13 ต.ค. 2020 เวลา 10:30 • ข่าว
#อันวาร์เข้าเฝ้ากษัตริย์แห่งมาเลเซียขอเป็นนายกฯ
#การรอคอยที่ไม่เห็นจุดหมายกับพลังใจของผู้ชายคนหนึ่ง
เครดิตภาพ Freemalaysia Today
ข่าวใหญ่ที่มาเลเซียวันนี้ ผู้นำฝ่ายค้าน นายอันวาร์
อิบราฮิม ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชาธิบดี อับดุลละฮ์ รีอายาตุดดิน อัล-มุสตาฟา บิลละฮ์ ชะฮ์ หรือ กษัตริย์แห่งมาเลเซียองค์ปัจจุบัน เพื่อถวายเอกสารรายชื่อ สส. ในสภาทั้งหมด ที่จะสนับสนุนเขาให้เป็นนายกรัฐมนตรี และจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่
นายอัลวาร์ได้เคลมว่า เขารวบรวมเสียงข้างมากในสภาได้แล้ว และมีสิทธิ์ที่จะจัดตั้งรัฐบาลแทน นายมูห์ยิดดิน ยัสซิน นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน
เรื่องราวการเมืองของมาเลเซียในปีนี้ ก็วุ่นวายพอๆกับสถานการณ์ Covid-19 ในประเทศ ที่ยังหาบทจบไม่ลงตัว หลังจากที่ นายมูห์ยิดดิน ยัสซิน กลายเป็นม้ามืด ที่ได้เข้าป้ายเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ หลังจากที่เกิดความวุ่นวายภายในรัฐบาลตั้งแต่ท่านป๋า มหาเธร์ มูฮัมหมัด ที่ตัดสินใจยื่นใบลาออกเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
โดยที่นายมูห์ยิดดิน ยัสซิน ได้รับการแต่งตั้งจากสมเด็จพระราชาธิบดี ที่ใช้พระราชอำนาจตามมาตรา 43 ของรัฐธรรมนูญมาเลเซีย ที่กษัตริย์แห่งมาเลเซียจะแต่งตั้งใครก็ตาม ที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต่อเมื่อแจงหลักฐานให้ทรงมั่นใจว่ามีเสียงสนับสนุนข้างมากอยู่ในสภาเรียบร้อยแล้ว
แต่รัฐบาลชุดใหม่ของนายมูห์ยิดดิน ยัสซิน ถึงจะมีเสียงข้างมาก แต่ก็ปริ่มน้ำมากๆ หลังจากที่เปิดสภาได้อีกครั้งในเดือนพฤษภาคม เพื่อนับเสียงสนับสนุนจริงๆ รัฐบาลของนาย มูห์ยิดดิน มีเสียงสนับสนุนเพียง 113 เสียง จากจำนวนสส. ในสภาทั้งหมด 222 เสียง เกินกึ่งหนึ่งมาแค่ 2 เสียงเท่านั้น เป็นรัฐบาลเสียงข้างมากก็จริง แต่เป็นเสียงข้างมากที่มีจำนวนน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองมาเลเซียทีเดียว
ถือเป็นสภาที่เปราะบางมากๆ ที่หลายคนคาดการณ์ว่า รัฐบาลของนายมูห์ยิดดิน ไม่น่าจะอยู่ได้ยาว อาจจะต้องยุบสภา เลือกตั้งกันใหม่ในเร็วๆนี้
แล้วก็เป็นเช่นนั้น เมื่อนายอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำฝ่ายค้านจากพรรค PKR หนี่งในพรรคร่วมรัฐบาลเดิมในสมัยท่านป๋า มหาเธร์ มูฮัมหมัด ก็ประกาศว่า ตอนนี้เขาได้รวบรวมสมาชิกเสียงข้างมากในสภาได้แล้ว และต้องการขอพระราชอนุญาตให้เข้าเฝ้าเพื่อรับรองให้เขาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่แทนนาย มูห์ยิดดิน ยัสซิน
แต่ทั้งนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซีย ก็ไม่ทรงอนุญาตให้นายอันวาร์ เข้าเฝ้าในทันที จนกว่าจะมีหลักฐาน และรายชื่อ สส. ในสภาที่จะสนับสนุนจริงมาประกอบการพินิจฉัยเสียก่อน
ในวันนี้ อันวาร์ อิบราฮิม จึงได้นำเอกสารรายชื่อ สส. ที่เขาเคลมว่าจะสนับสนุนเขาทั้งหมด 120 เสียงมาเข้าเฝ้า ถวายรายงานแก่กษัตริย์แห่งมาเลเซีย และได้เข้าเฝ้าอยู่นาน 1 ชั่วโมง ก่อนที่นายอันวาร์จะเดินทางกลับ
โดยที่นายอันวาร์ได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า ได้ยื่นหลักฐานรายชื่อทุกอย่างไปหมดแล้ว หลังจากนี้ก็สุดแล้วแต่ทางสมเด็จพระราชาธิบดีจะทรงเห็นสมควรใช้พระราชอำนาจตามมาตรา 43 ตามรัฐธรรมนูญต่อไป โดยที่นายอันวาร์ ไม่ได้เปิดเผยว่า สส. จำนวน 120 เสียง ที่จะสนับสนุนเขานั้นมีใครบ้าง
แต่หากกษัตริย์แห่งมาเลเซีย จะทรงมั่นใจ ให้โอกาสนายอันวาร์ อิบราฮิม สักครั้งในชีวิตของลูกผู้ชายสายการเมืองคนหนึ่ง ที่รอคอยโอกาสนี้มานานกว่า 20 ปี ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำมาเลเซีย ก็สามารถบันทึกในประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของการเมืองมาเลเซียได้เลยทีเดียว
นาย อันวาร์ อิบราฮิม เคยเป็นนักการเมืองดาวรุ่ง ที่เป็นหนึ่งในลูกศิษย์คนสำคัญของท่านป๋า มหาเธร์ มูฮัมหมัด ที่มีฐานเสียงสนับสนุนจากชาวมาเลย์จำนวนไม่น้อย
แต่เขามาขัดแย้งกับท่านป๋ามหาเธร์ ในปี 1998 และถูกปลดออกจากตำแหน่งฟ้าผ่า แถมพ่วงมาด้วยข้อหาคอร์รัปชั่น และ มีเพศสัมพันธ์วิตถารกับผู้ชายด้วยกัน
นายอันวาร์ถูกตัดสินจำคุกด้วยข้อหาคอร์รัปชั่น 6 ปี แต่ในข้อหาการมีเพศสัมพันธ์วิตถารนั้น ถูกตัดสินให้จำคุกนานถึง 9 ปี!
และหลายคนเชื่อว่า ข้อหาเรื่องความสัมพันธ์ทางเพศ เป็นเรื่องการเมือง และถูกจัดฉาก ซึ่งผู้ต้องสงสัยในการบงการเบอร์ 1 หนีไม่พ้น ท่านป๋า มหาเธร์ นักฆ่าแห่งแหลมมลายู ของเรานั่นเอง
หลังจากต้องจำคุกนานเกือบ 6 ปี เขาก็ได้รับการปล่อยตัว แล้วก็ตัดสินใจกลับมาเล่นการเมืองอีกครั้ง ในปี 2008 ซึ่งฐานเสียงของเขาก็มาเต็มมาก พรรคของเขากวาดที่นั่งได้ถึง 1 ใน 3 ของสภา และเป็นผู้นำฝ่ายค้านอย่างเต็มตัว
แต่จู่ๆ ก็มีคดีขุดเก่าขึ้นมาใหม่ ว่านายอันวาร์ กระทำผิดในคดีมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกันขึ้นจนได้ ที่ทำให้นายอันวาร์ ต้องมาขึ้นศาล กับเรื่องเดิมๆ ตามมาหลอกหลอนอีกครั้งอยู่นานหลายปี ก่อนที่ศาลจะตัดสินยกฟ้องเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ
เส้นทางการเมืองของนายอันวาร์ ไม่เคยง่าย กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ แต่ยังไปไม่ถึงสุดทางของตำแหน่งทางการเมืองเสียที ซึ่งท่านป๋ามหาเธร์ นักฆ่าล้างศิษย์ ก็มีส่วนด้วยเหมือนกัน
และด้วยสังคมมุสลิมอันเข้มข้นในมาเลเซีย และมาตรา 43 ที่ต้องผ่านวินิจฉัยของผู้ปกครองสูงสุดของรัฐ ก็ไม่รู้ว่าฝันไกลของอันวาร์ จะไปได้ถึงเก้าอี้นายกฯสักครั้งในชีวิตหรือไม่ ก็ต้องมาติดตามกันนะคะ
เครดิตภาพ FT
แหล่งข้อมูล
โฆษณา