5 ธ.ค. 2020 เวลา 05:14 • การเมือง
ทำไม ส.ว. อเมริกาถึงประกาศตัวหนุนม็อบเยาวชนไทย?
เมื่อวานมีวุฒิสมาชิกกลุ่มหนึ่งจากพรรค Democrat อาทิ ส.ว. Tammy Duckworth, ส.ว. Bob Menendez, ส.ว. Dick Durbin เป็นต้น ออกมาประกาศตัวว่าพวกเขานับสนุนขบวนการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยภายในไทย (ซึ่งก็คือ ม็อบเยาวชน 3 นิ้วที่กำลังต่อต้านรัฐบาลอยู่ในขณะนี้นั่นแหละ)
อันนี้ไม่อยากให้ตีโพยตีพายไปว่าสหรัฐอเมริกาพยายามจะยุ่งเรื่องของไทย หรือ แทรกแซงการเมืองไทยอะไรนะครับ มันไกลไป และไม่เป็นเหตุเป็นผล เนื่องจาก ส.ว. พวกนี้ เป็นแค่ ส.ว. ในสภาคองเกรสเท่านั้น ไม่ได้มีตำแหน่งบริหารในรัฐบาล การแสดงความคิดเห็นจึงไม่สามารถ Reflect หรือสะท้อนแนวคิดของรัฐบาลได้
แม้ว่า ส.ว. พวกนี้จะสังกัดอยู่ในพรรคว่าที่รัฐบาลก็ตาม ถ้ารัฐบาลยังไม่ไฟเขียว หรือไม่แสดงออกถึงท่าทีเอนเอียงไปตามข้อเสนอ ข้อเรียกร้องจากกลุ่มดังกล่าว มันก็จะเป็นแค่การแสดงจุดยืน หรือการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองรูปแบบหนึ่งของนักการเมืองคอก/มุ้งหนึ่งในพรรค Democrat เท่านั้น
2
อย่าลืมว่าพรรค Democrat นี้มีมุ้งการเมืองอยู่หลายกลุ่มทั้ง ถ้าแบ่งเป็นขั้วก็จะมีทั้งขั้วอนุรักษ์นิยม ขั้วเสรีนิยม ขั้วสังคมนิยม ขั้วโมเดอร์เรท ฉะนั้นการแสดงความคิดเห็นเมื่อวันก่อนนี้ของ ส.ว. กลุ่มดังกล่าวก็มีค่าเหมือนกับการแสดงความคิดเห็นผ่านมุ้ง ผ่านกลุ่มการเมืองที่มีความคิดเห็นตรงกันเท่านั้น รัฐบาลของ Biden ในอนาคตมีสิทธิจะฟังหรือไม่ฟังก็ได้
ซึ่งถ้าติดตามข่าวที่อเมริกา จะเห็นว่าตลอดทั้งปี ทุกปีจะมี ส.ส. หรือ ส.ว. กลุ่มที่มีความคิดเห็นคล้ายกันจะออกมาประกาศอ้างมติลักษณะคล้ายๆกันนี้อยู่ตลอด ทั้งกรณีรัฐบาลจีนกระทำต่อชาวอุยกูร์ กรณีการประท้วงในฮ่องกง กรณี ตอน Donald Trump เป็นประธานาธิบดีอยู่ พวก ส.ว. ในพรรค Republican ก็เคยออกมาประกาศจุดยืนทางการเมืองตั้งหลายครั้ง
2
ถ้าถามว่ามีผล Effect อะไรต่อไทยที่ควรจะต้องระวังไหม ผมคิดว่าตอนนี้ยังไม่น่าจะมี เพราะ Joe Biden เคยประกาศ Commitment หรือแนวทางทางนโยบายไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าเขาจะเดินหน้ากดดันจีนต่อ จึงเป็นไปได้น้อยมากที่ Biden จะเข้ามาเล่นงานไทย เพราะเรื่องการประท้วง หรือการปราบปรามผู้ชุมนุมด้วยการยิงปืนฉีดน้ำแรงดันสูงนี้
3
อย่างที่บอกนั่นแหละ ว่ามันคือการเมืองระหว่างประเทศ ขณะนี้อเมริกายิ่งต้องการมิตรมากกว่าศัตรู เพราะในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา Trump ทำให้แนวร่วมของสหรัฐอเมริกาเสียขบวนไปเยอะ ทั้งเยอรมนี ฝรั่งเศส แคนาดา และญี่ปุ่นต่างก็มองอเมริกาอย่างหวาดระแวง ในระยะใกล้ๆนี้ Biden คงไม่คิดจะมาลงโทษ หรือกดดันไทยด้วยมาตรการอะไรรุนแรงหรอก ไม่งั้นแนวร่วมในขั้วลิเบอรัลมันจะลดลงเปล่าๆ Biden ยังต้องใช้แนวร่วมดังกล่าวนี้ในการปิดล้อมจีนต่ออีก 4 ปีข้างหน้า
2
อย่างไรก็ดี ที่ผมอยากจะให้ภาครัฐ หรือฝ่ายนโยบายของไทยที่จำเป็นต้องประเมินภัยคุกคามจากนอกประเทศนั้น พึงระวังไว้หน่อยในช่วงหลังๆนี้ แม้ว่ารัฐบาลของ Joe Biden จะยังไม่เริ่มเข้ามาบริหาร (กว่าจะเข้ามาบริหารจริงๆก็เดือนหน้านู้น) แต่อย่าลืมว่าทีมงานด้านนโยบายต่างประเทศ และยุทธศาสตร์การทูตของ Joe Biden มันค่อนข้างจะลงตัวกันแล้ว ว่าจะเป็นใคร กลุ่มไหน
1
โอกาสที่ทีมงานด้านนโยบายต่างประเทศชุดใหม่นี้ จะล็อบบี้ Joe Biden ให้เปลี่ยนความเอนเอียงทางนโยบายมาหาเรื่องไทยในอนาคตอันใกล้นี้ก็พอมี อย่างสัปดาห์ก่อนก็มีการแกล้งปล่อยข่าวซ้ำถึงนโยบายของ Biden ว่าจะจัด Summit ของประเทศที่มีอุดมการณ์คล้ายสหรัฐอเมริกา เป็นการเชิญผู้นำประเทศประชาธิปไตยเข้าพบและร่วมประชุมกับ Joe Biden เพื่อแสดงออกทางสัญลักษณ์กัน
1
ตรงนี้จึงค่อนข้างพึงระวัง และเตรียมรับมือ เพราะถ้าหากเขาล็อบบี้คนในทีมของ Biden ให้หันมาสนใจประเด็นเรื่องไทยได้ ก็อาจจะมีการออกมาตรการกดดันบางชุดกับไทยได้ ช่วงหลังๆนี้ไปจนถึงปีหน้า 2021 ถ้ามีการชุมนุม รัฐบาล และฝ่ายความมั่นคงก็ควรจะสงวนท่าทีให้มาก อย่าไปฉีดน้ำมั่วซั่ว เพราะเขาตามดู ตามหาเรื่องอยู่
โฆษณา