13 ธ.ค. 2020 เวลา 09:34 • ไลฟ์สไตล์
การเสียอะไรไปสักอย่างทำไมเราต้อง ยึดเอาแต่ความทุกข์ ทั้งที่ความสุขมันมีในตัวของมันเอง
คนเรามันวิ่งหาความทุกข์เมื่อเกิดการสูญเสีย
บ่อยครั้งที่เราดิจมไปกับการเสียอะไรไปสักอย่างแล้วผมที่ตามมาคือการจมให้มายาแห่งความเศร้าสุดท้ายจองจำกักขังเราอยู่ในปมนั้น และ มักเอาเป็นข้ออ้างของการไม่ตื่นสู่โลกใบใหม่หรือโลกหลังการสูญเสีย.
บทเรียนจากการสูญการเสียแม่ ผู้เป็นสุดที่รักของผมที่เพิ่งจะผ่านมาไม่นานมานี้เอง ผมใช้เวลากับการทบทวน หาความจริงและหนทางสารพัด เพื่อหาคำตอบสนอง กับความรู้สึกการไม่ยอมรับการจากไปของคุณแม่ อย่างชอบธรรมให้ตัวเอง..
บางครั้งเอาเอามาเป็นภาพจำของคนหลาบจำกับอะไรสักอย่าง "จนเป็นหนทางสู่การปิดกั้น"
วินาที่ที่ จิตใจของผมได้บันทึกภาพจำ ว่าไม่มีแม่อีกแล้ว ในนาทีนั้น เวลา 15.38 น. ของวันที่ 30 พฤษภาคม 2563 ซึ่งผมมารู้ตัวภายหลังร่วมๆ 30 นาทีจากนั้น ผมยอมรับว่าสภาวะสมองและจิตใจตอนนั้นเป็น 0 คือมึนงงไม่รับรู้ใดๆ.
ถึงแม้นาทีที่ผมและ พี่ชายเป็น คนกำหนด ภายใต้การตกลงกัน สองพี่น้อง ที่ยากต่อการยอมรับว่า "เราต้องปล่อยแม่ไป"
สภาพภายนอกของผม ได้แต่ เดินไปตามคำแนะนำของญาติพี่น้อง ที่ต้องมุ่งไปที่การจัดงานบำเพ็ญกุศลให้ดีที่สุดเพื่อแม่จะได้ดำเนินไปสู่โลกหลังความตาย
แต่ ตอนผมทำทุกๆอย่างอยู่ในเงื่อนไขเดียวทำทุกอย่างดีที่สุดเพื่อแม่ ซึ่งผมและพี่ชาย เราต่างทำตามพิธีความเชื่อทางศาสนา ไปตามขนบธรรมเนียมและประเพณี อันพึงกระทำ
โฆษณา