28 ธ.ค. 2020 เวลา 04:00
โฟกัสเทรนด์การลงทุนน่าสนใจปี 2021 กระแสไหนปัง ตลาดไหนกำลังมา และสินทรัพย์ไหนโดดเด่นจนต้องจับใส่พอร์ตกันบ้าง ไปดูกัน
แต่ก่อนจะไปอัปเดตเทรนด์การลงทุนในปีหน้านั้นเราได้สรุปสถานการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่สำคัญในปีนี้ มาให้แฟนๆ Blockdit ทุกท่านแล้ว 💡
✅สรุปสถานการณ์เศรษฐกิจปี 2020
ตลอดทั้งปี 2020 โลกเผชิญกับวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกเกิดการชะงัก จนเกิดภาวะ Risk-off ทั่วโลกในเดือน มี.ค. และนักลงทุนต่างหันมาถือเงินสด ส่งผลให้ธนาคารกลางและรัฐบาลหลายประเทศต่างเร่งออกมาตรการเพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาด ทั้งนี้ เห็นการฟื้นตัวแรงหลังปลดล็อกดาวน์ในเดือนแรก ๆ และเริ่มชะลอภายใต้จำนวนผู้ติดเชื้อที่ยังเพิ่มขึ้น แต่ข่าวความคืบหน้าของการพัฒนาวัคซีนที่ออกมาเรื่อย ๆ ทำให้นักลงทุนมีความหวังต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจแบบรวดเร็ว และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนจะกลับมาฟื้นตัวในปีหน้า อีกทั้งความชัดเจนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในช่วงปลายปี ช่วยหนุนสภาวะตลาดการลงทุน 🚩
IMF มีมุมมองที่ดีขึ้นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ปรับเพิ่มคาดการณ์เติบโตปี 2020 จากเดิมที่ -4.9% มาอยู่ที่ -4.4% โดยกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วจะหดตัว -5.8% ขณะที่ฝั่งกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (Emerging Markets) จะทำได้ดีกว่า หดตัวเพียง -3.3% ทั้งนี้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์เศรษฐกิจโลกจะเติบโตได้ประมาณ 5% ในปีหน้า แรงหนุนหลักมาจากกลุ่มตลาดประเทศเกิดใหม่อย่างจีนและอินเดียที่อาจขยายตัวได้กว่า 8% โดยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังมีทิศทางที่ดีแม้จะเริ่มแผ่วลงจากช่วงก่อนหน้า มีเพียงจีนที่ระดับการขยายตัวใกล้เคียงก่อนการระบาด ขณะที่สหรัฐฯ น่าจะกลับมาได้ในปีหน้า ส่วนยุโรปกับญี่ปุ่นยังต้องใช้เวลา 2-3 ปี 🧑‍🦳
✅มุมมองการลงทุนที่น่าสนใจในปี 2021
จากมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ นโยบายผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางต่าง ๆ ทั่วโลก ความคืบหน้าเรื่องการผลิตวัคซีน รวมถึงนโยบายการบริหารของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่นั้น ส่งผลให้ภาพรวมของเศรษฐกิจโลกเริ่มปรับตัวดีขึ้น และผลักดันให้ภาคธุรกิจเติบโตขึ้นด้วยเช่นกัน มีข้อมูลที่น่าสนใจจากศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย ได้เปิดเผยถึง 5 อันดับธุรกิจดาวรุ่งปี 2021 ได้แก่ 1)ธุรกิจบริการทางการแพทย์และ E-Commerce 2)ธุรกิจแพลตฟอร์ม จัดทำคอนเทนต์ 3)ธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต 4)ธุรกิจเครื่องมือแพทย์ เวชภัณฑ์ ยา และ 5)ธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีวิเคราะห์และจัดการข้อมูล เพราะได้อานิสงส์จากเหตุที่กล่าวมาข้างต้นเต็ม ๆ และมีโอกาสเติบโตไปได้ไกลในอนาคตแน่นอน ✨
#มุมมองตราสารหนี้ ⭐️
นักวิเคราะห์คาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับต่ำสอดคล้องกับธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยเฟดส่งสัญญาณคงไว้ที่ระดับ 0 – 0.25% ไปถึงอย่างน้อยสิ้นปี 2023 ทั้งนี้ หากเศรษฐกิจไทยยังเปราะบางจากการที่เปิดรับนักท่องเที่ยวล่าช้ากว่าคาด อีกทั้งการที่ภาคส่งออกของไทยฟื้นตัวช้ากว่าประเทศอื่นในภูมิภาค จึงอาจมีแนวโน้มปรับลดอีก 1 ครั้งในไตรมาสแรกของปี 2021
1
#มุมมองหุ้น 🌟
ทิศทางตลาดหุ้นโลกจะได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ดี การเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการเงินและการคลัง อัตราดอกเบี้ยที่คาดว่ายังอยู่ในระดับต่ำต่อไปอีกจนทำให้เกิดภาวะนักลงทุน Search for Yield สภาพคล่องที่ยังสูง อีกทั้งความสำเร็จในการผลิตวัคซีน ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามยังคงหนีไม่พ้นการระบาด ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศต่าง ๆ ที่อาจกดดันตลาดเป็นระยะ ๆ
🚩 ซึ่ง KAsset มีมุมมองเป็นบวกต่อ #หุ้นกลุ่มนวัตกรรมและเทคโนโลยี เพราะในช่วงที่โควิด-19 ระบาดหนัก ผู้คนหันมาใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวันมากขึ้น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องจึงได้รับประโยชน์ไปเต็ม ๆ ส่งผลให้มูลค่าบริษัทของหุ้นกลุ่มนี้เติบโตแบบก้าวกระโดด แม้ราคาหุ้นกลุ่มนี้จะปรับตัวขึ้นมาเยอะและผันผวนในช่วงนี้ แต่นักลงทุนจะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการขยายตัวทางธุรกิจที่ยังมีโอกาสเติบโตในระยะยาว 🟢
📍นอกจากนี้ ยังมีมุมมองเป็นบวกต่อหุ้นเอเชีย โดยเฉพาะเอเชียเหนืออย่าง #หุ้นจีน เพราะจีนเน้นการพึ่งพาเศรษฐกิจภายในประเทศ ด้วยการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ความก้าวหน้าของ 5G หรือนวัตกรรมที่ล้ำสมัย ประกอบกับราคาหุ้นที่อยู่ในระดับที่น่าสนใจ การเปิดโอกาสให้ต่างชาติเข้าไปลงทุนได้มากขึ้น รวมถึงมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้หุ้นจีนมีความโดดเด่นจนต้องจับใส่พอร์ตเลยทีเดียว 🇨🇳
🚩จากปัจจัยสนับสนุน อัตราการเติบโต และภาพรวมของธุรกิจ ส่งผลให้หุ้นต่างประเทศมีความน่าสนใจ และเหมาะกับการลงทุนในปี 2021 มากทีเดียว เพื่อรับผลตอบแทนแบบเน้น ๆ แถมยังดันให้พอร์ตเติบโตจากการพัฒนาธุรกิจที่อยู่ในหุ้นดังกล่าวอีกด้วย 😃
⚡️📍หากนักลงทุนท่านใดที่สนใจ KAsset ก็มีกองทุนที่ลงทุนในหุ้นต่างประเทศดังกล่าว เช่น กองทุน K-CHINA ที่ลงทุนในหุ้นจีนทุกชนิดที่มีคุณภาพสูง (High Quality)✨ และอยู่ในกลุ่มธุรกิจใหม่ (New Economy) เช่น กลุ่ม IT หรือ Healthcare และกองทุน K-CHANGE ที่เน้นลงทุนในหุ้นนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ต่อโลก เพื่อเป้าหมายการเปลี่ยนโลกให้ดีขึ้นพร้อมโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีด้วย ส่วนใครที่ต้องการลดหย่อนภาษี ก็ยังมีกองทุน K-CHINA-RMF กองทุน K-CHANGE-RMF และ K-CHANGE-SSF เป็นทางเลือกในการลงทุนอีกด้วย
#KAsset
โฆษณา