19 ต.ค. 2020 เวลา 03:30 • กีฬา
#MainStand : การเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อประชาธิปไตย กำลังเป็นประเด็นที่สนใจของประชาคมโลก หลากหลายประเทศมีขบวนการเรียกร้องเสรีภาพ ไม่ว่าจะเป็น เบราลุส, ฮ่องกง, ไต้หวัน รวมถึง ไทย
แนวทางการชุมนุมแบบสันติวิธี กลายเป็น ทางเลือกหลักสำหรับการเคลื่อนไหวในยุคปัจจุบัน ซึ่งมีวิธีการมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การรวมตัวกดดันรัฐบาล, ล่ารายชื่อเรียกร้องความเปลี่ยนแปลง, การกดดันทางเศรษฐกิจ, นัดรวมตัวหยุดงาน หรือแนวทางใหม่ที่ได้รับความนิยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คือ การเคลื่อนไหวผ่านพื้นที่โซเชียลมีเดีย
ในหนังสือ “จากเผด็จการสู่ประชาธิปไตย แผนการสู่อิสรภาพ ” ของ ยีน ชาร์ป (Gene Sharp) นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการชุมนุมแบบสันติวิธี ได้นำเสนอรูปแบบการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยและล้มล้างระบอบเผด็จการ โดยปราศจากความรุนแรงไว้มากถึง 198 วิธี
หนึ่งในวิธีที่ ยีน ชาร์ป เสนอ คือ การไม่ให้ความร่วมมือและระงับการกิจกรรมกีฬาในประเทศ ที่นักวิชาการชาวอเมริกัน มองว่าเป็นอีกรูปแบบ ที่สามารถสร้างความกดดันแก่สังคม และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงท้าทายขนบของชาติอีกด้วย
แม้จะมีคำพูดสวยหรูที่ว่า “กีฬาไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับการเมือง” แต่นี่คือความเชื่อที่ผิด ในความเป็นจริงแล้ว กีฬามีส่วนร่วมกับการเมืองมาตลอด
ในหลายประเทศ กีฬากลายเป็นเครื่องมือสำคัญ ในการเรียกร้องประชาธิปไตย อาทิ เกาหลีใต้ และบราซิล เคยใช้เกมกีฬา เป็นพื้นที่สร้างประชาธิปไตยอย่างยั่งยืน ขณะที่ปัจจุบัน หลายประเทศยังคงใช้วงการนี้ ในการสนับสนุนเสรีภาพ ความเท่าเทียม และต่อต้านเผด็จการ ดังที่เคยเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา หรือเยอรมัน
กีฬาจึงเป็นมิตรที่ดีของประชาธิปไตย อย่างไรก็ตาม ในหลาย ๆ ชาติ โดยเฉพาะจากประเทศโลกที่สาม กีฬากลับกลายเป็นเพื่อนของเผด็จการ และไม่ได้สนับสนุนการสร้างประชาธิปไตยอย่างที่ควรจะเป็น
ตลอดช่วงชีวิตของ ยีน ชาร์ป เขาเคยเดินทางไปทั่วโลก ทั้งในพื้นที่ยุโรปตะวันออก, ทวีปแอฟริกา รวมถึงเอเชียนตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อมองหาแนวทางการต่อสู้เพื่อสร้างประชาธิปไตยอย่างสันติวิธีให้ได้มากที่สุด
เขาให้ความสำคัญกับการต่อต้านทางสังคม เพื่อสร้างความเสียหายที่ไม่ใช่ทางกายภาพ กับรัฐบาลเผด็จการ และหนึ่งในนั้นคือการบอยคอตเกมกีฬาในประเทศ
การไม่ให้ความร่วมมือกับกิจกรรมกีฬา คือ หนึ่งในรูปแบบการเคลื่อนไหว ที่ยีน ชาร์ปคิดว่า สามารถแสดงให้ผู้มีอิทธิพล ทั้งทางการเมือง และเศรษฐกิจได้เห็นว่า ประชาชนมีการขัดขืน และไม่สนับสนุนการมีอำนาจอยู่ของรัฐบาล
โดยเฉพาะในกรณีที่สถาบันด้านกีฬา มีส่วนได้ส่วนเสียกับการมีอยู่ของระบอบเผด็จการ การไม่ให้ความร่วมมือ กับองค์กรกีฬา ไม่ได้แตกต่างอะไรกับการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ ไม่ซื้อสินค้าของบริษัทที่ให้การสนับสนุนระบบของการใช้อำนาจอยุติธรรม เพื่อตัดรายได้ และสร้างความเสียหายทางธุรกิจ ให้กับหน่วยงานด้านกีฬา
การไม่ซื้อสินค้า ไม่รับชมเกมการแข่งขัน ไม่ว่าจะในสนามแข่งขัน หรือผ่านการถ่ายทอดสด จึงเป็นวิธีง่ายๆ ที่แสดงให้เห็นถึงการคว่ำบาตร เพื่อกดดันองค์กรต่าง ๆ ที่สนับสนุนเผด็จการ ให้หันมาร่วมสร้างประชาธิปไตย หรือจะยอมเป็นมิตรกับระบอบอำนาจนิยมต่อไป และถูกต่อต้านจากประชาชนไปตลอดกาล
ทว่าการจะแบนอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นวงการกีฬา หรือแวดวงอื่น ต้องอาศัยจำนวนคนหมู่มากร่วมมือกัน เป็นเวลาต่อเนื่องยาวนาน เพื่อก่อให้เกิดผลกระทบจริง ต่อองค์กรที่สนับสนุนเผด็จการ และต่อต้านประชาธิปไตย
สำหรับ ยีน ชาร์ป เขามองว่า “การต่อสู้โดยไม่ใช่ความรุนแรง มีความแข็งแกร่งในตัวเองอยู่ทุกรูปแบบ” หากได้รับความร่วมมือที่ดีจากประชาชน และมีการดำเนินการอย่างเป็นแบบแผน ย่อมสามารถบรรลุเป้าหมายสำคัญ นั่นคือ บีบบังคับให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม
การขีนต้านในทุกรูปแบบ ก่อให้เกิดผลเสียต่อผู้มีอำนาจ และช่วยบีบบังคับให้พวกเขาต้องจำยอมต่อกระบวนการเรียกร้องประชาธิปไตย หันหลังให้กับแนวคิดเผด็จการ
สิ่งที่ตามมาคือ รัฐบาลเผด็จการจะไร้ทางเลือก ประสิทธิภาพความสามารถในการบีบบังคับ ใช้อำนาจต่อประชาชนลดลง เพราะองค์กรต่างๆ ต้องยอมเลือกข้างประชาชน เพื่อไม่ให้หน่วยงานล่มสลาย
ทั้งนี้ การเเบนกิจกรรมกีฬาในประเทศ เป็นเพียงทางเลือกหนึ่งในการต่อสู้กับเผด็จการ ยังมีแนวทางอีกมากมายแบบสันติวิธี ที่จะช่วยสร้างประชาธิปไตย และทำลายอำนาจร้ายให้หมดไป ไม่ว่าจะเป็น การแสดงละคร, การเล่นดนตรี, การงดกิจกรรมทางเพศ, การนัดหยุดเรียนและหยุดงาน, การถอนเงินจากธนาคาร เป็นต้น
การแบนกีฬาในประเทศ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ผู้สนับสนุนแนวคิดประชาธิปไตย สามารถทำได้ในการล้มล้างระบอบเผด็จการ หากผู้รักเสรีภาพมองเห็นว่าแนวทางนี้ สามารถช่วยสร้างประชาธิปไตยอย่างยั่งยืนได้ ก็สามารถเริ่มต้นทำได้ในทันที และเป็นวิธีที่สันติ ไร้ความรุนแรงแบบร้อยเปอร์เซนต์
หรือหากไม่เห็นด้วย ยังมีวิธีอีกมากมาย อย่างน้อย 198 วิธี ที่ยีน ชาร์ป เสนอแนะ ในการต่อสู้กับระบอบเผด็จการ เพื่อสร้างประชาธิปไตยถาวร
“แนวคิดและวิธีการในหนังสือเล่มนี้ ทำให้อำนาจของผู้นำเผด็จการทั่วโลกเสื่อมสลายลงมาแล้ว” The New York Times กล่าวถึงแนวทางของการต้านอำนาจนิยมอย่างสันติของยีน ชาร์ป และการแบนกีฬาในประเทศ สามารถเป็นทางเลือกที่ก่อให้เกิดประชาธิปไตยได้ หากว่าคุณต้องการ
เรื่องโดย ณัฐนันท์ จันทร์ขวาง
โฆษณา