สรุปการบรรยายหัวข้อ "The Big Move" โดยดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล วันที่ 2/9/63 โดย Csi Society
- ปี2020 ใช้เวลาแค่4เดือนในการ recover บ่งบอกถึงการใช้เม็ดเงินเท่ากับ 3-4ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการอัดเงินที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์
- ช่วงกันยายน-ตุลาคมปีนี้ ต้องระวังเนื่องจากการติดเชื้อที่มากขึ้นในยุโรปและเอเชีย การเกิด second wave ยังคงเป็นแรงกดดันตลาดทุนอยู่ นอกจากนี้ยังมีเรื่องการเลือกตั้งของสหรัฐด้วย
- คาดการณ์ว่าตัวเลขทางเศรษกิฐที่จะออกมาอาจจะไม่ดีมาก เกิดการฟื้นตัวแบบ nike โดยหางลุกศรจะยาว
- หุ้น technology ของสหรัฐทำผลตอบแทนดีกว่าหุ้น technology ของจีน
- แนะนำลดพอร์ตการลงทุนหรือเลือกลงทุนหุ้นที่มีค่าแอลฟ่าสูง
- เศรษฐกิจตอนนี้เป็น deflation โดยกลุ่มท่องเที่ยวอาจจะกลับมาก่อนกลุ่ม transport
- หลายธนาคารใช้ YCC โดยอนุญาตให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นได้โดยไม่ต้องเพิ่มดอกเบี้ย
- Trade war อาจจะกลายเป็น capital war ในอนาคต
- หลังโควิต การจ้างงานจะเปลี่ยนไปโดยพึ่ง outsourcing มากขึ้น
- จากนี้ไป ตลาดทุนไทยจะเป็นไปตามตลาดทุนระบบทุนโลก โดยจัดสรรตาม passive investment ทำให้การเลือกหุ้นหลังจากนี้ต้องเลือกแบบ bottom up
- การพัฒนาวัคซีนจะส่งผลให้หุ้นกลุ่ม cyclical sector outperform มากขึ้น
- Fund flow ของเงินออกจากไทยไปเข้าประเทศจีนกับอินเดีย และนักลงทุนเองก็มอง emerging market ที่ประเทศจีนกับประเทศอินเดีย
- Earning yield gap ยังคงต่ำอยู่ ตอนนี้อยู่ 2-3% เท่านั้น
- Small cap ถูกปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่วน big cap กับ set50 ถูกปรับตัวลดลง
- Forward PE ของ SETสูงกว่า forward PE ของ small cap
ช่วงสรุปคำถาม-คำตอบจากคนทางบ้าน
- ตอนนี้ควรถือเงินสด 30-40% โดยทองคำถือแค่ 5% โดยทองคำสามารถเข้าซื้อได้ถ้าเกิดการย่อตัวและถือว่าเป็นช่วงปลายรอบ
- Asset allocation ช่วงการเลือกตั้งสหรัฐทำให้เกิดการผันผวนในกองทุน China A-share เพราะเรื่องสงครามการค้าอาจจะถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นอีก
- ตลาดหุ้นสหรัฐไม่น่ามีโอกาสไป test low เดิมแล้วแต่จะมีความผันผวนมากๆ อาจจะดูได้จาก Wix index ประกอบซึ่งยังไม่มีสัญญาณแบบนั้น
- Synthetc ETF คือ การจัดพอร์ตตาม ETF ตามกองที่เราไปดูก็ได้
- SET ไม่น่ามีโอกาสทำ new low แล้ว
- สกุลเงิน dollar ช่วงสั้นๆจะมีรีบาวด์ ส่วนระยะยาวอาจจะต้องดูหลังจากการเลือกตั้ง ส่วนค่าเงินบาท จะมีช่วงอ่อนค่าลงจาก politic ที่ยังน่ากังวลอยู่ แต่อย่างไรก็ตามในช่วงโควิตนี้ก็ถือว่าสกุลเงินบาทยังมีเสถียรภาพอยู่ได้
- ปลาย q3-4 ให้ถือเงินสดเยอะหน่อย เพื่อเตรียมช้อนซื้อ Big cap แต่จะมีแรงต้านมาก
- ถ้าแบงค์สามารถรับมือเรื่อง NPL ได้และสามารถกลับมาจ่ายเงินปันผลได้ ตอนนั้นหุ้นกลุ่มแบงค์จะกลับมา outperform อีกที
- ถ้า Biden ชนะการเลือกตั้ง จะมีการเพิ่มภาษีของบริษัทนิติบุคคล ซึ่งมีโอกาสที่ NASDAQ จะเกิดการ correction ลงมาเพราะมีการเก็บภาษีเพิ่มขึ้น
- ค่าเงินบาทพอพ้นไตรมาส4 ไปแล้ว คิดว่าไม่น่าจะอ่อนมากกว่านี้
- ตราสารหนี้สามารถลงทุนได้ แต่ให้ดูเป็นรายบริษัท
- Fund flow ที่่เข้าอินเดีย คาดว่าจะเข้ากลุ่ม technology
- การเกิด panic sell จะเกิดต่อเมื่อมีภาวะที่นักลงทุนหรือตลาดไม่รู้
- Crypto เป็น alternative investment ชนิดหนึ่ง ซึ่งอ.แนะนำว่าควรมี alternative investment ติดพอร์ต 1-5%
ขอขอบคุณคลิปการบรรยายจากเพจ Sci Society ครับ
สามารถชมคลิปการบรรยายตอนอื่นๆได้จาก https://www.blockdit.com/series/5f3612cd3aca810caa8ea31f
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
