไซส์เล็ก 5 บาท 8 กรัม ไซส์ 10 บาท 15 กรัม เป็นต้น
4. ตลาดขนมขบเคี้ยวในเซกเมนต์มันฝรั่ง เป็นเซกเมนต์ที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด 11,992 ล้านบาท มีผู้นำตลาดอย่างเลย์ ได้ขับเคลื่อนตลาดผ่านมันฝรั่งรสชาติใหม่ๆ และแพ็กเกจใหม่ๆ ออกมาสร้างสีสัน และกระตุ้นเม็ดเงินในกระเป๋าผู้บริโภคเสมอ
โดยปีที่ผ่านมาตลาดมันฝรั่งมีการเติบโตมากถึง 13% ซึ่งเป็นเซกเมนต์ที่มีการเติบโตสูงสุดเมื่อเทียบกับเซกเมนต์อื่นๆ ในตลาดขนมขบเคี้ยว
5. ตลาดสาหร่ายแม้ดูไม่หวือหวา แต่ก็มีการเติบโตต่อเนื่องทุกปี จากการทำตลาดของ 2 แบรนด์ใหญ่อย่างเถ้าแก่น้อย และมาชิตะ ที่ขับเคี่ยวการทำตลาดผ่านพรีเซนเตอร์ศิลปินเกาหลี ที่เชิญชวนแฟนคลับมาซื้อสินค้าเพื่ออุดหนุนแบรนด์ที่จ้างศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบเป็นพรีเซนเตอร์
ขอขอบคุณบทวิเคราะห์ดีๆ จาก marketeer
จากบทวิเคราะห์ ข้างต้นจะเห็นได้ว่า ตลาด snack ในไทยนั้นมีอัตราการเติบโต ขึ้นทุกปีถึงแม้ว่าเศรษฐกิจ จะไม่ดี วงการอื่นจะยอดตกอย่างไร แต่ภาพรวมของตลาดขนมขบเคี้ยว ก็ยังคงเติบโตเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตลาดมันฝรั่งเติบโตถึง 13% และ เจ้าของแบรนด์ “เลย์” มี market share สูงถึง 73% ฉะนั้นผมจึงไม่แปลกใจเลย เมื่อเห็นโฆษณาชุดใหม่ที่ออกมาว่า ทำไม??? รูปแบบการโฆษณา
จึงเปลี่ยนแปลงไปขนาดนี้
ภาพจากโฆษณา เลย์
คงต้อง focus กันที่วิธีคิดกันอีกผมสังเกตเห็นจากแทบทุกธุรกิจ ในเกือบทุกบทความที่ผมได้อ่าน ในฐานะเบอร์ 1 ของ ธุรกิจนั้นๆ มักจะมี สิ่งสำคัญนี้อยู่ด้วยเสมอทุกครั้ง คือ วิสัยทัศน์ ของผู้นำ ที่เป็น “mindset” ถ้าสังเกตจะเห็นได้ว่า แบรนด์ผู้นำเหล่านี้ จะมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ การไม่หยุดนิ่ง คิดและพยายามพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา จึงเป็นคุณสมบัติที่สำคัญทำให้คงความเป็นที่หนึ่งมาจนวันนี้
ในบทความนี้ก็เช่นกันครับ “เลย์” เป็นเบอร์1 เป็นผู้นำในตลาดมันฝรั่ง ที่วันนี้กำลังคิดแตกต่างจากคู่แข่ง ในตลาดเป็นผู้นำทางการตลาดด้วยการขยายฐานลูกค้า ไปสู่กลุ่มที่ใหญ่ขึ้น จากโฆษณาชุดใหม่ที่ได้ เป็ก มาเป็นพรีเซนเตอร์ เริ่มตั้งแต่รูปแบบการโฆษณาที่เปลี่ยนไปก่อน จากเดิมโฆษณาของ ขนมขบเคี้ยวทั่วๆไปจะออกค่อนข้างบ่อย โดยมีวัตถุประสงค์หลัก คือ
1.สร้างการรับรู้แทบจะตลอดเวลา (brand awareness)เพราะเป็นสินค้าที่ใช้แล้วหมดไป และยิ่งเป็นของกิน ทำให้เกิดการซื้อซ้ำได้บ่อยๆ ใช้ทุกวัน และกินได้ตลอดเวลา ฉะนั้น โฆษณาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่มาเป็นตัวกระตุ้นทางจิตวิทยา ที่ต้องเห็นบ่อยๆ เพื่อสร้างให้เกิดความอยาก
2.รักษายอดขาย ( maintain ) เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้บริโภคหันไปกินของยี่ห้ออื่น
3.แย่งชิง เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาด (market share) ซึ่งเราจะเห็นว่า จุดสำคัญของขนมขบเคี้ยว คือรสชาติ ที่หลากหลาย และใหม่ตลอดเวลา ทำให้ โฆษณา ที่ผ่านๆ มาจะเน้นในเรื่องประชาสัมพันธ์ รสชาติใหม่ๆ เพื่อให้ลิ้มลองเป็นหลัก ซึ่งทุกแบรนด์ก็จะสรรหาทำรสชาติใหม่ๆ ออกมาแทบจะตลอดเวลา
3
แต่วันนี้ “เลย์” เปลี่ยนตัวเองขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการสื่อสารผ่านโฆษณาว่า “มีเลย์ มีเรา มีรสชาติ” โดยใช้ภาพครอบครัว หนึ่งเป็นตัวแทนบอกเล่าว่า วันนี้ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย สามารถทานมันฝรั่งได้ อันนี้เป็น จุดสำคัญที่ผมกำลังพูดถึง ถ้าเราสังเกตจากโฆษณาเก่าๆ จะเห็นว่า ขนมขบเคี้ยว โดยเฉพาะมันฝรั่ง จะเน้นไปที่ เด็ก วัยรุ่น และคนเพิ่งเริ่มทำงาน (โฆษณาจะใช้ พรีเซนเตอร์ 1-2 คน มาชักชวนให้ลิ้มลอง หรือ วัยรุ่นเป็นกลุ่มในลักษณะ มีความสุขในการกินในการแย่งกันกิน
ภาพจากโฆษณา เลย์
การขยายฐานผู้บริโภคในวันนี้หมายความว่า “เลย์”กำลังจะมียอดขายเพิ่มขึ้นอีกมหาศาล อย่างน้อยๆ จากที่เห็นในโฆษณา ก็จะได้รุ่นพ่อแม่ รวมไปถึง รุ่นปู่ย่าตายาย เพิ่มขึ้นไปด้วยอีก ส่วนจะประสบผลสำเร็จแค่ไหน กลุ่มเป้าหมายใหม่ที่ขยายไปนั้นจะ success ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่นั้นคงต้องมาดูกันต่อไปในอนาคต
แต่อย่างน้อยๆ วันนี้ เบอร์1 ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า แค่คิดก่อน ทำก่อน ก็ขายก่อน สร้างยอดขายก่อน กว่าที่คู่แข่งจะตามทัน เบอร์1 ก็คงไปอีกขั้นแล้ว “แม่ก็คือแม่” จริงๆ
ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก marketeer และที่อื่นๆที่ผมอาจตกหล่น
ฝากกด like กด share กดตามติด และร่วม comment เป็นกำลังใจเล็กน้อยๆ ให้กันได้นะครับผม
โฆษณา