คาถา '5 ประการ' พ้นภัยแชร์ลูกโซ่ (ฉบับบ้าน ๆ อ่านได้)
เปิดศักราชใหม่ 2564 มาได้แค่ 2 อาทิตย์ ควันหลงเทศกาลแห่งความสุขก็จางหายไปตามกาลเวลา ตรงข้ามกับตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศไทยที่รักยิ่ง ที่ยังคงพุ่งปรี๊ดทวีคูณ
The Serious - 5 No and you are free from Ponzi scheme
ท่ามกลางความยากลำบาก ผู้คนและร้านค้าต่างต้องปรับตัว พนักงานบริษัทต้องเรียนรู้การทำงานระยะไกล (Work from home) ร้านค้าเอกชนต่างปรับตัวรับมือเศรษฐกิจซบเซาที่ดูจะรุนแรงมากขึ้น เพื่อเอาตัวรอดไปให้ได้
แน่นอนว่า 'คนไม่ดี' ก็ปรับตัวอย่างรวดเร็วไม่แพ้กัน สารพัดกลโกง คำโฆษณาชวนเชื่อ สร้างเรื่องราวทางธุรกิจยุคใหม่ ทุกอย่างเพียงเพื่อทำให้คน 'หลงเชื่อ' และ 'เอาเงินไปใส่' ในเรื่องราวหลอกลวงเหล่านั้น
เชื่อหรือไม่ ไม่ว่าท่านจะเป็นศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัย นายแพทย์ชื่อดัง นักการเมืองหรือนักธุรกิจใหญ่โต คนหาเช้ากินค่ำทั่วไป ไปจนถึงผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน ต่างเคยเป็นเหยื่อการลงทุน 'แชร์ลูกโซ่' กันถ้วนหน้า
วันนี้จึงมาขอเผยแพร่ คาถา (เดอะซีเรียส) 5 ประการ พ้นภัยสูญเงินฟรี
1. ไม่โลภ : อาจจะดูว่าเป็นอะไรพื้น ๆ แต่คนเราก็มักถูกกระตุ้นให้ตัดสินใจด้วยผลตอบแทนสูงลิ่วอยู่เสมอ ๆ
ดังนั้น ต่อจากนี้หากมีคำชักจูงให้ลงทุนแล้วโอ้อวดว่า "ผลตอบแทนสูงมากลงทุนสั้น ๆ ก็ได้คืนหมดแล้ว... ได้ดอกสูงกว่าฝากแบงก์เป็นสิบเท่า... การันตีผลตอบแทนอย่างน้อยเท่านั้นเท่านี้เปอร์เซ็นต์..."
ก็ให้เอะใจเอาไว้ แต่ยังไม่ต้องไปบอกคนเชื้อเชิญ (ว่าเรารู้นะ) ไม่เช่นนั้น คนเหล่านี้จะหาวิธีชักจูงท่านในรูปแบบรุนแรงกว่าเดิมแน่นอน
2. ไม่ลงทุนเพราะคำบอกเล่าหรูๆ : เนื่องจากโลกเราเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มิจฉาชีพเหล่านี้ก็ติดตามกระแสโลกและพร้อมเอาประเด็นเหล่านั้น มาผูกโยงชักจูงให้เราหลงคารมตลอดเวลา
เช่น ช่วงนี้ราคาบิทคอย์น/คริปโตฯ ทั้งหลายกำลังพุ่งกระฉูด คนเหล่านี้ก็พร้อมจะนำประเด็นร้อนเหล่านี้มาโยงกับการลงทุนทันที เช่น 'ระดมเงินทุนเพื่อลงทุนในการสร้างเหมืองขุดคริปโตฯ' หรือ 'ตั้งเซิฟเวอร์ให้บริการพื้นที่จัดเก็บออนไลน์ (คลาวด์)' ไปจนถึง 'ลงทุนโดยโรบอทอัจฉริยะหรือ A.I.' เป็นต้น
3. ไม่เสี่ยงทั้งที่เดาไว้แล้วว่าเป็นแชร์ลูกโซ่ : ข้อนี้อาจดูแปลก แต่เชื่อไหมว่าคนจำนวนไม่น้อยที่สูญเงินเพราะแชร์ลูกโซ่นั้น คาดไว้แต่แรกแล้วว่า 'นี้อาจจะเป็นแชร์ลูกโซ่' แต่กลับเลือกลงทุนเพียงเพราะหวังว่า 'จะถอนกำไรออกมา' ก่อนวงล่มได้
โดยข้อท่านจงระลึกไว้ว่า 'โจรไวกว่าท่าน 1 ก้าว เสมอ'
4. ไม่ลงทุนผ่านตัวแทน/บุคคล บริษัทที่ไม่น่าเชื่อถือ : ขอให้ท่านจำไว้เลยว่า "ตัวแทนการลงทุนทุกประเภท (ย้ำว่าทุกประเภท) ในประเทศนี้" ต้องได้รับการอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการคลัง แบงก์ชาติ สำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.ฯ) เสมอ
เช่น ถ้าจะระดมทุนไม่ว่าจะขายหุ้น ขายตราสารต่าง ๆ ให้ประชาชนทั่วไป ก็จะต้องขออนุญาตสำนักงาน ก.ล.ต.ฯ/ แบงก์ชาติ อยู่เสมอ และมีที่ปรึกษาการเงิน (ซึ่งมักจะเป็นบริษัทหลักทรัพย์/ธนาคาร ทั้งหลาย) เป็นตัวแทนเสนอขายหน่วยลงทุนเท่านั้น
ดังนั้น ถ้าการลงทุนนั้น ไม่ได้ลงทุนผ่านบริษัทหลักทรัพย์ บริษัทจัดการกองทุนรวม สถาบันการเงินชื่อดังต่าง ๆ (อย่าลืมตรวจสอบชื่อสถาบันการเงินเหล่านั้นว่ามีจริงหรือไม่) แต่เป็นการจ่ายเงินสด โอนเงินให้บุคคล/บริษัท ก็พึงระวังไว้เถิดว่า มีโอกาสสูญเงินไม่น้อย
5. ไม่ลงทุนจนหมดตัว : เอาละ ถ้าท่านระลึกถึง 4 ข้อข้างต้นดีแล้ว แต่ยังจะตัดสินใจลงทุนในโครงการนั้น ๆ อยู่ ก็ขอให้ปฏิบัติตามข้อนี้ไว้เถิดว่า
"อย่าได้เอาเงินเก็บทั้งหมด หรือแม้กระทั่งกู้หนี้ยืมสิน ไปเพื่อลงทุน"
เพราะกฎเหล็กประการแรงของการลงทุนที่ดี คือการกระจายความเสี่ยงนั่นเอง ซึ่งอย่างน้อยถ้าท่านถูกหลอกขึ้นมา แม้ท่านจะต้องเสียใจ แต่ยังไม่ถึงขั้นทำให้ท่าน 'สิ้นเนื้อประดาตัว' นั่นเอง
ถ้าท่านทำตามทั้งหมดนี้แล้ว มิจฉาชีพยังไม่ยอมเลิกรา เราก็ขอมอบคาถาลับบทสุดท้ายเอาไว้ใช้ยามฉุกเฉินที่สุดว่า
"เงินของกรูว กรูวตัดสินใจเองได้ จบนะ""
ถ้าเราจะหยุดวงจรอุบาทว์แชร์ลูกโซ่แบบนี้ให้ได้ สิ่งเดียวที่พอหวังได้คือ ให้คนทั่วไป ระลึกถึงกฎเหล็ก 5 ข้อนี้ไว้ให้ดี แล้วท่านจะมีภัยคุกคามทางการเงินน้อยลงไปอีก 1 อย่าง....
แชร์คาถานี้ให้พ่อแม่พี่น้องและคนรอบตัวแล้วหรือยัง...
#TheSeriousการเงินการลงทุน
#ภัยร้ายการเงินใกล้ตัว
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
