24 ส.ค. 2020 เวลา 05:40 • นิยาย เรื่องสั้น
คนบางคนอยู่กับสิ่งที่ไม่ดีมานานโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่า
มันทำลายชีวิต
นิทานปรัมปราของชายตาบอด
เรื่อง สุนัข เห็บ และเด็กข้างบ้าน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีสุนัขตัวเตี้ยๆ ขนปุกปุยสีน้ำตาลน่ารักตัวหนึ่ง เป็นสุนัขพเนจรไร้เจ้าของ อาศัยนอนอยู่พื้นที่ว่างๆ ของบ้านร้างแห่งหนึ่ง
ด้วยความฉลาดและน่ารัก ผู้คนมากมายจึงเอ็นดูและเล่นกับมัน รวมไปถึงหาอาหารและขนมมาฝากมันทุกวัน
เรียกได้ว่าเป็นหมาน้อยของชุมชนนั่นเอง
ทำไมถึงไม่มีคนเอามันไปเลี้ยงน่ะเหรอ
นั่นสิ คนเขียนก็ไม่รู้เหมือนกัน
แต่ก็มีเด็กข้างบ้าน ก็คือบ้านที่ติดกับบ้านร้างนั่นล่ะ ไปมาหาสู่เจ้าสุนัขและเล่นกับมันเป็นประจำ
สุนัขก็ชอบเด็กข้างบ้านและก็เล่นด้วยกันบ่อยๆ
แต่ทุกครั้งเวลาที่เด็กข้างบ้านเริ่มจับขนมันและสัมผัสได้ถึงตุ่มๆ หรืออะไรกลมๆ สักอย่าง
เจ้าสุนัขจะวิ่งหนีทันที
บางครั้งเด็กข้างบ้านก็ทัน จับเจ้าตัวกลมๆ มาบี้ และทันทีที่เจ้าสุนัขรู้ มันก็วิ่งหนีไปทันที
ตัวของเจ้าสุนัขนั้น มีเห็บมากมายมหาศาล เรียกได้ว่าจับไปตรงไหนแป๊ปเดียวก็เจอ
นี่ล่ะมั้งคนถึงไม่เอามันไปเลี้ยง
บางครั้งแม้เด็กข้างบ้านเพียงเหยียบเห็บที่เดินออกมาจากตัวสุนัขเท่านั้น
มันก็จะรีบเผ่นไปทันที
เหตุการณ์เป็นเช่นนี้ประจำ แม้ว่าเด็กชายจะให้อาหาร เล่นกับมัน หรืออะไรก็ตาม
แต่ทันทีที่ยุ่งกับเห็บ เจ้าสุนัขก็จะเผ่นทันที
"ฉันกำลังจะย้ายบ้านแล้ว ไปอยู่กับฉันไหม แต่ต้องเอาเห็บออกให้หมดนะ"
สุนัขฟัง แล้วก็เดินจากไป
ใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านร้างและเห็บมากมายที่คอยสูบเลือดจากมันต่อไป
ที่จริงจะให้บทสนทนาแบบหมาน้อยคุยกับเห็บประมาณว่าเป็นเพื่อนรักกัน
แต่สุดท้ายก็ตัดออกไป
ชีวิตเราทุกคนนั้น ครั้งหนึ่งต้องมีความสัมพันธ์เช่นนี้
และหลายคนก็ยังคงรักษามันอยู่
เสียเลือด เสียเนื้อ เสียใจ เสียเวลา
อาจจะเพราะไม่กล้าตัดทิ้ง กลัวผลกระทบภายหลัง หรือกระทั่งไม่อยากเปลี่ยนจากสิ่งเดิมๆ
ในขณะที่บางทีมีคนใหม่ๆ ความสัมพันธ์ใหม่ๆ ที่เข้ามาช่วยเหลือ แต่สุดท้ายเราก็ปฏิเสธและอยู่กับเห็บที่คอยสูบเลือดเราต่อไป
มันอาจจะผิดหรือถูก อนาคตเท่านั้นที่ตอบได้
แต่อย่างน้อยเราควรทบทวนชีวิตเรากันบ้าง
ว่ามีความสัมพันธ์ลักษณะนี้ไหม
และควรจะจัดการกับมันอย่างไรดี
Martin Zen
โฆษณา