8 ก.ย. 2020 เวลา 14:53 • หุ้น & เศรษฐกิจ
⚠️ [BREAKING] ⚠️ #ตลาดหุ้นสหรัฐยังคงโดนเทขายอย่างต่อเนื่อง นำโดยดัชนี Nasdaq -4% และทางด้าน Dow Jones -2% หลังนักลงทุนยังกลัวฟองสบู่หุ้นเทคโนโลยีแตก และความตึงเครียดรหว่างสหรัฐและจีนที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆก่อนการเลือกตั้ง
ตั้งคำถามให้นักลงทุนทั่วโลกคิดว่า #ถึงเวลาฟองสบู่หุ้นเทคโนโลยีแตกแล้วหรือ ?!?
เปิดตลาดมาหลังจากวันหยุดยาว Labor Day ที่สหรัฐ ตลาดหุ้นสหรัฐก็ลงต่อไม่รอแล้วนะ (#น่าเป็นห่วงตลาดไทย SET ว่าจะโดนกดดันเพิ่มต่อแค่ไหน หลังวันนี้ปิดตัวต่ำกว่า 1,300 จุดไปแล้ว)
📉 ทางด้านดัชนีสหรัฐต่างๆ เปิดตลาดดังนี้
🇺🇸 ดัชนี Dow Jones -520 จุด (-1.9%)
🇺🇸 ดัชนี S&P500 -67 จุด (-2.0%)
🇺🇸 ดัชนี Nasdaq -370 จุด (-3.3%)
เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งเป็นหุ้นที่ดีดขึ้นมาเยอะที่สุดท่ามกลางวิกฤตไวรัสโควิดนี้ เงินลงทุนยังคงเวียนไหลออกอย่างต่อเนื่องมากที่สุดเช่นเดียวกัน โดยหุ้นในกลุ่มเทคใหญ่ๆนั้นยังคงโดนเทขายในวันนี้ รวมไปถึง Tesla ที่ -16% ในคืนนี้ด้วย (เดี๋ยวจะเขียนบทความแยกว่าทำไมนี่ถึงเป็นโอกาสที่ดีในการเพิ่มการลงทุนระยะยาวในหุ้น Tesla ต่อไปนะครับ)
🛁 #ถึงเวลาฟองสบู่หุ้นเทคโนโลยีแตกแล้วหรือ ? เหมือนครั้ง Dot.com Crisis ในปี 2000
เชื่อว่าการปรับฐานในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในครั้งนี้นั้นคงยังไม่จบง่ายๆแน่ เพราะถ้าเทียบกับราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นมาตลอด 5 เดือนที่ผ่านมากว่า +70% นั้น การเทขาย -10% ในช่วง 3 วันที่ผ่านมานั้นยังถือว่าน้อยมากๆ ทำให้ดัชนีเทคน่าจะมีความผันผวนสูงต่อไปอย่างต่อเนื่อง
แต่ถ้าถามว่าฟองสบู่หุ้นเทคโนโลยีเหมือนครั้ง Dot.com Crisis ในปี 2000 หรือมไม่นั้น #คงต้องตอบว่าครั้งนี้คงไม่เหมือนกัน ฟองสบู่หุ้นเทคโนโลยีในครั้งนี้นั้นคงไม่แตกด้วยตัวมันเองง่าย ถ้าจะแตกก็ต้องโดนจุดฉนวนมาจากวิกฤตเศรษฐกิจจริงๆ (ซึ่งก็อาจเกิดขึ้นได้หาก FED ไม่สามารถพยุงตลาดไว้ได้)
ถึงแม้นักลงทุนจะใส่ความคาดหวังในการเติบโตต่อหุ้นเทคโนโลยีในครั้งนี้มากคล้ายๆกับในช่วงวิกฤต Dot.com แต่ครั้งนี้มีความแตกต่างที่ชัดเจนอยู่ 2 อย่างก็คือ
1) หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในครั้งนี้ #มีความสามารถในการสร้างรายได้ ได้จริงๆ
ต่างกับหุ้นเทคในสมัยก่อนหลายๆบริษัทที่ขายแต่ความหวังและอนาคต ในขณะที่เทคโนโลยีกับการใช้ชีวิตของคน (Lifestyle) ยังไม่ถึงจุดที่จะเหมาะในการพัฒนาไปต่อ ทำให้ P/E Ratio ของหุ้นเทคในวันนี้ถึงแม้ว่าจะสูงมาก แต่ก็ยังน้อยกว่าในช่วงวิกฤต Dot.com อยู่เยอะ และบริษัทเทคปัจจุบันเหล่านี้ก็ยังคงรายงานผลกำไรที่โตขึ้นเรื่อยๆได้จริงๆ
2) #สภาพคล่องที่ยังอัดฉีดจาก FED อย่างต่อเนื่อง
อย่างที่กล่าวไปว่า ถึงแม้หุ้นเทคอาจจะฟองสบู่อยู่ในขณะนี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าฟองสบู่จะลอยต่อไปเรื่อยๆไม่ได้ สิ่งที่ต่างกันในปีนี้คือตลาดกำลังเจอสภาพคล่องจากการลดดอกเบี้ยและการพิมพ์เงินของ FED แบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ต่างจางช่วงวิกฤต Dot.com ที่ดอกเบี้ยนโยบายยังอยู่ในขาขึ้นและสูงถึง 6% ด้วยก่อนจะเกิดวิกฤตขึ้น
เพราะฉะนั้นตราบใดที่สภาพคล่องยังสูง เศรษฐกิจโดยรวมยังไปต่อได้ หุ้นเทคยังคงทำกำไรได้อยู่ ทางเราก็มองว่า #คงยังไม่ถึงเวลาที่ฟองสบู่หุ้นเทคโนโลยีจะแตก
และหากเรามองไปอนาคตอันไกล จริงๆแล้วหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีก็จะยังมีความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้นได้มากกว่าหุ้นกลุ่มธุรกิจดั้งเดิมทำให้ยังคงเหมาะต่อการลงทุนในระยะยาวอยู่
📌 ปล. หลังจากเขียนบทความเสร็จตลาดต่างๆได้ดีดตัวขึ้นเล็กน้อยแล้วนะครับ เดี๋ยวจะลิ้งค์ตลาดอัพเดทให้ในคอมเม้นท์
🙏 ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์ ขอบคุณมากๆครับ 😊
#ทันโลกกับTraderKP
โฆษณา