28 ต.ค. 2020 เวลา 01:00 • การตลาด
การตลาดที่จะเปลี่ยนไปตลอดกาลที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้
ตอนที่ 2 การเปลี่ยนแปลงที่ไม่เหมือนเดิม
การทำการตลาดในอดีตจนถึงปัจจุบัน (พ.ศ. 2563) ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายจะทำการคาดการณ์ล่วงหน้าว่าผู้บริโภคต้องการอะไร และก็มีการทำการผลิตสินค้าออกมาจำหน่ายในแบบที่ผู้บริโภคต้องการแต่ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการ เช่น โทรศัพท์มือถือไร้ปุ่ม โทรศัพท์ที่สามารถใช้ทำงานเสมือนทำงานในบริษัทเลย หรือแม้แต่การใช้โดรนขนส่งคนและสินค้า ซึ่งลูกค้าไม่เคยรู้ว่าตัวเองต้องการมาก่อน แต่เกิดความต้องการหลังจากที่มีการนำเสนอเข้าสู่ตลาด
ตอนนี้หากเราสังเกตดูดีๆว่าทำไมสินค้าจากประเทศจีนจึงมีราคาถูกและมีคุณภาพดีขึ้นเรื่อยๆ มีการออกแบบที่ตรงใจผู้บริโภคมากขึ้น ทำไมหลายค่ายที่เป็น Platform Online Ecommerce สามารถระบุว่าสามารถส่งสินค้าให้ลูกค้าภายในไม่เกิน 1-2 วัน บางครั้งการันตีส่งมาจากต่างประเทศภายใน 3 วัน อนาคตเชื่อว่าอาจจะสามารถส่งวันต่อวันได้เลย
1
ก่อนหน้านี้ “ยุคใหม่ฯ” เชื่อว่ามาจากการคมนาคมที่รวดเร็วขึ้น การลดขั้นตอนทางราชการ ความเชี่ยวชาญของผู้นำเข้า แต่เมื่อได้คลุกคลีเรื่องการนำเข้าส่งออกแล้ว ก็พบว่าดีขึ้นจริงแต่ไม่ถึงขนาดที่จะสามารถลดระยะเวลาลงได้ในแบบที่สั่งสินค้าวันนี้ส่งได้พรุ่งนี้เลยในรายการส่วนมาก อาจจะมีบางรายการเช่นอาหารสดจากต่างประเทศที่สั่งได้ภายในวันเดียว แต่นั่นเกิดจากการวางแผนสั่งมาก่อนล่วงหน้า ไม่ใช่สั่งซื้อตอนนั้นแล้วได้เลย
จากข้อสังเกตข้างต้น “ยุคใหม่ฯ” ได้เห็นความจริงที่เกิดขึ้นว่าทำไมราคาสินค้าจึงถูกลงมาก ส่งมอบรวดเร็วขึ้น คุณภาพดีขึ้น ทั้งที่ต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น นั่นคือผู้ผลิตสามารถทำสิ่งที่ “ยุคใหม่ฯ” เคยนำเสนอหลักการนี้กับผู้บริหารบริษัทที่เคยทำงานอยู่ ซึ่งมั่นใจว่าเขาคิดของเขาได้เอง พอดีตรงกับสิ่งที่เคยทำไว้ นั่นคือ “ผลิตได้ตามจำนวนที่ลูกค้าต้องการ ไม่มีสินค้าคงเหลือ ส่งมอบตรงเวลา”
และพื้นฐานที่จะทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นมาก็คือข้อมูลความต้องการของลูกค้านั่นเอง ในอดีตเราต้องออกไปหาข้อมูล ปัจจุบันลูกค้าเป็นคนมาให้ข้อมูลเองผ่าน Social Media ต่างๆ ที่เราคุ้นเคยก็เช่น Face Book, Instagram, Line, What’s app แต่ความเป็นจริงแล้วมีรูปแบบมากมายที่สามารถเก็บข้อมูลของเราไว้เพื่อมาวิเคราะห์ได้ ไม่ว่าจะเป็นเกมส์ การเล่นโปรแกรมแต่งภาพ การตอบคำถามต่างๆ ไม่จำเป็นต้องเข้าไปกรอกข้อมูลเขาก็วิเคราะห์เราได้
เพื่อให้มีความเข้าใจเพิ่มขึ้นว่าทำไมต้นทุนสินค้าถึงถูกลง ทั้งที่ต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายต่างๆเพิ่มขึ้น การประกอบกิจการจะมีต้นทุนหลักๆคือ
1. ต้นทุนการจัดซื้อสินค้า + ต้นทุนการผลิต
2. ต้นทุนค่าจัดเก็บสินค้า
3. ต้นทุนค่าการกระจายสินค้าสู่ผู้บริโภค ทั้งเป็นต้นทุนการตลาด ต้นทุนการจัดจำหน่าย ช่องทางการจัดจำหน่าย
4. ต้นทุนการเงินที่ต้องนำมาลงทุนจากการผลิตเผื่อ
5. ต้นทุนค่าเสียโอกาสจากการผลิตขาด
6. ต้นทุนหรือเงินจมจากที่ผลิตสินค้าแล้วขายได้น้อยกว่าที่ประมาณการณ์
ต้นทุนทั้งหมดข้างต้นจะหายไปเร็วๆนี้เกือบหมด อาจจะมีต้นทุนบางส่วนที่คงอยู่แต่ก็ลดลงมาก เช่น ต้นทุนการขนส่ง และต้นทุนการจัดซื้อ เป็นต้น รูปแบบการขายก็จะเป็นการนำเสนอผ่านสื่อต่างๆ การทำคลิปวีดีโอ การทำ Content
ต้นทุนที่หายไปเพราะผู้จัดจำหน่ายไม่ต้องจัดเก็บสินค้า ไม่ต้องมีเงินจม ไม่ต้องใช้ต้นทุนในการทำการตลาด ไม่ต้องมีนักการตลาด แต่มีคนช่วยรวบรวมข้อมูลแทน บางทีอาจจะไม่จำเป็นด้วยซ้ำไป สามารถรู้ได้ว่าลูกค้าต้องการช่วงไหนเวลาใดปริมาณเท่าไร ผลิตเท่าไรขายเท่านั้น จากข้อมูลที่เราเรียกว่า Big Data น่าจะเป็น Huge Data มากกว่าด้วยซ้ำไป
แล้วจะเกิดผลกระทบอะไรบ้าง “ยุคใหม่ฯ” ขอแยกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือผลกระทบกับตัวเราและผลกระทบต่อสังคมและการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คน
ตัวเราจะได้รับสินค้าที่ราคาถูกลง ตรงกับตวามต้องการจริงๆ ทั้งปริมาณ คุณภาพและเวลาที่ต้องการใช้ โดยที่บางครั้งเรายังไม่รู้เลยว่าเราต้องการด้วยซ้ำไป แต่ระบบวิเคราะห์รู้ก่อนที่เราจะรู้เสียอีก ความเป็นส่วนตัวจะเสียไป ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบด้านร้ายบ้างหากผู้ประสงค์จะแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนมากๆ ใช้ข้อมูลนี้มาบิดเบือนความต้องการของเรา
ส่วนในเรื่องของผลกระทบต่อสังคมและการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คน ที่บางท่านอาจจะกังวลว่าร้านค้าอาจจะหายไป ห้างสรรพสินค้าจะไม่มีแล้ว เรื่องนี้บอกได้เลยว่าไม่มีทางเกิดขึ้นได้แน่นอน เพียงแต่รูปแบบจะเปลี่ยนไปจากเดิมที่นำสินค้าเข้ามาวางจำหน่าย อาจจะเป็นสถานที่แสดงสินค้า สถานที่พบประของลูกค้ามากกว่า
ที่ “ยุคใหม่ฯ” มั่นใจว่าไม่มีทางเกิดขึ้นได้แน่นอน นั่นก็เพราะมนุษย์ทุกคนยังต้องการการสัมผัส ที่เป็นหนึ่งในประสาทสัมผัสที่จำเป็น แม้ว่าจะเป็นการพัฒนาการระบบ AI ให้มีการสัมผัสได้เสมือนของจริงยิ่งขึ้น แต่ยากหรือแทบไม่มีโอกาสมาทดแทนการสัมผัสของจริงได้ เพราะเป็นเรื่องของจิตใจหรือจิตใต้สำนึกของคนเรา ที่ AI ไม่สามารถทำแทนได้ (เหมือนแฟน...ว่าไปนั่น)
ร้านค้าปลีกทั่วไปก็จะยังไม่หายไป แต่จะกลายเป็นศูนย์กระจายหรือที่รับสินค้าของลูกค้าแทน
โรงงานผลิตขนาดใหญ่ๆก็มีความจำเป็นน้อยลง จากเป็นการผลิตจากศูนย์กลาง (Centralized) จะกลายมาเป็นการผลิตตามความต้องการและส่งมอบได้อย่างรวดเร็วแทน (Decentralized)จะกระจายอยู่ทั่วไปที่มีชุมชนตั้งอยู่ ไม่ใช่สินค้าที่ถูกที่สุดจะขายได้ แต่จะเป็นผู้ผลิตที่เป็นสามารถผลิตตรงกับกับความต้องการของลูกค้า (Customization) อย่างรวดเร็วและแม่นยำ (Accurate)
หายแปลกใจไหมว่าทำไมหลายๆค่ายที่ทำธุรกิจแบบ Ecommerce ต่างออกมาบอกว่า ธุรกิจขาดทุนต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว บางรายอ้างว่าทำเพื่อลูกค้าแม้ว่าจะขาดทุนแต่ก็ยังทำต่อ แต่ที่จริงแล้วก็คือการลงทุนในการเก็บรวมรวมข้อมูลให้มากที่สุด เพราะเราจะเห็นได้จากว่าการคาดการณ์ (Forecast) ในปัจจุบันนี้แม่นยำขึ้นเรื่อยๆ
โลกยังไงก็เปลี่ยนแน่นอน เราจะเปลี่ยนก่อนโลกจะเปลี่ยนหรือรอให้ถูกบังคับให้เปลี่ยน เราคือผู้เลือก
ข้อมูลมุมมองการตลาดที่ทันสมัยจากประสบการณ์จริง อ่านได้ใน Blockdit ยุคใหม่การตลาดของไทย
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
Instagram: Modernizationmarketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
Face Book Page: Thailand Modern Marketing
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
โฆษณา